พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 628

เฟิงอิ๋งอิ๋งขนลุกซู่ มีชั่วพริบตาหนึ่ง บุรุษตรงหน้าชวนให้รู้สึกกลัวตายขึ้นมา

นางปรับสภาพจิตใจตัวเอง ก่อนจะพูดเสียงสั่นระริกเล็กน้อย

“พระชายาเสียนอ๋องอย่าทรงพิโรธเพคะ อิ๋งอิ๋งไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพระชายาเสียน ชาวเหมียวเจียงแค่อยากรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ก่อนหน้านี้รัชทายาทกับภรรยาของเขาก็ทำแผนพัง ทั้งยังขายปืนคาบศิลาให้แคว้นถังใต้มาโจมตีเหมียวเจียง ดังนั้นพวกข้าจึงจำต้องหาทางออกที่แคว้นซีโจว”

“หากเสียนอ๋องยินดีเป็นพันธมิตรกับเหมียวเจียง พวกเราย่อมช่วยพระองค์ขึ้นบัลลังก์สุดความสามารถ”

ต่อให้ความบาดหมางของเหมียวเจียงกับซีโจวจะใหญ่โตเพียงใด ทว่าก็สู้แคว้นถังใต้กับแคว้นของพวกเขาที่มีความแค้นมายาวนานหลายร้อยปีไม่ได้

แต่ไหนแต่ไรมา พวกเขามีเป้าหมายเดียว นั่นก็คือผนึกเหมียวเจียงเป็นหนึ่งเดียว

ขอแค่บรรลุเป้าหมายก็พอ พวกเขาไม่สนใจว่าจะต้องร่วมมือกับชาวทูเจวียหรือกับชาวซีโจว ล้วนไม่สำคัญ

วินาทีก่อนพวกเขาเป็นศัตรูกัน ทว่าวินาทีถัดมาก็สามารถเป็นพันธมิตรได้

เฟิงอิ๋งอิ๋งพูดด้วยแววตากระตือรือร้น “หากรวมใต้หล้าได้แล้ว พระชายาเสียนก็ต้องอยู่ในเงื้อมมือท่านอ๋อง ท่านอ๋องไม่สนใจหรือ?”

นางพูดอย่างมีหลักการ ชักจูงเสียนอ๋องเข้าพวกไม่หยุด

เขานั่งหลุบตาบนเก้าอี้ ใบหน้าครึ่งซีกจมเข้าในความมืด มองสีหน้าไม่ออกสักนิด

ผ่านไปเนิ่นนานเสียนอ๋องก็พูดเหมือนโดนโน้มน้าวใจสำเร็จ “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเจ้ามีความสามารถ? เจ้าก็คงรู้ดีว่าตอนนี้ข้าโดนลิดรอนอำนาจ ลำพังตัวเองจะเอาไม่รอดแล้ว”

เฟิงอิ๋งอิ๋งดีใจ นางรู้ว่าเวลาคนเรามีความรักก็จะมีความปรารถนา

“ท่านเสียนอ๋องไม่ต้องกังวล พวกเราแฝงตัวอยู่ในเมืองหลวงเกือบหนึ่งร้อยคน ถึงจำนวนคนจะไม่เยอะ ทว่าล้วนมีฝีมือเลิศล้ำ ทั้งยังมีอำนาจเล็กน้อย ตอนที่อ๋องผู้เฒ่าทูเจวียตาย มีผู้รอดชีวิตมาได้ หากท่านอ๋องต้องการก็สามารถหารือกับพวกเราได้ทุกเมื่อ”

เสียนอ๋องพยักหน้า ล้วงป้ายคำสั่งออกขนาดเล็กออกจากเอว แล้ววางบนโต๊ะ

เขาพูดด้วยแววตาเย็นเยียบ “แค่พูดไม่น่าเชื่อถือ ถ้าอยากทำการใหญ่ต้องแสดงความจริงใจด้วย”

เฟิงอิ๋งอิ๋งได้ยินก็ดีใจ ล้วงใบไม้สีเงินอันประณีตออกจากถุงผ้า

“แน่นอน อันนี้เป็นของยืนยันตัวตนเมื่อนัดเจอชาวเหมียว แล้วอิ๋งอิ๋งจะจัดคนมารับใช้ท่านอ๋อง”

เมื่อเสียนอ๋องส่งสายตาสั่ง อู๋อิ่งที่ยืนด้านข้างก็มอบป้ายคำสั่งให้เฟิงอิ๋งอิ๋ง และรับใบไม้สีเงินจากอีกฝ่ายมา

เมื่อตกลงเสร็จแล้ว เฟิงอิ๋งอิ๋งก็ยิ้มเอ่ยว่า “ดึกมาแล้ว อิ๋งอิ๋งไม่รบกวนการพักผ่อนของท่านเสียนอ๋องแล้ว ไว้เจอกันวันหน้าเพคะ”

หลังจากนางออกไปอู๋อิ่งก็ปิดหน้าต่างแล้วมองเสียนอ๋องด้วยแววตาสงสัย

“นายท่าน ผู้ละโมบที่อยากครองใต้หล้า ริอ่านบุกเข้าร้านหนังสือโดยไม่หวาดกลัว ไยถึงไม่สังหารทิ้งเลย?”

