พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 607

ตั้งแต่ครั้นโบราณกาล เพื่อป้องกันไม่ให้เครือญาติก้าวก่ายหรือยุ่งเกี่ยวการปกครอง ราชบุตรเขตที่แต่งกับองค์หญิงจึงไร้ยศหรือมียศประดับเท่านั้น

ราชบุตรเขยก็คือเขยแต่งเข้าในราชวงศ์ จะมีโชคชะตาหลังจากนั้นตามองค์หญิง

ทว่าองค์หญิงไม่เหมือนองค์ชาย พวกนางไร้อำนาจ ฉะนั้นบุรุษที่แต่งกับองค์หญิงจึงไม่มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน

วัตถุประสงค์การก่อตั้งสำนักศึกษาชิงอี้กับความคิดของจักรพรรดิจาวเหรินต่างกัน

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้ว เอ่ยปากปฏิเสธก่อน “เสด็จพ่อเองก็รู้ว่าเหตุใดข้ากับหลิงเอ๋อร์ถึงตั้งสำนักศึกษาชิงอี้ขึ้นมา ใช้เพื่อคัดเลือกผู้มีความสามารถเข้าราชสำนัก บัณฑิตพวกนั้นอนาคตต้องเป็นเสาหลักของบ้านเมือง หาใช่แหล่งคัดเลือกราชบุตรเขยไม่?”

เขากับอวิ๋นหลิงทุ่มกำลังทรัพย์มากเพียงนั้น จะบ่มเพาะให้บัณฑิตเหล่านั้นกลายเป็นเขยแต่งเข้าได้อย่างไร

ใช่ว่าเซียวปี้เฉิงจะดูแคลนเขยแต่งเข้าบ้าน แต่เป็นเพราะเป็นราชบุตรเขยแล้วไม่อาจรับราชการได้ นี่เป็นกฎที่ตั้งมาแต่แรกเริ่มแล้ว

“ข้าเข้าใจหลักการนี้ แต่สำนักศึกษามีลูกศิษย์สองร้อยกว่าคน หรงเอ๋อร์เลือกแค่คนเดียว คงไม่กระทบหนักกระมัง?”

สีหน้าจักรพรรดิจาวเหรินหนักอึ้ง วางตะเกียบแล้วเริ่มสาธยายขึ้นมา เขารู้ว่าสองผัวเมียคู่นี้ไม่ยอมง่ายๆ ทว่าเมื่อเห็นเซียวปี้เฉิงปฏิเสธอย่างไม่ลังเล เขาก็รู้สึกไม่สบอารมณ์

“พวกเจ้าสองคนคนหนึ่งเป็นพี่ชาย อีกคนเป็นพี่สะใภ้ เป็นครอบครัวเดียวกันก็ควรช่วยเหลือด้านการแต่งงาน พวกเจ้าพูดเพียงคำเดียวก็สิ้นเรื่อง เหตุใดจึงพูดยากเยี่ยงนี้? สำนักศึกษาชิงอี้พิเศษ ถึงพวกบัณฑิตในสำนักจะสำคัญ แต่จะสำคัญกว่าชีวิตการแต่งงานของน้องสาวเจ้าหรือ?”

“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ คนนอกจะสำคัญกว่าพี่น้องเชื้อสายเดียวกันได้อย่างไร?”

เซียวปี้เฉิงถอนหายใจยาว ๆ พูดอย่างจนปัญญา “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ แต่โยว่หรงสามารถเลือกได้หลายวิธี ขอแค่เสด็จพ่อรับสั่ง ลูกจะไม่ทำแบบผักชีโรยหน้าอย่างแน่นอน จะคัดเลือกราชบุตรที่เหมาะสมอย่างละเอียดพ่ะย่ะค่ะ”

“แต่บัณฑิตในสำนักศึกษาชิงอี้ไม่เหมือนกัน พวกเขามาสอบเข้าเพราะต้องการแสวงหาความก้าวหน้า หากอนาคตคนอื่นเห็นบัณฑิตที่จบจากสำนักศึกษาชิงอี้ไม่เข้ารับราชการ แต่ไปอยู่เฉย ๆ ในจวนองค์หญิงแล้วจะมองลูกกับหลิงเอ๋อร์ที่เคยประกาศเจตนารมณ์อย่างไร? แล้วอาจารย์ที่มาช่วยสอนในสำนักศึกษาจะคิดเช่นไร?”

