พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 688

เมื่อครู่อวิ๋นหลิงกำลังคิดว่าจะใช้คำพูดใดจึงจะเหมาะสม ทว่าหรงรั่วกลับทำก่อนนางหนึ่งก้าวเสียแล้ว

ผู้ประสบเหตุการณ์ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองดีกว่าคำอธิบายร้อยเท่าพันเท่า

เซียวปี้เฉิงก้าวไปเบื้องหน้า ดวงตาดำขลับมองไปยังเหล่าบัณฑิต จากนั้นก็พูดเสียงดัง

“เรื่องนี้มีเงื่อนงำจริง เป็นการเข้าใจผิด ตอนกลางคืนหลังจากคณะจารย์ประชุมกันเสร็จแล้วจะติดหนังสืออธิบายออกมา ยุติเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้เถอะ ทุกคนจงมุ่งมั่นในการศึกษาหาความรู้ อย่าได้เสียเวลาวิจารณ์กับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย”

เมื่อรัชทายาทออกมาพูด บัณฑิตที่ยังคงมีคำถามในหัวก็หายสงสัยทันที

พากันตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ลูกศิษย์จะจดจำคำสั่งสอนของรัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”

ตอนบ่ายยังมีคาบเรียน บัณฑิตที่มามุงดูก็ไม่อยู่ต่อ แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว ทว่าก็นำพาคำชี้แจงของหรงรั่วกับคำอธิบายของรัชทายาทไปด้วย ข้อมูลเหล่านี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

หรงรั่วกลับยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน คำพูดของเซียวปี้เฉิงเมื่อครู่วนเวียนในสมองไม่หยุด

มีเงื่อนงำ...

รัชทายาทพูดเอง งั้นเรื่องตอนนั้นเป็นการเข้าใจผิดใช่ไหม?

หัวใจนางเกิดความกระหายรอคอย อวิ๋นหลิงมองแววตานางออก ยิ้มโบกมือเรียก

“เจ้ามาคุยกับพวกเราก่อน ถ้าตอนบ่ายมีเรียน ข้าจะบอกผู้ดูแลเจิ้งว่าอย่าหักคะแนนความประพฤติเจ้า”

“ลูกศิษย์น้อมรับคำสั่งเพคะ”

หรงรั่วขานรับแล้วชำเลืองมองหลิ่วชิงเยี่ยน หัวใจเต้นระรัวไม่หยุด

อวิ๋นหลิงอยากจะพาหรงรั่วไปคุยเป็นการส่วนตัว ทว่าไม่รู้ว่าไป๋ชวนโผล่มาจากไหน

“เรื่องนี้มีเงื่อนงำอันใด บอกให้ข้าฟังหน่อยได้ไหม?”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว พูดเสียงเย็นเยียบ “แปลบันทึกประจำวันเสร็จหรือยัง ทำไมเริ่มเพ่นพ่านแล้ว”

“ยังมีเวลาอีกครึ่งเดือน ข้าพยายามอยู่”

“งั้นเจ้าก็ไปพยายามต่อ แปลเสร็จแล้วถึงจะได้รับอิสระ ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าอู้งานอีก แล้วยังชวนบัณฑิตหนีเรียน เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้ทำงานเก็บกวาดอีกเลย”

ทางด้านองครักษ์เย่ซาน จะมีการส่งรายงานพฤติกรรมแหกกฎต่าง ๆ ของไป๋ชวนมายังตำหนักบูรพาเป็นระยะ

ตกงานก็เท่ากับเสียสิทธิ์ในการกินข้าวฟรี อวิ๋นหลิงกำลังจี้จุดบอดเขาอยู่

ไป๋ชวนเดินกลับไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง

เรื่องแค่นี้ก็ไม่ให้รู้ ใจแคบชะมัด

......

หลังเที่ยง แสงตะวันอบอุ่น

อาคารห้องสมุดเงียบสงัด ท้องฟ้านอกหน้าต่างมีเสียงขานร้องของอีกาโคนปากขาวดังขึ้นเป็นระยะ

“อะไรน่ะ!!!”

เสียงแหลมสูงของสตรีดังขึ้น ดุจดั่งเสียงฟ้าแลบทำลายความเงียบ นกบนกิ่งไม้ตกใจกระพือปีกบินหนี

หรงรั่วดีดตัวลุกจากเก้าอี้ เก้าอี้ไม้ล้มคว่ำตามการเคลื่อนไหวของนาง เกิดเสียงกระแทกดังขึ้น

นางถอยหลังหนึ่งก้าว ชี้ถังจูซิงด้วยความเหลือเชื่อ นิ้วสั่นระริก

“เจ้า...เจ้ากับหลิ่ว...”