“ชาวเหมียวกับชาวทูเจวียไม่เหมือนกัน การเคลื่อนไหวของพวกเขาแปลกมาก วิธีการโหดร้ายอำมหิต ทั้งยังเจ้าคิดเจ้าแค้น ดังนั้นจึงแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้ หากจะลงมือก็ต้องกำจัดให้สิ้นซาก จะได้ไม่เป็นภัยภายหลัง”

เสียนอ๋องขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ก้นบึ้งนัยน์ตาเผยความกังวล

เพราะการเคยร่วมมือกับชาวทูเจวีย ดังนั้นเขาจึงรู้จักชาวเหมียวไม่น้อย รู้ว่าชาวเหมียวเป็นคนจำฝังใจ หากมีความแค้นต่อกันต้องแก้แค้นให้จงได้

“เจ้าเก็บเครื่องหมายยืนยันตัวตนให้ดี ช่วงนี้ติดต่อกับพวกเขาให้มากที่สุด ต้องตรวจสอบจุดดักซุ่มของพวกเขาให้ได้ทั้งหมด”

อู๋อิ่งพยักหน้า พูดปลอบใจว่า “ถ้าเก็บรวบรวมหลักฐานได้แล้วนำไปรายงานราชสำนัก นายท่านก็จะสร้างคุณูปการครั้งใหญ่ สามารถทำดีไถ่โทษได้ ฝ่าบาทก็จะ...”

“ไม่ต้อง” เสียนอ๋องตัดบทอย่างเฉยชา “ข้าไม่ต้องการให้เขายกโทษให้ และไม่มีวันให้อภัยเขา”

หลังโม่อ๋องแต่งงานแล้ว ความคึกคักที่เกิดข้นในเมืองหลวงหลายวันติดต่อกันก็หายไป กลับมาเงียบอีกครั้ง

ช่วงไม่กี่วันนี้อวิ๋นหลิงหาผู้ช่วยมาปั้นเป็นเม็ดยา

ห้องโอสถในตำหนักบูรพามีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ตลบอบอวลกลางอากาศอยู่นาน จนทหารเฝ้ายามเหม็นจนสุดท้ายเกือบไม่ได้กลิ่น

ตอนที่ปั้นเม็ดยา อวิ๋นหลิงก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้น “ร้านขายยาของพวกเราไม่มีสินค้าใหม่นานแล้ว จะเอายาเพิ่มความสดชื่นไปวางขายดีไหม?”

เซียวปี้เฉิงรีบวิเคราะห์ในหลายๆด้านพยายามไม่ให้ความคิดอันตรายของอวิ๋นหลิงเป็นจริง

“ไม่ดีหรอก ไม่ดีหรอก ถึงเม็ดยานี้จะทรงอานุภาพ แต่รสชาติกับหน้าตาไม่ตรงกัน แล้วร้านขายยาของพวกเรามีน้ำมันหอมระเหยกับยาหม่องขายแล้ว เดี๋ยวจะกระทบต่อยอดขายได้”

อวิ๋นหลิงคิดดูแล้วก็รู้สึกว่าใช่ จึงล้มเลิกความคิดนี้ไป ทว่ารู้สึกผิดหวังไม่มากก็น้อย ไม่ง่ายเลยกว่าจะคิดสูตรยาตัวใหม่ได้ แต่เสียดายที่ไม่อาจทำเงินได้

เซียวปี้เฉิงรู้ความคิดของนางแล้วก็ให้ลูกน้องนำไปใช้กับนักโทษในหอต้าหลี่ตอนไต่สวน

ผลปรากฏว่าตอนที่ประชุมราชการเช้าวันรุ่งขึ้น หัวหน้าศาลต้าหลี่รีบกล่าวคำขอบคุณเซียวปี้เฉิงด้วยใบหน้าระรื่น

“ต้องขอบคุณยาวิเศษของรัชทายาท พวกนักโทษที่ปากแข็ง พวกเราเคยเค้นถามมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าดใ แต่เมื่อคืนพอให้กินยาเม็ดนี้ พวกเขาก็ล้วนสารภาพ คนที่ปากแข็งสุดพอกินยาตัวนี้เข้าไปสิบเม็ดก็ทนไม่ไหว”

พวกเขาจึงไต่สวนนักโทษตลอดทั้งคืน สามารถสรุปคดีใหญ่ที่ค้างมานานได้หลายคดี จักรพรรดิจาวเหรินรู้แล้วก็เบิกบานใจ ตกรางวัลให้ไม่น้อย

หน้าที่การงานของหัวหน้าศาลต้าหลี่จึงมีผลงานดีสุดในชีวิต เขาถามเซียวปี้เฉิงเป็นการส่วนตัวว่าได้ยามาจากไหน

เซียวปี้เฉิงพูดอย่างมีลับลมคมใน “พูดตามตรง หลิงเอ๋อร์เป็นคนคิดค้นยาตัวนี้เอง เพราะวัตถุดิบหายาก ราคาแพง ขั้นตอนการผลิตก็ยุ่งยาก จึงไม่ได้ผลิตออกมาขาย หากเจ้ากรมต้าหลี่ต้องการก็สามารถขายให้ท่านในราคาห้าตำลึงเงิน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