ในใจเซียวปี้เฉิงรู้สึกสงสัยใคร่รู้ เด็กคนนี้ซ่อนอะไรไว้ลับหลังคนอื่น
แต่เขายังคงตบไหล่ลู่ฉีเบาๆ กล่าวปลอบใจสองสามคำ “ผ่อนคลายหน่อย ข้ารับปากเจ้า”
ร่างกายของอีกฝ่ายตึงเกร็ง เป็นผลจากการฝังเข็ม
ลู่ฉีได้รับสัญญาแล้วก็ผ่อนคลายลง กลอกตาเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวด
เซียวปี้เฉิงยืนขึ้นพูดกับอวิ๋นหลิง “พูดเพ้อเจ้อตั้งมากมายได้ในคราวเดียว ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรใหญ่โต”
“ตาแก่อย่างข้าเป็นหมอมาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ถึงจะไม่เก่งเท่านางหนูหลิงที่ชุบชีวิตได้อย่างกับเซียน แต่เด็กคนนี้ถูกส่งตัวมาทันเวลา จะไม่ตายหรอก”
อู๋อันกงว่าพลางหยิบชามจากโต๊ะข้างๆ ในนั้นมีแมงป่องถูกเหยียบย่ำตายอยู่สองสามตัว
“เจ้าสาม นางหนูหลิง ดูสิ!”
อวิ๋นหลิงสีหน้าตกใจเล็กน้อย “นี่คือพิษที่ต่อยลู่ฉีอย่างนั้นหรือ”
“ใช่แล้ว! พอเห็นบาดแผลของเจ้าเด็กนั่นแล้ว ข้าก็ให้สือจิ่วพาคนไปลาดตระเวนในตรอกรอบหนึ่ง แล้วพบเจ้าสิ่งนี้”
“แมงป่องชนิดนี้เรียกว่าแมงป่องหยกม่วง เป็นพิษเฉพาะถิ่นของเหมียวเจียง มีพิษร้ายแรงมาก เมื่อครั้งข้าไปเที่ยวแถบเหมียวเจียงสมัยหนุ่มๆ เห็นผู้คนทางเหนือกับทางใต้ใช้พิษมาสู้กัน คนที่ถูกกัดจะตายเพราะพิษในเวลาครึ่งก้านธูป!”
“พวกนี้เป็นเพียงแมงป่องตัวอ่อน ไม่มีพิษมากนัก ด้วยเหตุนี้เด็กอย่างลู่ฉีจึงโชคดี มีชีวิตรอดจนส่งมาถึงมือข้า”
นอกจากนี้ สมัยอู๋อันกงยังหนุ่มเคยศึกษาพิษแมงป่องชนิดนี้พอดี ดังนั้นจึงรู้วิธีรักษา
ตงชิงฟังแล้วรู้สึกหวาดหวั่นไปชั่วขณะ เด็กหัวทึบอย่างลู่ฉีก็เพิ่งเฉียดตายผ่านพญายมไปอย่างนั้นสินะ?
เซียวปี้เฉิงได้ยินแล้วสีหน้าก็ค่อยๆ เริ่มจริงจัง ก้นบึ้งดวงตาวาบผ่านไอสังหาร
“เหมียวเจียง...เหมียวเจียงอีกแล้ว ก่อนหน้าก็เลี้ยงงูพิษเป็นหลุม ตอนนี้ปล่อยแมงป่องพิษมาต่อยคนอีก”
อวิ๋นหลิงเอ่ยเสียงขึงขัง “พวกเขาพุ่งเป้ามาที่ใคร หรือจะเป็นหยวนโม่”
ทั้งสองมองหน้ากันปราดหนึ่ง ฝากให้ตงชิงดูแลอาการของลู่ฉี จากนั้นจึงหมุนตัวไปยังอีกห้องหนึ่ง
จื่อเถากำลังดูอาการโม่อ๋อง ตรวจสอบตรงนี้ทีตรงโน้นทีอย่างไม่สบายใจ
“เถาเอ๋อร์ ข้าไม่เป็นไรจริงๆ”
โม่อ๋องสีหน้าอับจนหนทาง หลังจากเห็นอวิ๋นหลิงกับสามี เขาก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว
“พี่สาม อาซ้อสาม!”
อวิ๋นหลิงก้าวเข้าไปในห้อง ถามเขาตรงประเด็น “หยวนโม่ ตอนนี้เจ้าจำเรื่องที่เกิดขึ้นในตรอกได้หรือไม่”
สีหน้าท่าทางของโม่อ๋องฉายแววสับสน มุ่นคิ้วแน่นพลางส่ายหน้า
“ข้าจำไม่ได้จริงๆ ข้าจำได้แค่ว่าจะไปรับเครื่องประดับของเถาเอ๋อร์ที่ร้านหลินหลาง ตอนเที่ยงไปใช้ห้องน้ำที่ตรอก พอฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในจวนอู๋อันกงแล้ว”
เขารู้แล้วว่าลู่ฉีได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี แต่ความทรงจำดูเหมือนจะขาดหายไปช่วงหนึ่ง เพียรพยายามนึกแค่ไหนก็จำไม่ได้
โม่อ๋องพยายามเค้นนึกอย่างหนัก “ข้าแค่รู้สึกรางๆ ว่าตัวเองเหมือนจะไปชนใครบางคนเข้า...แต่จำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ”
แปลกเหลือเกิน
เซียวปี้เฉิงสีหน้าตกใจเล็กน้อย ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง “อีกฝ่ายเป็นคนเหมียวเจียง ข้าได้ยินมาว่าในหมู่พวกเขามีคนใช้วิชามอมเมาเป็น...”
