ตอนที่รถม้าไปถึงสำนักศึกษาชิงอี้ เป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่าแล้ว
ในเวลานี้ เพิ่งจะสิ้นสุดเวลาพักกลางวันของลูกศิษย์ และเตรียมตัวจะทำการฝึกฝน
อวิ๋นหลิงพาองค์หญิงหกไปทานอาหารที่โรงอาหารก่อน จากนั้นก็ไปที่เรือนแห่งหนึ่งในหอพักโยวหราน เลือกห้องที่หันหน้าไปทางทิศใต้
หอพักโยวหรานเป็นหอพักสำหรับบุคลากรการศึกษา แบ่งพื้นที่ชายหญิงเช่นกัน
“ผู้ดูแลเจิ้ง องค์หญิงเพิ่งมาถึง ยังไม่คุ้นเคยกับสำนักศึกษา รบกวนท่านช่วยพวกเราดูแลนางด้วย”
ผู้ดูแลเจิ้งรีบพยักหน้ารับทันที ตอบรับด้วยรอยยิ้มว่า “องค์หญิงวางใจได้ การใช้ชีวิตของพวกเราที่นี่ไม่ต่างจากในเมืองเลย”
“การเดินทางปกติแล้วสามารถใช้รถม้าได้ ในตลาดเล็กๆมีสิ่งของทุกอย่าง ช่วงที่ผ่านมายังเพิ่มร้านซักผ้าขึ้นมา คนที่ทำงานในร้านล้วนเป็นหญิงชาวนาจากหมู่บ้านที่อยู่ตีนเขา ถ้าวันธรรมดามีงานยุ่งมาก จ่ายเงินสักหน่อยจ้างพวกนางช่วยซักผ้าก็ได้”
ผู้ดูแลเจิ้งคาดว่าองค์หญิงท่านนี้คงไม่เคยทำงานอะไรมาก่อน แต่ก็คงมีแต่เรื่องปัจจัยสี่เท่านั้น คนทั่วไปจะใช้เวลาปรับตัวสักพักก็จะสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
องค์หญิงหกพยักหน้า เห็นเรือนหลังนี้เรียบง่าย แต่ก็สะอาดสะอ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายอย่างบอกไม่ถูก
ดอกหอมหมื่นลี้ในเดือนเก้าส่งกลิ่นหอมโชยมา มองเห็นแมวสีดำตัวหนึ่งที่อยู่ใต้ต้นดอกหอมหมื่นลี้ซึ่งอยู่กลางลานบ้าน นางอดไม่ได้ที่จะอุทานเบาๆออกมาอย่างตื่นเต้น เดินเข้าไปอุ้มมันขึ้นมา
ผู้ดูแลเจิ้งรีบพูดขึ้นว่า “นี่เป็นแมวที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเมื่อสองสามวันก่อน บางทีอาจจะพลัดจากแม่ของมัน ถ้าหากองค์หญิงชอบ สามารถเลี้ยงมันไว้เป็นเพื่อนได้”
องค์หญิงหกพยักหน้าทันที ในเวลานี้เพิ่งจะเผยท่าทีสดใสที่เหมาะสมต่ออายุออกมา “ในเมื่อเป็นแมวที่ไม่มีใครเอา เช่นนั้นก็ให้ข้าเลี้ยงเถอะ”
อวิ๋นหลิงก็รู้สึกว่าเลี้ยงแมวสักตัวก็ไม่เลว สำหรับองค์หญิงหกในตอนนี้ที่มีสภาพจิตใจไม่ค่อยจะดีนัก จะมีผลในการรักษาและคลายความเครียด
บางทีอาจเป็นเพราะมีแมวเป็นเพื่อน องค์หญิงหกดูผ่อนคลายลงมามาก ไม่ระมัดระวังตัวมากเกินไปเหมือนตอนแรก
ไม่ช้าเซียวปี้เฉิงก็มาส่งยาที่เอามาจากโรงหมอสำนักศึกษา “นี่เป็นธูปหอมคลายอารมณ์และธูปหอมทำให้นอนหลับ จุดตอนกลางคืนจะทำให้นอนหลับง่าย ไม่รู้ว่าเจ้าชื่นชอบกลิ่นอะไร จึงเอามาให้อย่างละห่อ”
“ขอบคุณพี่สาม”
องค์หญิงหกก้มหน้าลงอย่างรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เมื่อก่อนตอนที่เซียวปี้เฉิงตาบอด นางไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยพี่สามที่มีท่าทีเย็นชาคนนี้เลย และตอนนี้แม้ตระกูลเฟิงจะปฏิบัติต่อเขาเช่นนั้น เขากลับปฏิบัติต่อนางเหมือนปกติ
อาศัยจังหวะที่ผู้ดูแลหอพักช่วยองค์หญิงหกจัดการสัมภาระที่เอาติดตัวมา อวิ๋นหลิงก็เดินเล่นไปรอบๆประตูหอพักโยวหราน สังเกตเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยอย่างไม่ตั้งใจ
“เจ้าเป็นบุคลากรในสำนักศึกษาหรือ”
ไม่ไกลออกไปนัก หนุ่มน้อยรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังกวาดใบไม้ที่อยู่บนกระเบื้องหินปูทาง อีกฝ่ายหน้าตาค่อนข้างงดงาม ท่าทีสดในเป็นกันเองมาก
