พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 608

มือของจักรพรรดิจาวเหรินที่ถือตะเกียบกำแน่นขึ้น เอ่ยด้วยสีหน้าเขียวคล้ำว่า “ถ้าเจ้าพยักหน้าตกลงจัดการเรื่องนี้ ย่อมยืนยันว่าเจ้าไม่ใช่คนเช่นนั้น”

เซียวปี้เฉิงนิ่งเงียบ ไม่พูดจา

อาหารเลิศรสเต็มโต๊ะจู่ๆก็ไร้รสชาติขึ้นมาทันที ในตำหนักเต็มไปด้วยความกดดันและความเงียบ เขาไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากพระที่นั่งบำรุงฤทัยตั้งแต่เมื่อไหร่ กระทั่งลมเย็นพัดโชยมา จึงได้สติและความรู้สึกกลับคืนมาบ้าง

ฝ่ามือที่หยาบกร้านมีความอบอุ่นนุ่มนวลแทรกเข้ามา อวิ๋นหลินดึงมือเขาค่อยๆก้าวเดินอยู่ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

เดินมาจนถึงหน้ารถม้า ฝูกงกงเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “องค์รัชทายาท วันนี้ฝ่าบาททรงกริ้วจนพูดอย่างไม่ทันคิด ทรงอย่าได้นำไปใส่ใจเลย จะเป็นการทำให้พ่อลูกหมางใจกันเสียเปล่า”

เซียวปี้เฉิงหันกลับไปพยักหน้าด้วยท่าทีเหม่อลอย และไม่ได้พูดอะไร หมุนตัวขึ้นรถม้าไปก่อน

อวิ๋นหลิงหันกลับไปเอ่ยเสียงอบอุ่นว่า “กลางคืนอากาศหนาว ฝูกงกงรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

ฝูกงกงกลับไม่รีบร้อนจะกลับ “วันนี้พระชายารัชทายาทไม่ได้มีท่าทีโกรธฝ่าบาท ทำให้กระหม่อมรู้สึกประหลาดใจอยู่หลายส่วน”

“เดิมทีข้าก็คิดจะด่าสักคำสองคำ แต่พอนึกถึงพระเจ้าหลวง ก็แล้วไปเถอะ”

ตอนที่จักรพรรดิจาวเหรินเอ่ยคำพูดนั้นออกมา นางรู้สึกโกรธและปวดใจอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นเมื่อก่อนคงจะตอบโต้เหมือนที่เคยทำกับรัฐทายาทผู้เฒ่าซึ่งเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน ด่ากราดอย่างไม่เกรงใจไปแล้ว

แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย จิตใจของอวิ๋นหลิงเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รู้ตัว มีการเติบโตมากขึ้น

เมื่อก่อนขอแค่นางมีเหตุผลมากพอ ต้องตอกกลับจักรพรรดิจาวเหรินจนพูดไม่ออกแน่ แต่ตอนนี้นางไม่ได้หวังแค่ว่าตนเองจะได้รับความสะใจจากการด่าเท่านั้น ยังมีคนที่ต้องใส่ใจอีกมาก

เธอนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ใบหน้าของตาแก่น้อยที่จ้องมองภาพครอบครัว สายตาที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และความเจ็บปวด

“พระเจ้าหลวงหวังว่าพวกเขาพ่อลูกจะรักกัน พี่น้องสามัคคีกัน ปี้เฉิงพยายามอยากจะได้รับการยอมรับจากเสด็จพ่อมาตลอด ให้เขาสามารถสบายใจและผ่อนคลายลงบ้าง ถ้าเมื่อครู่ข้าทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น นั่นก็ยิ่งเป็นการผลักให้พวกเขาสองพ่อลูกยืนกันคนละฝั่ง ผลที่ตามมาจากเรื่องนี้จะยิ่งแย่ลง ชีวิตต่อจากนี้ไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขเลย”

อวิ๋นหลิงเบือนหน้าหันไปมองในรถม้า เงาร่างของเซียวปี้เฉิงดูโดดเดี่ยวมาก

เหมือนพระพันปี เขาก็ใส่ใจและมีความหวังว่าครอบครัวจะรักใคร่สามัคคีกัน และเพราะความใส่ใจ จึงทำให้ถูกทำร้ายจิตใจอย่างสาหัส

