“ข้าอิจฉาเจ้า...ถ้าเป็นหญิงอื่น ข้าก็มั่นใจว่าเอาชนะสาวอื่นแล้วครองใจถังจูซิงได้ แต่กับเจ้า...ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งและดีมาก...ไม่ได้ธรรมดาเหมือนภายนอก”
นางเป็นลูกหลานตระกูลหรง เป็นคนที่มีรูปโฉมโดดเด่นสุดในรุ่น ยิ่งเป็นสตรีโฉมสะคราญที่ยากจะหาใดเปรียบในเมืองหลวงแห่งนี้
นางเติบโตท่ามกลางเสียงชื่นชม เวลาอยู่กับถังจูซิงจึงไม่รู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง
หญิงสาวที่หว่านเสน่ห์ใส่ถังจูซิง หรงรั่วไม่เคยเก็บมาใส่ใจ
นางคิดว่าถ้าถังจูซิงไม่ตาบอดจะไม่มีทางไปชอบสตรีอื่นโดยมองข้ามนางแน่
ทว่าเมื่อตระหนักได้ว่าสตรีผู้นั้นมีสิทธิ์เป็นหลิ่วชิงเยี่ยนสูง ความคิดของนางก็เปลี่ยนไป ความเชื่อมั่นในตัวเองหาย เริ่มกระวนกระวายใจ
“ทุกคนชมว่าข้าหน้าตาดีแต่เด็ก แต่ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย ยังฉลาดกว่าข้าอีก...ข้าสร้างปัญหาให้พวกเจ้าเป็นอย่างเดียว แต่เจ้ากลับสามารถคลี่คลายได้ทุกสถานการณ์”
“ตอนนั้นข้าว้าวุ่นใจมาก คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ถังจูซิงจะชอบเจ้า...”
เพราะนางรังแต่จะสร้างปัญหาให้ถังจูซิงปวดหัวอยู่เรื่อย
คนพูดน้อยอย่างเขายังต้องสั่งสอนนางด้วยความกรุ่นโกรธ
ส่วนหลิ่วชิงเยี่ยนกลับสามารถคลายความเครียดให้ทุกคนได้ แม้แต่ถังจูซิงก็ยังชื่นชมนางด้วยแววตาอ่อนโยน
ตอนนั้นหรงรั่วทรมานใจมาก นางตอกย้ำตัวเองเสมอว่า หลิ่วชิงเยี่ยนไม่ใช่คนแบบนั้น ต้องมีอะไรที่พูดไม่ได้แน่
ขณะเดียวกันนางก็สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ขาดเป้าหมาย เอาแต่หนี
“ตอนนั้นข้าก็เห็นเจ้ากับถังจูซิงเขียนจดหมายหากันลับๆ พออ่านจบก็จะเผาทิ้ง ดังนั้นตอนที่ฮูหยินถังวางแผนร้าย ข้าจึงมั่นใจว่าพวกเจ้าหักหลังข้าอย่างไม่ลังเล”
“ตอนเด็กพวกเราเคยสัญญากันไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะเชื่อใจต่อกัน จะไม่ทะเลาะกัน”
หรงรั่วพูดมาถึงจุดนี้ก็ร้องไห้เสียงดัง
“ข้าไม่ดีเอง จิตใจคับแคบ ไม่เชื่อใจเจ้า ฮือๆๆ...ชิงเยี่ยน เจ้าจะโทษข้าไหม?”
หลิ่วชิงเยี่ยนไม่ใช่คนแสดงความรู้สึกโดยง่าย บัดนี้กลับมีน้ำตารื้นอยู่
“ไม่หรอก...ไม่ใช่ความผิดเจ้าอย่างแน่นอน พวกเราเคยสัญญากันแล้ว จะไม่เข้าใจผิดหรือมีความลับกันและกัน แต่ข้าก็ทำไม่ได้”
หรงรั่วแลดูก้าวร้าว หุนหัน ตรงไปตรงมา แต่ความจริงแล้วกลับโดนอารมณ์ครอบงำได้ง่าย ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก
เป็นอุปนิสัยที่ไร้เดียงสา ตรงไปตรงมา เวลาเสียใจก็จะปล่อยโฮ เวลาโกรธก็จะกระทืบเท้า เวลาอิจฉาหรือหึงก็จะระบายออกเป็นคำพูด
เวลาทุกข์ใจก็จะเหมือนตอนนี้ ร้องไห้ฟูมฟายในอ้อมแขนนาง เสียใจที่ไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนเด็ก
สิ่งที่หลิ่วชิงเยี่ยนหวงแหน ทะนุถนอม ชื่นชอบก็เพราะหรงรั่วเป็นแบบนี้
เปรียบเสมือนนางอยู่ในเรือนหลังอันกว้างใหญ่ มีแต่ความมืดมนแล้วมีแสงส่องเข้ามาสายหนึ่ง
หรงรั่วร้องไห้ระบายอยู่นานก็ลุกขึ้น นางร้องไห้จนมึนเวียน
อาภรณ์สีขาวม่วงของหลิ่วชิงเยี่ยนยับยู่ยี่ ใบหน้ามีคราบน้ำตา
หรงรั่วสูดจมูก “ขอโทษนะ คืนนี้ข้าจะช่วยเจ้าซักผ้าให้”
หลิ่วชิงเยี่ยนกุมมือนางพร้อมกับพูดเสียงอ่อนโยน “หนาวแบบนี้ระวังเป็นหวัดด้วย เอาไปให้ร้านซักรีดในตลาดซักก็พอ”
หรงรั่วพยักหน้าแล้วค่อย ๆ หยุดสะอื้น
หลิ่วชิงเยี่ยนถามนาง “ใช่แล้ว เจ้าคิดยังไงกับเรื่องจูซิง?”
