สำหรับนางเฉินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ขอเพียงหลานๆ เกิดมานางก็ดีใจเหลือแสนแล้ว
“หวยหยูไม่ต้องกังวลหรือตำหนิตัวเองไป ชาตินี้แม่เองคลอดลูกชายของจวนเหวินกั๋วกงแค่คนเดียว แต่ผู้เฒ่ากั๋วกงไม่เคยพูดหักหาญน้ำใจแม้แต่น้อย ดังนั้นจะไม่มีทางไม่พอใจเจ้าหรอก”
“การมีลูกไม่เกี่ยวว่ามีลูกมาก การเชื่อฟังและกตัญญูต่างหากที่สำคัญที่สุด เจ้าดูอย่างข้าสิ ในชีวิตมีลูกเพียงสองคนคืออวิ๋นเจ๋อกับอวิ๋นหลิง ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างราบรื่น”
นางเฉินเป็นผู้ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน อาการของลูกสะใภ้ก็คล้ายกับของนางเมื่อสมัยยังสาวๆ นางจะปวดใจก็ไม่ทันเสียแล้ว ไหนเลยจะสนใจสิ่งเหล่านั้น
ได้ยินแม่สามีกล่าวเช่นนี้ เวินหวยหยูก็รู้สึกแสบจมูก ดวงตาแดงก่ำโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม
“ท่านแม่ ท่านดีกับข้าเหลือเกิน”
นางสะอื้นไห้จนพูดตะกุกตะกัก นางเฉินคลี่ยิ้มพลางตบมือนางเบาๆ
“ข้าดีกับเจ้า ไยเจ้าต้องร้องไห้ด้วยเล่า”
เวินหวยหยูสะอื้นสองสามครั้ง ก่อนระบายยิ้มพรายอย่างอิ่มเอมใจ “ท่านดีกับข้าเหลือเกิน จึงร้องไห้ด้วยความดีใจ”
หากบรรดาพ่อแม่และญาติรู้ว่านางใช้ชีวิตอย่างดีในจวนเหวินกั๋วกง มีแม่สามีที่มีเหตุผล มีสามีที่อ่อนโยนและเอาใจใส่ มีน้องสาวสามีที่เก่งกาจและผดุงคุณธรรมเช่นนี้ ก็ย่อมนอนตายตาหลับอยู่ในปรโลกได้อย่างสงบ
ร้องไห้ระบายอารมณ์แล้ว คิ้วงามของเวินหวยหยูก็ผ่อนคลายมากขึ้น
นางเฉินกล่าวด้วยสายตาอ่อนโยน “ขอเพียงเจ้าอยู่กับอวิ๋นเจ๋อด้วยความสบายใจ ไว้ภายหน้าเป็นฮูหยินกั๋วกง ดูแลเรื่องทั่วไปในจวนให้เรียบร้อยก็พอ ไม่ต้องคิดมากเรื่องอื่นใด”
“ตาเฒ่าไม่เอาไหนอย่างพ่อสามีเจ้านั้นไม่มีสิทธิ์มีเสียงในจวน ถึงเขาจะบ่นกระปอดกระแปดก็ถือว่าผายลมแล้วกัน!”
นางเฉินจงใจพูดคำนี้เสียงดังจนทะลุกำแพงออกไปไกล
ในห้องหลักของลานบ้าน พวกเซียวปี้เฉิงล้อมวงมองเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ทางซ้ายทีขวาที
รัฐทายาทผู้เฒ่านั่งข้างๆ สองมือสอดอยู่ในแขนเสื้อ พึมพำเบาๆ “ไยไม่เป็นหลานชาย หากเป็นหลานชายคงจะดีทีเดียว”
สิ้นคำ เขาก็ได้ยินเสียงของนางเฉินแว่วมาจากห้องปีกตะวันออกที่อยู่ไกล
ครั้นเผชิญกับสายตาเป็นเชิงตำหนิของลูกชายกับลูกเขย จู่ๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาพลันแดงก่ำ ก็ได้แต่หน้าชื่นอกตรมไม่กล้าพูดอะไรอีก
บัดนี้สถานะของเขาในจวนเริ่มลดต่ำลงเรื่อยๆ ซ้ำร้ายแย่ยิ่งกว่าสุนัขหลังอานสีเหลืองตัวใหญ่ที่เฝ้าลานหน้าบ้านเสียอีก
อย่างน้อยๆ ตอนนางเฉินอารมณ์ดีจะลูบหัวสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ และตกรางวัลด้วยระดูกเนื้อสองสามชิ้น
ส่วนเขาน่ะหรือ ยามปกติแทบจะไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายเลย ซ้ำยังนอนแยกห้องกัน เพราะนางเฉินรังเกียจเขาที่กรนเสียงดังเกินไป
“พวกเจ้ามองข้าทำไม!”