นางพูดไม่จบประโยค หรงรั่วก็โดนหลิ่วชิงเยี่ยนเอามือปิดปากอย่างว่องไว ประโยคตอนท้ายจุกอยู่ในลำคอ

เซียวปี้เฉิงที่กำลังจิบน้ำชาเกือบสำลักเพราะเสียงอึกทึกนี้

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดหลิ่วชิงเยี่ยนถึงปิดบังแม่นางผู้นี้

หรงรั่วมองถังจูซิงเหมือนเห็นผี ใบหน้าเล็กเริ่มเปลี่ยนสี สุดท้ายก็เขียวคล้ำ

ถ้าแพ้ให้กับหลิ่วชิงเยี่ยนก็แล้วไป นางยินดียอมรับ

“มีวิธีแก้แค้นสารพัด แอบเล่นงานลับๆสะใจกว่าไปประชันกันซึ่งๆหน้า เจ้าเก็บไปคิดเองแล้วกัน”

ถังจูซิงเหนื่อยแตก พวกนางหารือวิธีแก้แค้นมารดาต่อหน้าเขาที่เป็นลูกชาย แบบนี้มันดีเหรอ? อย่างน้อยก็ควรพูดลับหลังเขาไหม?

ช่างเถอะ มารดาเขาผิดเอง แต่หรงรั่วก็ควรไม่ทำร้ายร่างกายท่านแม่อย่างหนักจริงๆหรอก

หลังจากเล่าเรื่องตื้นลึกหนาบางให้หรงรั่วฟังแล้ว อวิ๋นหลิงกับสามีก็พาพวกถังจูซิงออกไป

สภาอาจารย์ยังมีเรื่องต้องสะสาง นางเว้นช่องว่างให้สองสตรีที่ปรับความเข้าใจได้แล้วอยู่ด้วยกัน

หลิ่วชิงเยี่ยนรีบรินน้ำชาให้นางติดต่อกันสามแก้ว จากนั้นก็ลูบหน้าอกให้หายใจสะดวก ปลอบใจเสียงอ่อนโยน “เจ้าอย่าโมโหเลย มีรัชทายาทกับพระชายา ต่อไปฮูหยินถังไม่กล้าทำอะไรเจ้าแล้ว”

หรงรั่วไม่พูด ไม่นานก็เริ่มเรียกสติกลับคืนมาได้ นัยน์ตาที่นางมองหลิ่วชิงเยี่ยนทอประกายแสง

จากนั้นน้ำตาก็ไหลพราก

“ฮือๆๆ”

หลิ่วชิงเยี่ยนร้อนรนใจ กุมมือนางไว้

“อารั่วข้าไม่ดีเอง ข้าปิดบังเจ้ามานาน ทำให้เจ้าต้องเสียใจทุกวัน แต่เจ้ากลับล้างมลทินให้ข้าในช่วงสำคัญ”

หรงรั่วส่ายหน้า ได้ยินประโยคนี้ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

นางกุมมือหลิ่วชิงเยี่ยนไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำ ร้องไห้จนหายติดขัด

“ไม่หรอก...ข้าไม่ดีเอง...ตั้งแต่เด็กจนโต เจ้าคำนึงถึงข้าเสมอ เวลาเจอปัญหาก็ช่วยข้าแก้ไข คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องที่ข้าก่อ แต่ข้ากลับไม่เชื่อใจเจ้า ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสาเหตุอื่น”

หลิ่วชิงเยี่ยนมองนางด้วยความอึ้ง ภายในใจเกิดความรู้สึกที่ยากจะบรรยายเป็นคำพูดได้

“เจ้าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก สถานการณ์แบบนั้นเป็นใครก็ต้องสงสัย แล้วข้ากับจูซิงก็ยังไม่อธิบายให้เจ้าฟังด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่”

“ข้าต่างหากที่ผิด”

หรงรั่วร้องไห้ส่ายหน้า สะอื้นไม่หยุด “เจ้ากับข้าโตมาพร้อมกัน กินด้วยกันนอนด้วยกันมาสิบปี ถึงข้าไม่เชื่อใจถังจูซิง แต่ก็ควรเชื่อใจเจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