เส้นผมยาวสลวยทิ้งตัวกลางแผ่นหลัง เส้นผมครึ่งศีรษะบนถูกมัดไว้หลวมๆด้วยผ้าสีม่วง ภายใต้ความงดงามประณีตแฝงไปด้วยความสบายๆ
ผู้ดูแลเจิ้งรีบแนะนำขึ้นมาทันทีว่า “พระชายารัชทายาท นี่เป็นคนกวาดพื้นที่เพิ่งจะรับสมัครเข้ามาเมื่อสามวันก่อน เขาชื่อไป๋ซาน”
ไป๋ชวนมองผู้หญิงหน้าตาสวยงามที่อยู่ตรงหน้า เผยรอยยิ้มกว้างออกมา “คำนับพระชายารัชทายาท”
อวิ๋นหลิงมองวิเคราะห์เขาอยู่ครู่หนึ่ง สายตามองไปที่ข้อมือของเขา พบว่าบริเวณแขนเสื้อมีเครื่องประดับเงินโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
หลังจากยิ้มจางๆ ก็ถามขึ้นมาว่า “เจ้าอายุยังน้อย ทำไมไม่หาอาจารย์ในเมืองเพื่อเรียนรู้งานฝีมือเล่า แต่กลับมาเป็นคนกวาดพื้นในสำนักศึกษาชิงอี้แทน”
ไป๋ชวนกะพริบตา ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าสนใจในสำนักศึกษาชิงอี้ แต่เสียดายที่มีความสามารถไม่มากพอ สิ่งที่เรียนรู้มีจำกัดจึงสอบไม่ผ่าน ดังนั้นจึงมาสมัครงานที่นี่เป็นการเฉพาะ ในขณะที่ทำงาน ก็สามารถเรียนรู้ไปด้วย หวังว่าปีหน้าจะสอบเข้าที่นี่ได้”
อวิ๋นหลิงชมเขาอย่างเห็นด้วย “ไม่เลว เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก วันธรรมดาสามารถไปนั่งที่ห้องสมุดได้ อวยพรล่วงหน้าให้เจ้าสอบเข้าสำนักศึกษาได้สำเร็จ”
ไป๋ชวนกล่าวขอบคุณเสร็จ ก็ยกไม้กวาดเดินห่างออกไป
อวิ๋นหลิงมองตามแผ่นหลังของเขา ค่อยๆเก็บรอยยิ้ม รีบเดินไปข้างกายเซียวปี้เฉิงและพูดเสียงต่ำว่า
“ในสำนักศึกษามีคนชื่อไป๋ซาน หลังจากนี้ให้พวกเย่อีจับตาดูไว้ให้ดี”
บริเวณตีนเขา ในโรงเตี๊ยม
ไป๋ชวนถามขึ้นมาว่า “หลายวันมานี้เจ้าไปทำอะไรมา”
เฟิงอิ๋งอิ๋งที่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง เอ่ยเสียงเย็นว่า “ก่อนหน้านี้กลุ่มราชทูตของแคว้นถังใต้เดินทางออกจากเมืองหลวง ข้าได้แอบซุ่มตามไป ฆ่าพวกเขาจนหมดแล้ว”
ไป๋ชวนขมวดคิ้ว “เหลวไหลจริงๆ ทำไมเจ้าจึงฆ่าคนของแคว้นถังใต้ในดินแดนแคว้นต้าโจว”
“แล้วอย่างไรเล่า ท่านวางใจเถอะ ข้าวางยาพิษในน้ำของพวกเขา ไม่มีใครรู้ว่าเป็นข้าแน่”
เฟิงอิ๋งอิ๋งพูดอย่างไม่ยี่หระ แล้วก็ทำสีหน้าแค้นใจขึ้นมา
“ข้าจากไปแค่ไม่กี่วัน เยว่หลงเย่นางคนชั้นต่ำก็เข้าไปอยู่ในจวนอ๋องจินแล้ว ช่างอดทนรอไม่ได้จริงๆ ข้าว่าแล้วท่าทีที่นางมีต่อกงจื่อโยวก่อนหน้านี้ ใช้ กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับนี่เอง นางผู้หญิงจอมปลอม”
“ทำไม ขั้นต่อไปเจ้าจะไปฆ่าเยว่หลงเย่หรืออย่างไร”
เฟิงอิ๋งอิ๋งทำเสียงขึ้นจมูก “สาวกประกาศิตป้ายแดงทั้งสี่ล้วนอยู่แถวๆนี้ ข้าย่อมไม่กระทำการบุ่มบ่าม”
แต่แตะต้องเยว่หลงเย่ไม่ได้ ก็แตะต้องคนอื่นได้มิใช่หรือ
จะถึงงานแต่งงานของโม่อ๋องแล้ว คนกลุ่มนี้ที่รังเกียจราชวงศ์ซีโจวอย่าคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีเลยแม้แต่คนเดียว ในเมื่อกล้าช่วยเหลือให้เยว่หลงเย่ได้แต่งงานกับกงจื่อโยว ก็อย่าหาว่านางไม่เกรงใจแล้วกัน
“แล้วท่านล่ะ ตอนที่ข้าไม่อยู่ ท่านทำอะไรคืบหน้าบ้างหรือไม่”
“อ๋อ ข้าไปทำงานกวาดพื้นที่สำนักศึกษาชิงอี้แล้ว”
ไป๋ชวนหยิบแมงป่องทอดขึ้นมากิน เคี้ยวไปสองคำก็คายออกมา “เอ๋ ก็แค่สามวันเท่านั้น ข้ากลับกินอาหารเลิศรสของบ้านเกิดไม่ได้แล้ว ต้องโทษพวกเขาที่ทำอาหารอร่อยเกินไป”
เฟิงอิ๋งอิ๋ง “???”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...