อวิ๋นหลิงเอ่ยเสียงเข้ม “ลองถามหลงเย่กับเศรษฐีหนุ่ม พวกเขารู้สถานการณ์ที่นั่นดีที่สุด”
นางเพิ่งใช้พลังจิตสำรวจดูจึงรู้ว่าไม่มีหนอนพิษกู่อยู่ในร่างกายของโม่อ๋อง
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ขณะสบตานางโดยไม่ทันตั้งตัว ความคิดของข้าก็คล้ายจะหยุดกึก เสียงของนางก็เป็นเอกลักษณ์มาก ข้ารู้สึกเหมือนอดไม่ได้ที่จะทำตามที่นางพูด…”
โม่อ๋องยังคงจำดวงตาที่เต็มไปด้วยหมอกขุ่นมัวคู่นั้นได้ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ เห็นท่าทางของอีกฝ่ายที่น้ำตาคลอเบ้าแทบจะรินไหล เขาก็รู้สึกราวกับเถาเอ๋อร์กำลังร่ำไห้ รู้สึกปวดใจอย่างอดมิได้
หลงเย่ใช้ความคิด “แค่พบหน้ากันครั้งเดียวก็สามารถทำเช่นนี้ได้ เท่าที่ข้ารู้ มีเพียงตระกูลฟงในหนานเจียงที่ทำได้ ตระกูลฟงอ้างว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายของเทพธิดาหนี่วา เดิมทีราชวงศ์ของเหมียวเจียง ชาวเหมียวเจียงไม่น้อยสามารถฝึกฝนวิชามอมเมาได้ แต่มีเพียงคนตระกูลฟงเท่านั้นที่รู้วิชายันต์ควบคุมวิญญาณแบบดั้งเดิมที่สุด!”
หลิงเฟยผู้ที่หลอกและควบคุมฮ้องเต้แคว้นถังใต้มานานกว่าสิบปี ศัตรูตัวฉกาจของนางก็คือลูกสาวตระกูลฟงที่ฝึกวิชายันต์ควบคุมวิญญาณผู้นี้
หลิงซูอดก้าวเข้าไปไม่ได้ “ท่านโม่อ๋องได้กลิ่นหอมจางๆ ก่อนจะเข้าใกล้อีกฝ่าย ไม่รู้สึกว่าหอมหวานหรือ”
เขาเกิดมามีประสาทรับกลิ่นที่ต่างจากคนทั่วไป รู้สึกไวเป็นพิเศษ ได้กลิ่นที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อยบนร่างของโม่อ๋องแล้ว
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” โม่อ๋องดูประหลาดใจ
“เพราะข้าได้กลิ่นหอมของดอกลำโพงที่ติดตัวท่านอยู่”
หลิงซูยืนตัวตรง มองไปทางกงจื่อโยวทำท่าร้อนใจเหมือนมีอะไรจะพูด “ปลูกดอกลำโพง เลี้ยงแมงป่องหยกม่วง และรู้จักวิชายันต์ควบคุมวิญญาณ หญิงผู้นั้นคือ...ฟงอิ๋งอิ๋งใช่หรือไม่ ไล่ตามท่านไปจนถึงแคว้นซีโจวเลย?”
กงจื่อโยวได้ยินชื่อนี้ ใบหน้าพลันเหยเก “เจ้าปากเสียเลิกพล่ามส่งเดชได้แล้ว!”
สิ้นเสียง เขาก็ปราดมองหลงเย่อย่างตกประหม่า
สีหน้าท่าทางของหลงเย่ยังคงเหมือนเดิม เสียงก็อ่อนโยนและนุ่มนวล “เศรษฐีหนุ่ม ท่านข่มขู่หลิงซูทำไม เขาพูดถูกนี่นา คนเดียวที่ตรงตามเงื่อนไขทั้งสามข้อนี้เลยก็คือน้องอิ๋งอิ๋งของท่าน”
น้ำเสียงของนางเป็นไปตามปกติ ทว่ากลับทำให้กงจื่อโยวรู้สึกกระสับกระส่าย ขนลุกซู่ไปทั้งแผ่นหลัง
อวิ๋นหลิงหรี่ตาลง เงี่ยหูฟังอย่างรวดเร็ว
หืม? ดูเหมือนจะเจอจุดไต้ตำตอเข้าเสียแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...