พูดตามเนื้อผ้า ความจริงกงจื่อโยวเห็นอกเห็นใจฟงอิ๋งอิ๋งอยู่มาก
ถึงแม้ประเพณีของเหมียวเจียงจะแตกต่างจากดินแดนจงหยวน แต่หญิงชาวเหมียวคนใดก็ตามมีสิทธิ์ปฏิเสธผู้ชายที่มาขอร่วมสังวาสด้วยได้ แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำได้
สตรีศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน พูดตรงๆ ก็คือนางคณิกาที่ไม่ต้องเสียเงิน
หากฟงอิ๋งอิ๋งเอ่ยปาก กงจื่อโยวก็ยินดีช่วยนางหลบหนีจากหนานเจียงโดยเห็นแก่ที่รู้จักกันมาหลายปีแล้ว
แต่ฟงอิ๋งอิ๋งไม่ต้องการ ทางหนึ่งตัดใจทิ้งศักดิ์ศรีและความสูงส่งในฐานะราชวงศ์ไม่ได้ อีกทางหนึ่งก็ไม่อยากตกเป็นเครื่องมือในการรวมอำนาจ
นางจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดโดยจะรวบหัวรวบหางกงจื่อโยว
อวิ๋นหลิงโน้มตัวไปถามโดยไม่รู้ตัว “เหตุใดนางจึงหลงใหลเรือนร่างของเจ้า”
กงจื่อโยวอ้ำๆ อึ้งๆ ชำเลืองมองหลงเย่ เป็นกังวลว่านางจะได้ยินความคิดในใจ ว่าแล้วเขาจึงท่อง ‘คัมภีร์วิสุทธิสูตร’ เงียบๆ
หลงเย่หยุดเล็กน้อยขณะดื่มชา ปรายตามองเขาเหมือนจะยิ้มก็ไม่เชิง
ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่กล้าปริปาก แต่หลิงซูกลับเปิดเผยกงจื่อโยวจนหมดเปลือก
“จะอะไรอีกล่ะ ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เรื่องทำนองอย่างว่านั่นแหละ”
กงจื่อโยวใบหน้าหม่นทะมึน “เลิกพล่ามเหลวไหลไร้สาระเสียที ข้ายังเป็นชายบริสุทธิ์ ต่อให้นางจะมีมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน แต่ข้าก็ไม่เคยให้นางแตะต้องแม้แต่ปลายก้อย!”
เซียวปี้เฉิงชักเริ่มสนใจขึ้นมา ในบางเรื่อง เขากับกงจื่อโยวก็หัวอกเดียวกันเป็นสหายคู่ทุกข์คู่ยาก
“สาวชาวเหมียวคนนั้นเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แล้วเจ้าหนีมาได้อย่างไร”
เอ่ยถึงอดีต ใบหน้าของกงจื่อโยวก็มีน้ำโห “หญิงอย่างฟงอิ๋งอิ๋งมากเล่ห์เพทุบาย ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ข้า สิ่งที่นางทำนั้นไม่เพียงเติมเครื่องเทศลงในสุรา วางยาพิษข่มขู่ ให้สาวกสำนักทิงเสวี่ยบังคับเอาชีวิตกันเอง ใช้กลิ่นหอมของดอกลำโพงควบคุมวิญญาณและอื่นๆ อีกเพียบ!”
อวิ๋นหลิงหลุดปากเรียกเขาว่านางตัวดี นี่เป็นวิธีการช่วงชิงแบบใช้กำลังนี่นา
ทันทีที่เอ่ยถึงหลิงซูก็สนใจขึ้นมา เริ่มเล่าอย่างละเอียดออกรสออกชาติมากทีเดียว
“พวกท่านไม่รู้ว่าหญิงผู้นั้นร้ายกาจแค่ไหน ตอนเจ้าสำนักน้อยไม่ทันได้เตรียมตัว นางก็เติมเครื่องเทศแรงๆ ลงในสุรา โชคดีที่กินยาออกฤทธิ์ชาด้านมากเกินไป เจ้าสำนักน้อยก็นอนหลับสามวันโดยไม่ตื่นขึ้นมา ก่อนจะหลบหนีผ่านเคราะห์กรรมนี้ไปได้”
“ตั้งแต่นั้นมาเจ้าสำนักน้อยก็เหินห่างกับฟงอิ๋งอิ๋ง แต่นางกลับทำให้สถานการณ์แย่ลง ถึงกับวางยาพิษเขา แต่มีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าสำนักน้อยย่อมปลอดภัย”
“ต่อมา นางเห็นว่าทำอะไรเจ้าสำนักน้อยไม่ได้ จึงเบนเป้าไปที่สาวกคนอื่นๆ ของสำนักทิงเสวี่ย ทำให้เราโกรธกันมาก”
เหตุที่หลิงซูเชี่ยวชาญด้านการแพทย์นั้นก็เป็นผลจากการฝึกฝนใช้พิษสู้กับฟงอิ๋งอิ๋ง
เรื่องบ้าระห่ำที่สุดที่ฟงอิ๋งอิ๋งเคยทำคือตอนที่นางเล่นงานเฉียงเวย เพราะนางเป็นหญิงคนเดียวในบรรดาสาวกประกาศิตป้ายแดง