ถ้าทะเลาะกับจักรพรรดิจาวเหริน ก็ไม่ต่างอะไรกับการโรยเกลือไปบนแผลของเขา ดังนั้นเมื่อครู่อวิ๋นหลิงจึงไม่พูดอะไรทั้งสิ้น

แววตาของฝูกงกงมีแววดีใจอยู่หลายส่วน “พระชายารัชทายาทเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก องค์รัชทายาทก็เช่นเดียวกัน”

แต่จักรพรรดิจาวเหรินยังคงเป็นเหมือนวันวาน

เซียวปี้เฉิงกลับไปยังตำหนักบูรพา นั่งอยู่ข้างหน้าต่างเป็นเวลานานไม่ยอมเข้านอน นั่งเงียบอยู่นานก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนที่เรื่องเสี่ยวเฟิงทำให้แม่ข้าตายถูกเปิดเผย ตอนที่เขาสั่งประหารหญิงคนนั้น ข้าทั้งรู้สึกเสียใจและดีใจ เสียใจที่ท่านแม่ตายไปอย่างน่าสงสาร ดีใจที่เขาไม่ได้ปกป้องหญิงคนนั้น”

รุ่ยอ๋องไม่สามารถสร้างผลงานได้ในเวลาอันสั้น เขาไม่อยากจะทำให้องค์หญิงหกลำบากใจ ที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีแต่เซียวปี้เฉิงที่ได้รับตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาทแล้ว

เหตุผลที่ว่าทำไมต้องเลือกราชบุตรเขยจากสำนักศึกษาชิงอี้ ก็เพราะภายหน้าคนในนั้นจะเป็นคนของเซียวปี้เฉิงทั้งหมด ลูกศิษย์ทุกคนที่มาสมัครสอบล้วนเป็นผู้ที่สองสามีภรรยาคอยสนับสนุน สำหรับพวกเขาแล้วมีความหมายไม่ธรรมดา

ส่วนสำนักศึกษาใหญ่อีกสามแห่ง ไม่ช้าคงถูกปราบปราม กระทั่งล้างบาง

ถ้าหากองค์หญิงหกมีราชบุตรเขยที่มาจากสำนักศึกษาชิงอี้ จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกว่า นับว่าได้พึ่งพาเซียวปี้เฉิงอย่างแท้จริงแล้ว ในสายตาของคนภายนอกเป็นเช่นนี้

เขาอยากจะบอกให้ใต้หล้าได้รู้ พวกเจ้าดู แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะทำให้แม่บังเกิดเกล้าของรัชทายาทตาย เป็นคนชั่วที่มีความผิดมหันต์ แต่รัชทายาทนั้นก็ยังคงรักองค์หญิงเหมือนน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง ไม่เช่นนั้นคงไม่เลือกสรรคนในสำนักศึกษาชิงอี้มาเป็นราชบุตรเขย

หลังจากที่เข้าใจถึงแผนการในใจของจักรพรรดิจาวเหริน และความยุ่งเหยิงที่น่าอึดอัดใจ อวิ๋นหลิงได้แต่ถอนหายใจ ถ้าพ่อแม่ลำเอียงขึ้นมามันไม่มีเหตุผลและสติจริงๆ

ตาแก่ก็ไม่คิดซะบ้าง ถ้าหากเซียวปี้เฉิงจะรังเกียจและเย็นชาต่อองค์หญิงหกเพราะแค้นเรื่องที่ท่านแม่ถูกฆ่า ภายหน้าหากขึ้นครองบัลลังก์แล้ว อยากจะลงโทษอย่างไรก็ได้ไม่ใช่หรืออย่างไร

อวิ๋นหลิงยกมือขึ้นนวดให้เซียวปี้เฉิงที่ดูกลัดกลุ้มไม่มีความสุข จากนั้นก็กุมมือของเขาเอาไว้

“อย่ากลุ้มใจนักเลย พรุ่งนี้ข้าจะไปคุยกับเขา”

เซียวปี้เฉิงกลับพลิกมือมากุมมือของนางเอาไว้ บนใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวมีประกายตาแวววับ ส่ายศีรษะ “เสด็จพ่อทรงตัดสินอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะส่งองค์หญิงหกเข้ามาในสำนักศึกษาชิงอี้ ข้าย่อมไม่อาจให้เจ้าต้องติดอยู่ตรงกลางเรื่องนี้อย่างลำบากใจ เรื่องนี้พวกเรายังต้องคิดหาวิธีที่จะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