พอนางถาม หรงรั่วถึงจะนึกถึงบุคคลนี้
นางเบะปากเอ่ย “ยังคิดอะไรได้อีก ก็ต้องรีบถอนหมั้นสิ แบบนี้ทุกคนก็มีความสุขกันแล้ว”
“ปล่อยวางได้แล้วเหรอ?”
“แน่นอน ข้าไม่ใช่คนที่จมอยู่กับอดีต เขาก็ไม่วิเศษวิโสอันใดหรอก มีเพียงตอนที่สั่งสอนข้าเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นใบ้”
“ข้าไม่ชอบเขานานแล้ว ข้าไม่จมอยู่กับผู้ชายคนเดียวหรอก ยังมีผู้ชายดีๆให้เลือกอีกเยอะ”
ไป๋ชวนพูดอย่างลี้ลับ “ข้าได้ความสามารถพิเศษมา ซึ่งก็คือสื่อสารกับลูกหลานงูเหลือมได้ สั่งให้พวกมันบุกเข้าจวนตระกูลถังไปกัดอีแก่แร้งทึ้งได้”
หรงรั่วดวงตาบวมจนกลายเป็นเส้นด้าย ดวงตาสว่างจ้าโดยพลัน
พวกเขาสองคนกระซิบกระซาบในห้องเบา ๆ
......
ไม่นานพวกอวิ๋นหลิงก็อธิบายเรื่องของบัณฑิตกับสภาอาจารย์เรียบร้อยแล้ว
หรงรั่วออกมาชี้แจ้งแบบนี้ จึงสามารถคลี่คลายปัญหาได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
เมื่อติดหนังสือประกาศ เรื่องนี้ก็ยุติลงแต่โดยดี
พวกเขาสองคนจึงนึกถึงหลี่มิ่งชู ไม่รู้ว่าแม่นางผู้นี้จะเดือดร้อนเพราะเรื่องตระกูลหลี่หรือไม่?
กู้ฮั่นม่อรู้เป้าหมายของการมาสำนักศึกษาครั้งนี้แล้วก็ยิ้มเอ่ยว่า
“พระองค์ไม่ต้องเป็นห่วง สภาพจิตใจของมิ่งชูยังคงดี ช่วงนี้อู๋จีคอยปลอบใจและดูแลนางตลอด”
หา? มีเรื่องให้สอดรู้อีกแล้ว!
อวิ๋นหลิงดวงตาสว่างจ้า “ดูแลเช่นไร บอกรายละเอียดมา”
กู้ฮั่นม่อยิ้มเอ่ย “อันที่จริงก็ไม่มีอันใดหรอกพ่ะย่ะค่ะ เป็นหน้าที่ของอู๋จีอยู่แล้ว”
“ก่อนหน้านี้มีบัณฑิตวิจารณ์ตระกูลหลี่ต่อหน้ามิ่งชู เพราะอีกฝ่ายเคยโดนตระกูลหลี่ข่มเหงรังแก จึงพูดจารุนแรง ทำให้มิ่งชูโมโห แต่บัณฑิตผู้นั้นขอโทษมิ่งชูแล้ว อู๋จีในฐานะหัวหน้ากรรมการตรวจสอบวินัย หน้าที่หลักคือรักษาความสงบสุขและมิตรภาพของเพื่อนร่วมเรียน เขาทำหน้าที่นี้ได้ดีมากพ่ะย่ะค่ะ”
“หลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว อู๋จีจะหาเวลาว่างอยู่เป็นเพื่อนมิ่งชูที่ห้องสมุดทุกวัน กระหม่อมคาดว่าเขาคงกลัวจะกระทบถึงมิ่งชู จึงโน้มน้าวใจเขา เวลาเรียนวิชาจิตวิทยาอู๋จีตั้งใจฟังมาก”
พระชายาอยากรู้เรื่องชาวบ้าน เขาเองก็ชอบเช่นกัน
มีความสุขกับการรับรู้เรื่องคนอื่นคนเดียว มิสู้แบ่งปันให้ผู้อื่นรู้ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...