“เวลานั้นเจ้าสำนักน้อยของเราเอาแต่หลบหน้านาง นางจึงหันเหพาเฉียงเวยไปยังหอนางโลม เจอชายร่างใหญ่กลุ่มหนึ่งพยายามบังคับให้เจ้าสำนักน้อยปรากฏตัวขึ้น...แต่พวกท่านก็รู้ว่าเฉียงเวยนั้นเป็นแม่เสือ ยากต่อแยด้วย”
‘คู่ขาเก่า’ ของเฉียงเวยสามารถพบได้ในทุกสำนักศาสนาและสำนักนักคิดต่างๆ โดยเฉพาะในหอคณิกาใหญ่ๆ
นายจ้างเหล่านั้นต่างตั้งตารอจะได้รับต้นฉบับหนังสือผู้ใหญ่ของเฉียงเวยทันที เพื่อชิงความได้เปรียบหากำไรก่อน ต่างบูชาเฉียงเวยเหมือนเทพธิดาแห่งความมั่งคั่ง ไหนเลยจะกล้าชี้นิ้วสั่งนาง
สุดท้ายฟงอิ๋งอิ๋งฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุนอีกต่างหาก จนบาดเจ็บหลบหนีไป
“หลังจากนางถูกเฉียงเวยทุบตี ก็เงียบไปนาน จนกระทั่งวันหนึ่งกลับมาตามตื๊อเจ้าสำนักน้อยอีก พวกเราจึงรู้ว่าที่แท้วิชายันต์ควบคุมวิญญาณของนางเริ่มสำแดงฤทธิ์บ้างแล้ว”
เซียวปี้เฉิงมองประเมินกงจื่อโยว “เจ้าถึงกับต้านทานคาถาอาคมของสาวชาวเหมียวได้ มองไม่ออกเลยว่าจะมีจิตใจแน่วแน่เช่นนี้”
เขาแสดงความเห็นอกเห็นใจและชื่นชมกงจื่อโยวอย่างสุดซึ้ง
“แล้วมีวิธีแก้หรือไม่”
หลงเย่พยักหน้าช้าๆ “มีก็มีอยู่ แต่อันตรายมาก ต่อให้ทำลายวิชายันต์ควบคุมวิญญาณไปแล้ว ก็จะทิ้งผลสืบเนื่องที่ยากจะย้อนกลับได้ ตั้งแต่ความจำเสื่อมไปจนถึงความจำสับสน กรณีร้ายแรงละก็ คนคนนั้นจะคลุ้มคลั่งหรือไม่ก็ปัญญาอ่อนไปเลย”
ฮ้องเต้แคว้นถังใต้โชคดีกว่าคนแรก เพราะสนมปีศาจยังต้องการให้เขาควบคุมราชสำนัก ไม่กล้าใช้กำลังมากเกินไป
ส่วนนางกำนัลอีกหลายคนที่ถูกควบคุมวิญญาณมานานหลายปี พอฟื้นคืนสติก็กลับกลายเป็นคนเสียจิตและโง่เขลา
น้ำเสียงของเซียวปี้เฉิงขึงขัง “หญิงบ้าผู้นี้สติฟั่นเฟือน เมื่อจับคนได้ จะกำจัดโดยเร็วที่สุด!”
อวิ๋นหลิงเหลือบมองกงจื่อโยวด้วยความกังวล “เดชะบุญที่เจ้าป่วย นางเลยทำไม่สำเร็จ แต่ตอนนี้เจ้าหายแล้ว ต้องระวังฟงอิ๋งอิ๋ง ผู้ชายต้องปกป้องตัวเองตอนอยู่ข้างนอก”
หัวใจของกงจื่อโยวสั่นสะท้าน ทันใดนั้นก็รูสึกว่าเท้าก็สั่นเทาเล็กน้อย
แต่เมื่อสังเกตสายตาของหลงเย่ เขาก็ยืดอกขึ้นทันที สาบานต่อฟ้าว่า “ไม่ต้องห่วง ถึงตอนนี้ข้าจะหายแล้ว แต่รักหลงเอ๋อร์ใจเดียวไม่เสื่อมคลาย ต่อให้มีฟงอิ๋งอิ๋งสิบคนก็ไม่กระทบจิตใจที่หนักแน่นของเขาไปได้!”
ครั้นเห็นว่าหลงเย่ไม่ได้แสดงท่าที กงจื่อโยวก็ร้อนใจ แอบหยิกก้นของหลิงซูทีหนึ่ง
ใบหน้าของหลิงซูบิดเบี้ยวเหยเก ก่อนพูดเสริมอย่างรู้ทัน “ถูกต้อง เจ้าสำนักน้อยจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำสำเร็จ เมื่อต้นปีพวกเราไปขอผลกิเลนที่หนานเจียง ฟงอิ๋งอิ๋งก็เอาการแต่งงานมาข่มขู่ แต่เจ้าสำนักน้อยยอมตายดีกว่ายอมจำนน นางก็จากไปอย่างไม่พอใจ!”
หลงเย่คลี่ยิ้มละไม กระซิบเสียงนุ่มนวล “เศรษฐีหนุ่มไม่ต้องกังวลไป ถึงนางจะร้ายกาจ แต่ข้าก็ไม่ใช่เล่นๆ มีข้าอยู่ทั้งคน ฟงอิ๋งอิ๋งทำอะไรท่านไม่ได้อยู่แล้ว”
กงจื่อโยวได้ยินแล้ว หัวใจสั่นไหวเล็กน้อย อดมองนางอย่างอ่อนโยนไม่ได้
อึดใจต่อมาได้ยินหลงเย่พูดต่อ “อย่างไรเสียข้าก็รู้วิธีทำลาย หากท่านโดนวิชายันต์ควบคุมวิญญาณอย่างหนัก ข้าก็ไม่ถือสาที่จะอยู่กับสามีที่โง่เขลา”
กงจื่อโยว “...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...