เซียวปี้เฉิงคิดไม่ตก เมืองหลวงแคว้นต้าโจวมีบุรุษดีๆที่อายุไล่เลี่ยกันมากมาย ไยจึงต้องคัดเลือกจากสำนักศึกษาชิงอี้ด้วย

จักรพรรดิจาวเหรินฉลาดปานนั้น ไม่มีทางที่จะคิดไม่ถึงจุดนี้

ดังคาด สีหน้าจักรพรรดิจาวเหรินเริ่มไม่เป็นธรรมชาติ “งั้นก็...หากหรงเอ๋อร์เลือกคนได้แล้วก็ให้อีกฝ่ายลาออกจากสำนักศึกษา แบบนี้ก็หาข้อผิดพลาดไม่ได้แล้ว”

อวิ๋นหลิงได้ยินแล้วก็นึกขำ หาข้อผิดพลาดไม่ได้เสียเมื่อไหร่ มันผิดเต็ม ๆ ต่างหาก

อันนี้ก็เหมือนยุคปัจจุบันที่เด็กสาวยากจนได้ทุนการศึกษาเข้าเรียนในโรงเรียนดัง แต่กลับไปแต่งงานกับลูกเศรษฐีระหว่างเรียน จนต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน?

ผู้มีจิตกุศลที่ร่วมขันกันส่งเรียนกับโรงเรียนที่ต้องการปั้นหญิงสาวล้วนต้องเสียความรู้สึก ทุกคนจะผิดหวังกับสิ่งนี้จนยากจะรับได้

อวิ๋นหลิงหิวมาก เมื่อครู่เอาแต่ก้มหน้ากินข้าว ไม่ได้พูดแทรก บัดนี้กินอิ่มแล้วจึงได้วางตะเกียบลง

นางตรึกตรองชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย ซึ่งไม่ได้ถกเถียงกับจักรพรรดิจาวเหรินเหมือนแต่ก่อน “เสด็จพ่อพูดเป็นเล่นไป ไม่ดูว่าอีกฝ่ายยินยอมหรือไม่ก็ให้เป็นราชบุตรเขยแล้วหรือ? ไม่เท่ากับแย่งหรอกหรือ?”

“พูดขนาดนี้แล้วพวกเจ้าสองคนยังไม่ยอมอีกรึ?”

จักรพรรดิจาวเหรินกินข้าวไม่ลงแล้ว เขาเรียกมาคุยดี ๆ แต่สองผัวเมียกลับผลักกันปฏิเสธเขาคนละประโยค ไม่ไว้หน้าเขาเลย

เพลิงโทสะลุกโชนกลางใจเขา มองเซียวปี้เฉิงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แววตาเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง

“เมื่อก่อนพวกเจ้าถึงขั้นตั้งแต่เป็นอ๋อง มอบตำแหน่งให้เพียงเพื่อกงจื่อโยวกับเยว่หลงเย่จะได้แต่งงานกัน เรื่องผิดวิสัยแบบนี้ข้ายังปล่อยให้พวกเจ้าทำ แต่ตอนนี้ถึงตาหรงเอ๋อร์แล้วพวกเจ้ากลับไม่ยอม?”

“เจ้าสามเอยเจ้าสาม กงจื่อโยวบริจาคให้เจ้าสร้างสำนักศึกษา เจ้าก็ช่วยให้เขาได้แต่งงานกับองค์หญิงแห่งถังใต้ แต่พอหรงเอ๋อร์จะหาราชบุตรเขยแล้วส่งผลเสียต่อสำนักศึกษาเจ้า เจ้าก็ปฏิเสธกับข้า”

“หากเจ้าไม่รู้จักแบ่งแย่งว่าผู้ใดคือพี่น้องผู้ใดคือคนนอก เจ้าก็อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้งสิ?”

สิ้นเสียงพระที่นั่งบำรุงฤทัยพลันเงียบกริบ

เซียวปี้เฉิงรู้สึกโดนน้ำเย็นสาดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วหนาวเหน็บเข้าถึงหัวใจ

“เสด็จพ่อเห็นลูกเป็นคนแบบนี้หรือ?”

เขาทำงานทั้งในวังและนอกวังจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือคำตำหนิติเตียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