ฉู่อวิ๋นเจ๋อหลุดจากภวังค์ กระแอมให้คอโล่ง “แค่กๆ...ท่านพ่อ ท่านมีพรสวรรค์ด้านโวหาร จะไม่ลองช่วยคิดชื่อเล่นที่ติดหูหน่อยเล่า”
ครั้นเห็นว่ารัฐทายาทผู้เฒ่าถูกมองข้ามมานานเกินไป ฉู่อวิ๋นเจ๋อจึงตัดสินใจให้บิดามีหน้ามีตา จึงให้สิทธิ์เขาในเรื่องสำคัญอย่างการตั้งชื่อ
รัฐทายาทผู้เฒ่าข่มกลั้นความกรุ่นโกรธในใจ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ชื่อเสี่ยวนิวนิวไปเลยเล่า ชื่อนี้ค่อนข้างดี ไม่ต้องตั้งชื่ออื่นหรอก”
นิวนิวเป็นเพียงคำเรียกติดปากเท่านั้นเอง ท่าทีของเขาเหมือนตั้งชื่อลวกๆ ความปลื้มอกปลื้มใจบนใบหน้าของฉู่อวิ๋นเจ๋อพลันจางหายไป
เซียวปี้เฉิงเห็นเช่นนี้ก็อดถือวิสาสะแนะนำไม่ได้ “ไม่ลองตั้งว่าไหลเม่ยดูเล่า ข้าคิดว่าชื่อนี้ก็ไม่เลว”
ทีนี้รัฐทายาทผู้เฒ่ารู้สึกตื่นเต้น “ไหลเม่ยอะไรกัน ข้าว่าตั้งชื่อไหลตี้หรือวั่งตี้ดีกว่า! เจ้าลูกเขย อย่าหาว่าพ่อตาว่าเจ้า ตัวเจ้ามีลูกชายตั้งสองคนแล้ว ก็คิดจะเอาเด็กตระกูลฉู่ไปแก้เคล็ดขอลูกสาวสิท่า เจ้านี่ฉลาดนักนะ ทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน!”
เซียวปี้เฉิงพยายามโต้เถียงด้วยเหตุผล “แต่ไหลเม่ยฟังแล้วติดหูไม่ใช่หรือ”
“เช่นนั้นไม่เอาไปตั้งชื่อลูกชายสองคนของเจ้าเล่า!”
“ท่านพ่อตา ทางฝั่งข้าได้เปลี่ยนชื่อพวกเขาเป็นเจาเม่ยกับพั่นเม่ยแล้ว”
ฉู่อวิ๋นเจ๋อ “...”
เยียนอ๋องดูผิดหวังเล็กน้อย “เดิมข้าคิดว่าใต้เท้าเฟิ่งเหมียนมีวิธีลับอะไรสักอย่าง จึงอยากถามท่านว่ารู้เรื่องราวภายในหรือไม่ เปิดเผยให้ข้าได้รู้สักหน่อย เผื่อข้าจะเอาไปฝึกฝนและได้ฝาแฝดชายหญิงโดยเร็วกับเขาบ้าง”
ตี้หวู่เหยารู้สึกว่าการคลอดลูกน่ากลัวเหลือเกิน แต่เมื่อเห็นฮั่วถวนเอ๋อร์กับเสวี่ยถวนเอ๋อร์แล้ว นางก็ตั้งตารอคอยจะมีลูกชายลูกสาวกับเขา ใฝ่ฝันอยากได้ลูกแฝดชายหญิง คลอดครั้งเดียวให้แล้วเสร็จไปเลย
“…”
อวิ๋นหลิงพบว่าชายหลายคนหลงใหลและมีทิฐิในการมีลูกอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“วันนี้เจ้ามาหาข้าเพื่อคุยเรื่องนี้หรือ”
เยียนอ๋องส่ายหน้า แล้วกระซิบว่า “ไม่ใช่ เป็นพี่ชายของเหยาเหยาที่เขียนจดหมายมา สถานการณ์ในแคว้นตงฉู่ไม่ใคร่ดี อาจมีสงครามทางทะเลกับญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการประมาณสิ้นปีนี้ จึงมาเร่งใต้เท้าเฟิ่งเหมียนกับแม่นางเสวียนจีให้กลับไปโดยด่วน”
“ทางคณะทูตกำลังรายงานเสด็จพ่อ พี่สามก็อยู่ในห้องตำราด้วย ข้าจึงมาแจ้งให้ท่านทราบ”
เยียนอ๋องช่วยเตือนสติ อวิ๋นหลิงก็นึกได้ทันทีว่าเสวียนจีอยู่ในต้าแคว้นต้าโจวมานานกว่าครึ่งปีแล้ว
ตามข้อตกลงระหว่างนางกับเฟิ่งเหมียน ปืนใหญ่สร้างเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลากลับได้
ไม่นานราชสำนักก็ได้รับข่าวที่แน่นอนดังคาด
ที่แท้เมื่อเดือนก่อน แคว้นตงฉู่กับญี่ปุ่นบาดหมางกันอีกแล้ว
เริ่มแรกทางการกับประชาชนทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันบ่อยครั้งในเรื่องน่านน้ำจับปลา ต่อมาลุกลามไปถึงข้อพิพาทเรื่องเกาะต่างๆ โดยญี่ปุ่นเริ่มยั่วยุแคว้นตงฉู่ก่อน
ราชสำนักตงฉู่ก็เดือดดาล และตอนนี้คนทั้งประเทศมีแรงฮึกเหิมจะทำศึก รอให้ปืนคาบศิลาของแคว้นต้าโจวส่งมาถึง
เสวียนจีใช้ชีวิตดุจเทพธิดาในแคว้นต้าโจว สุขจนลืมบ้านเกิด เมื่อรู้ว่าจะต้องกลับไปกับเฟิ่งเหมียน ตอนแรกๆ ก็ยังอิดออดอยู่เล็กน้อย
แต่พอได้ยินว่าชาวญี่ปุ่นทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ตั้งใจจะบุกแผ่นดินใหญ่เก้าแคว้น นางก็ตบโต๊ะกระโดดพรวดทันที
“กลับไป! ข้ากับนกโง่จะกลับไปฉีกญี่ปุ่นด้วยมือตัวเอง ตอนนี้พวกเรามีอาวุธร้อนแรงอยู่ในมือแล้ว ต้องใช้ปืนใหญ่ระเบิดพวกมันไปซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...