พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 642

เสียงปังดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ปืนคาบศิลาถูกยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด อวิ๋นหลิงมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

เห็นว่าเสิ่นทัวชักดาบออกมาจากเอวพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เซียวปี้เฉิงไม่ทันอธิบาย มือใหญ่คว้าเอวของนางหลบไปด้านข้างอย่างทันท่วงที

เสียงสิ่งของแตกหักดังขึ้น ประตูไม้ของเรือนวั่งซูแตกละเอียดเต็มพื้นทันที

กงจื่อโยวมองประตูบ้านของตนเองถูกทำลาย รู้สึกเจ็บใจมาก แทบอยากจะเข้าไปแล่เนื้อเถือหนังของเฟิงอิ๋งอิ๋ง

เขากอดหลงเย่เอาไว้แน่น “หลงเอ๋อร์เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

หลงเย่ส่ายหน้า เพียงแต่มองไปยังสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงด้วยความสงสัย

หลังจากเซียวปี้เฉิงยืนอย่างมั่นคงแล้ว ก็เอ่ยเสียงต่ำด้วยสีหน้าหนักอึ้งว่า “พวกเราฆ่าเขาไม่ได้ นั่นเป็นพี่ชายของเสิ่นชิ่นชื่อเสิ่นทัว”

ทำไมเขาถึงนึกไม่ออก หกปีก่อนหลังจากที่เสิ่นทัวหายไปจากสนามรบ คิดไม่ถึงว่าจะถูกชาวเหมียวนำตัวไปทำเป็นหุ่นเชิดมนุษย์มีพิษ

เมื่อได้ยินประโยคนี้ อวิ๋นหลิงสีหน้าตกตะลึง “พี่ชายของอาชิ่น”

นางรีบเก็บปืนคาบศิลาทันที ขมวดคิ้วแน่น

“ให้ตายเถอะ”

เสวียนจีที่อยู่อีกมุมหนึ่งอุทานออกมา มองดูประตูที่แตกละเอียดพร้อมจุ๊ปาก “สวรรค์ พลังในการเร่งความเร็วเช่นนี้ มันไม่ใช่คนแล้ว”

เมื่อครู่ตอนที่เสิ่นทัวโจมตีเข้ามา นางเกือบจะไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่เฟิ่งเหมียนจับคอเสื้อด้านหลังของนางเอาไว้ ดึงตัวนางออกไป

เฟิ่งเหมียนสีหน้าเคร่งขรึม ปกป้องนางเอาไว้ด้านหลังอย่างมั่นคง จ้องมองชายหนุ่มหุ่นเชิดที่ราวกับสัตว์ประหลาดอย่างระแวง

อวิ๋นหลิงรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที พวกนางเคยได้รับการฝึกพิเศษ แต่สมรรถภาพของร่างกายไม่ได้เกินขีดจำกัดของมนุษย์ เมื่อเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ในบรรดาพี่น้องเกรงว่าคงจะมีแต่หลิวฉิงที่สามารถต่อกรได้

แม้จะมีพลังจิตที่ร้ายกาจ แต่เมื่อเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งสติปัญญา ผลที่ได้จะลดลงอย่างมาก

ถ้าอยากจะจับเป็นเสิ่นทัว เป็นเรื่องยากมากทีเดียว

ฉวยโอกาสตอนที่พวกอวิ๋นหลิงกำลังนิ่งอึ้ง เสิ่นทัวถือดาบบุกโจมตีอีกครั้ง แม้ว่าดวงตาของเขาจะมืดมนไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ รูปร่างที่สูงใหญ่กำยำและพลังที่แข็งแกร่งกลับเหมือนสัตว์ป่าตัวหนึ่ง

เซียวปี้เฉิงเตรียมพร้อมตั้งแต่ต้นแล้ว เก็บดาบใบหญ้าที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เข้าประจันหน้าต่อสู้

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีเพียงเขาที่เคยผ่านสนามรบ มีฝีมือพอที่จะสามารถรับมือกับเสิ่นทัวที่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว

ความแข็งแกร่งอย่างอมนุษย์ของเสิ่นทัวหนักอึ้งราวกับก้อนหินมหึมา ไม่ได้รับผลกระทบจากควันพิษเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เซียวปี้เฉิงรับดาบรู้สึกได้ถึงง่ามนิ้วที่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย

ดีที่เขามีวรยุทธยอดเยี่ยม จึงไม่ได้เสียเปรียบ

เสิ่นทัวเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ต่อกรกับตนเองได้ เอียงศีรษะเล็กน้อย หันเป้าหมายไปยังร่างของเซียวปี้เฉิง

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าใช้ปืนคาบศิลายิงที่ขาทั้งสองข้างของเขา”

อวิ๋นหลิงพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักอึ้ง กลั้นลมหายใจเล็งไปที่ขาของเสิ่นทัว ไม่ยอมเหนี่ยวไกเสียที

เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก ต่อสู้โรมรันกับเซียวปี้เฉิงอย่างแยกไม่ออก ทั้งสองว่องไวราวกับเสือชีตาห์ ถ้าไม่ระวังอาจยิงพลาดก็ได้

เวลานี้ อวิ๋นหลิงรู้สึกจิตใจหนักอึ้ง เดิมทีได้เตรียมการจะจับเป็นเฟิงอิ๋งอิ๋ง และรวบทุกคนที่เกี่ยวข้องให้หมด

ใครจะไปคิดว่า การปรากฏตัวของเสิ่นทัวจะทำให้แผนการที่วางไว้แล้วพังทลายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว

เห็นพวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด เฟิงอิ๋งอิ๋งสะบัดอาวุธลับออกไป ไม่กี่ครั้งก็กระโดดขึ้นไปบนกำแพง หัวเราะเสียงเย็น

“ยิงขาทั้งสองข้างก็ไร้ประโยชน์ นอกเสียจากเจ้าจะตัดหัวเขาลงมา มิเช่นนั้นเขาจะต่อสู้จนตาย”

นี่ต้องเป็นแผนการของเยว่หลงเย่แน่ๆ

ไม่มีใครรู้จักความเจ้าเล่ห์รอบคอบของผู้หญิงคนนี้เท่านางอีกแล้ว

เฟิงอิ๋งอิ๋งกัดฟันกรอด สิ่งที่ทำให้นางยิ่งรู้สึกโกรธแค้นก็คือ มีคนเปิดเผยรายละเอียดแผนการของนางทั้งหมด

เสียนอ๋อง

จิตใจของนางเกิดไอสังหารรุนแรงขึ้นมา ขณะเดียวกันทางด้านหลังก็มีเสียงตะโกนอย่างขุ่นเคืองดังขึ้นมา

“เจ้าถูกจับกุมแล้ว ยังไม่รีบให้จับแต่โดยดีอีกหรือ”

เฟิงอิ๋งอิ๋งได้ยินเสียงก็หันไปมอง ก็พบว่าเป็นสาวน้อยที่ย่างงูรักของนางคนนั้น กำลังขี่รถไม้ประหลาดๆพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที มองไปรอบตัวเพื่อหาสถานที่หลบซ่อน แต่แล้วก็ไม่ทันการ

“ปัง”

ได้ยินเสียงแสบหูของล้อไม้ที่บดไปกับถนนดังขึ้น รถสามล้อของเสวียนจีพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ชนเฟิงอิ๋งอิ๋งกระเด็นไปไกลกว่าสามเมตร

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังทะลุท้องฟ้ายามราตรี เฟิงอิ๋งอิ๋งหมุนเคว้งอยู่กลางอากาศ และตกลงมาที่พื้นราวกับตุ๊กตาผ้าที่ขาดวิ่น

นางรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดบริเวณหน้าอกและแขนขา สูดลมหายใจเย็นๆเข้าเฮือกหนึ่ง รู้สึกเหมือนเอวหักไปแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นผุดออกมา

เฟิ่งเหมียนเพิ่งจะวิ่งตามออกมาจากจวนอ๋องจิน เห็นฉากนี้ตั้งแต่ไกล

เขานิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าที่ตื่นเต้นค่อยๆผ่อนคลายลง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