พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 630

สองสามีภรรยานำยาทลายเวทออกจากวัง

หลิงซูเห็นยาทลายเวทแล้วก็ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า กล่าวชื่นชมไม่หยุด

“สมเป็นที่เป็นพระชายารัชทายาทจริงๆ ถึงได้เอาสะระแหน่กับเจี้ยมั่วมารวมกัน ไยก่อนหน้านี้ข้าถึงนึกไม่ออกนะ มียาตัวนี้แล้วก็ไม่ต้องกลัวไอ้โง่หน้ากากเงินโดนของแล้ว”

หลงเย่รับยาไว้ มองคนข้างกายด้วยแววตาอ่อนโยน “ท่านเศรษฐีพกยาตัวนี้ตลอดเวลานะ ถ้ามีความจำเป็นก็อย่าได้ลังเล เชื่อว่าท่านคงไม่อยากกลายเป็นคนโง่กระมัง?”

กงจื่อโยวหน้าเปลี่ยนสี รับยามาแล้วก็กระแอมเสียงพูดเป็นการเป็นงานว่า

“อันที่จริง ข้าคิดว่าศึกษาคัมภีร์วิสุทธิสูตรก็ไม่เลวเหมือนกัน ช่วงนี้ข้าท่องบทสวดทุกวัน รู้สึกขจัดความคิดยุ่งเหยิงไปได้เยอะ ถ้าท่องบทสวดทุกวัน คาดว่าวิชาสะกดจิตก็เป็นเพียงภาพลวงตา ไม่ต้องกลัว”

ตลกแล้ว ถ้ากินยาเหมือนอุจจาระของอวิ๋นหลิงเข้าไปหนึ่งเม็ด หลงเย่ก็จะไม่ยอมให้เขาหอมแก้มหนึ่งเดือนเป็นอย่างต่ำแน่

ไม่สู้ชกหน้าเขาสองทีเลย

เซียวปี้เฉิงถามเขา “ใช่แล้ว ช่วงนี้สำนักทิงเสวี่ยสืบหาเบาะแสของหญิงชาวเหมียวได้ไหม?”

กงจื่อโยวขมวดคิ้วแน่นเป็นปม “นางคงรู้แล้วว่าเรื่องของโม่อ๋องเปิดเผยการเคลื่อนไหวของพวกนางแล้ว ช่วงนี้จึงจงใจหลีกเลี่ยง เคลื่อนไหวอย่างลับๆตลอด จากที่สำนักทิงเสวี่ยพอจะได้เบาะแสบาง แต่เมื่อสองสามวันก่อนกลับไม่พบร่องรอยของพวกนางสักอย่าง”

“ไม่พบร่องรอยแม้แต่นิด?”

“ถูกต้อง ข้าคิดว่าต้องเขาวังไปบอกพวกเจ้า ข้าคิดว่ามีคนช่วยเฟิงอิ๋งอิ๋ง อาจเป็นอำนาจที่หลงเหลือตอนเกิดเหตุการณ์กบฏ”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า ขมวดคิ้วกล่าว “เรื่องที่ช่วงก่อนชาวเหมียวแอบซื้อยาไล่งูจนหมด เชื่อว่าเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอำนาจต่างพวกหลงเหลืออยู่แน่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ลับ ราชสำนักอยู่ที่แจ้ง หากต้องการกำจัดเสี้ยนหนามตัวนี้ก็เห็นจะยากหน่อย สำนักทิงเสวี่ยมีความคิดดีๆหรือไม่?”

กงจื่อโยวได้ยินพลันเผยสีหน้าเข้มขรึม “ข้าจะพยายามสุดความสามารถ เฟิงอิ๋งอิ๋งกับข้ารู้จักกันมาหลายปี นางรู้กลยุทธของสำนักทิงเสวี่ยดี หากนางเป็นแกนนำของอำนาจหลงเหลือ การตรวจสอบนี้ก็จะยากมาก”

เฟิงอิ๋งอิ๋งเป็นยอดฝีมือที่ช่ำชองการอำพรางการเคลื่อนไหว

นางยังควบคุมจิตวิญญาณได้ ทำให้ผู้อื่นลืมอดีตบางช่วงได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ความทรงจำของผู้อื่นผิดเพี้ยนไปจากความจริงได้ด้วย จึงปล่อยข่าวปลอมออกมาให้ศัตรูคาดการณ์ผิดพลาด

การที่คิดจะจับตัวอีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องหนักหน่วง

หลงเย่ครุ่นคิดแล้วพูดเนิบๆ “ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายตามหาเฟิงอิ๋งอิ๋ง ถ้าถึงพิธีแต่งงานของข้ากับท่านเศรษฐี นางคงนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่ พวกเราก็แค่คิดวิธีจับตัวนาง แล้วข้าจะใช้วิธีสะกดจิตกับวิชาอ่านใจเค้นถามนาง”

เซียวปี้เฉิงก็คิดว่าวิธีนี้ดี “พวกเรามียาทลายเวท ไม่ต้องกลัวว่านางจะโกหก ศาลต้าหลี่เคยทดลองใช้มาแล้ว ยาตัวนี้ใช้ทรมานนักโทษได้ดีเยี่ยมเลย”

กงจื่อโยวได้ยินประโยคนี้ก็มองขวดยาอย่างขยะแขยง

เซียวปี้เฉิงรับฟังพวกนางคุยกันเงียบๆ ก่อนจะถามเสียงเบาว่า “แม่ของนั่วเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้ข่าวคราวของพี่รองไหม?”

เสิ่นชิ่นชะงักงัน ส่ายหน้าเอ่ย “หลังจากจวนเสียนอ๋องโดนรื้อ ข้าก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย”

นางไหว้วางอวิ๋นหลิงมอบหนังสือหย่าให้เสียนอ๋อง ทว่าเสียนอ๋องไม่ยอมหย่า หลังจากนั้นก็เหมือนหายไปกลางอากาศอย่างไรอย่างนั้น

เสิ่นชิ่นได้ยินเซียวปี้เฉิงถามถึงเสียนอ๋องกะทันหัน สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน ถามว่า “ปี้เฉิง เจ้าต้องระมัดให้ดี เผื่อเขายังคิดจะแก้แค้นอีก ถ้าไปร่วมมือกับชาวเหมียวจะเป็นผลร้ายต่อต้าโจว”

เซียวปี้เฉิงรีบเอ่ย “เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ถึงแม้พี่รองจะเกลียดแค้นเสด็จพ่อ แต่ยังเป็นคนมีสติ ข้าเชื่อว่าเขาไม่ทรยศต้าโจวแน่ ข้าแค่กลัวชาวเหมียวดึงพี่รองไปเกี่ยวข้อง แล้วส่งผลกระทบต่อพี่รอง”

เสิ่นชิ่นได้ยินประโยคนี้ก็โล่งอก

นางนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดต่อว่า “ถึงจะเป็นเยี่ยงนี้ ก็เป็นเพราะกรรมของเขา ไม่คุ้มค่าให้พวกเจ้าเป็นห่วงหรอก”

“ถ้าเขาทำผิดอีก ไปร่วมมือกับชาวเหมียว พวกเจ้าอย่าได้ปล่อยเขาเพราะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องอีก”

หากเสียนอ๋องทำแบบนั้นจริง นางจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