หลังจากส่งเสวียนจีไปแล้ว อวิ๋นหลิงก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยไปพักหนึ่ง
หากไม่มีจอมมารร้ายตัวน้อยผู้นี้ที่ก่อเรื่องไปทุกที่ ชีวิตก็คงจะหมดสนุก
เสวียนจีเดินทางไปไม่ถึงสองวัน ทางหอซื่อฟางได้รับจดหมายจากทูตแคว้นเป่ยฉิน ฉบับหนึ่งเป็นของหลิวฉิงส่งมา อีกฉบับเป็นของจักรพรรดิเสี่ยวฉินเขียนถึงจักรพรรดิจาวเหริน
บัดนี้จักรพรรดิเสี่ยวฉินฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ราชสำนักเป่ยฉินก็มั่นคงแล้วเช่นกัน
หลังจากอ๋องทูเจวียตะวันออกองค์ใหม่วางแผนจะสร้างพันธมิตรกับแคว้นต้าโจว พี่น้องกองทัพสกุลฟงที่ประจำการอยู่ชายแดนด้วยกันก็ออกเดินทางกลับไปเฉลิมฉลองปีใหม่ยังแคว้นเป่ยฉิน
จดหมายของหลิวฉิงเขียนบอกว่าสกุลฟงสร้างคุณงามความชอบปราบปรามพวกก่อกบฏ แม่ทัพอาวุโสก็ได้ฟื้นคืนศักดิ์ฐานะดังเดิมอีกครั้ง
ส่วนนางจะรั้งอยู่ที่สกุลฟงในเป่ยฉิน ฉลองปีใหม่กับแม่ทัพอาวุโสฟงและคนอื่นๆ ไว้เดือนยี่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นางกับกู้ฉางเซินจะมาพบกับพวกเขาที่แคว้นต้าโจว
ทราบข่าวดีนี้แล้ว อวิ๋นหลิงรู้สึกตื่นเต้นไปครู่หนึ่ง ลืมจอมมารร้ายตัวน้อยอย่างเสวียนจีไปเสียสนิททันที
แต่จดหมายของหลิวฉิงยังบอกด้วยว่าจักรพรรดิเสี่ยวฉินจะร่วมเดินทางมาด้วย
อวิ๋นหลิงอ่านจดหมายพลางเอ่ยด้วยความแปลกใจ “ไม่นึกว่าจักรพรรดิเสี่ยวฉินจะมาแคว้นต้าโจว เขายังมีเยื่อใยรักพี่ฉิงอยู่และตัดใจจากนางไปไม่ได้ จึงติดสอยห้อยตามมาด้วยสินะ?”
เซียวปี้เฉิงครุ่นคิดกล่าวว่า “แคว้นต้าโจวกับแคว้นเป่ยฉินมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาตลอด ต่อให้จะไม่มีอะไรพิเศษ เหล่าฮ่องเต้จะเสด็จมาเยี่ยมเยือนกันทุกๆ ห้าปี ถ้ามีการแต่งตั้งรัชทายาท รัชทายาทก็จะมาในนามของฮ่องเต้ ต้าโจวกับเป่ยฉินพบกันครั้งที่แล้วคือเมื่อสองปีก่อน เขาเป็นฝ่ายมาด้วยตนเองเช่นนี้จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร”
จักรพรรดิจาวเหรินเสด็จไปแคว้นเป่ยฉินเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว แต่เวลานั้นจักรพรรดิฉินยังเยาว์วัย ผู้ที่ต้อนรับเขาคือกู้ฉางเซิน
การพบกันเมื่อสองปีก่อนครั้งนั้นคือฉางเซินมาแคว้นต้าโจวแทนจักรพรรดิเสี่ยวฉิน ตามหลักแล้วการพบกันครั้งถัดไปควรจะเป็นสามปีต่อมา แล้วให้เขาไปเยือนแคว้นเป่ยฉินในนามของจักรพรรดิจาวเหรินจึงจะถูก
อีกอย่างตามคำบอกเล่าของกู้ฉางเซิน จักรพรรดิเสี่ยวฉินเป็นคนขี้ระแรงชอบสงสัย ให้ความสำคัญกับบัลลังก์และอำนาจ
กล่าวตามหลักแล้วในที่สุดเขาก็เอาอิสรภาพของหลิวฉิงมาแลกให้กู้ฉางเซินสละอำนาจ เขาน่าจะจัดกองกำลังใหม่ทันที และควบคุมราชสำนักให้มั่นคงจึงจะถูก
ไม่นึกว่าเขาจะมาแคว้นต้าโจวด้วยตนเอง ทิ้งดินแดนให้เสด็จอาผู้เฒ่าสองสามคนดูแลประเทศเป็นการชั่วคราว
สองสามีภรรยาต่างรู้แก่ใจดี แต่จักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้คิดอะไรมาก
จักรพรรดิเสี่ยวฉินกล่าวในจดหมายว่าแคว้นต้าโจวช่วยแคว้นเป่ยฉินปราบกบฏ ดังนั้นเขาจึงซาบซึ้งในน้ำใจ เตรียมจะมาเยือนแคว้นต้าโจวด้วยตนเอง
ประการแรกคือกระชับมิตรภาพเก่าๆ ระหว่างทั้งสองแคว้น ประการที่สองต้องการทำการค้ากับต้าโจว และถือโอกาสเยี่ยมชมสำนักศึกษาชิงอี้ตามคำเล่าลือ
เอ่ยถึงสำนักศึกษาชิงอี้ ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนอ้าย เป็นเวลาสอบปลายภาค
รอการสอบสิ้นสุดลง ทางสำนักศึกษาจะปิดเรียนภาคฤดูหนาว ถึงเวลานั้นองค์หญิงหกจะเสด็จกลับวัง
อวิ๋นหลิงในฐานะพี่สะใภ้ควบตำแหน่งหัวหน้าสำนักศึกษาด้วย จึงต้องจัดคนไปรับน้องสาวสามีกลับมา
ไม่นึกว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะรับช่วงต่อ “ในเมื่อเจ้ากำลังตั้งครรภ์ พักผ่อนอยู่ในวังให้สบายเถอะ ข้าจะไปรับหรงเอ๋อร์ กลับวังเอง”
เซียวปี้เฉิงก้าวเข้าไปแล้วพูดว่า “เสด็จพ่อ ช่วงนี้บนภูเขามีลมและหิมะแรงนัก ท่านไปจะเดินทางเหน็ดเหนื่อยเสียเปล่าๆ มิสู้ให้ลูกไปรับโย่วหรงเถอะ สองวันนี้ลูกต้องไปทำงานที่สำนักศึกษาพอดี”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้าไม่ได้ออกจากวังมาเกือบเดือนแล้ว ขืนอยู่ต่อจะป่วยเข้าจริงๆ!”
เขาเสียภรรยา แม่นางหลีเสียสามี พวกเขาถูกชะตากันเช่นนี้ คิดว่าการพบกันครั้งนี้คงเป็นสวรรค์ลิขิตมาเป็นแน่...
ได้ยินว่าสำนักศึกษาใกล้จะปิดเรียนภาคฤดูหนาว จักรพรรดิจาวเหรินวางแผนจะพำนักอยู่ที่นั่นสองสามวัน พักฟื้นจิตใจสักพักก่อนจะกลับวังมาจัดการเรื่องการเมือง
ครั้นได้สติกลับมาจากความสับสนว้าวุ่นใจ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “ถึงเวลานั้นข้าจะพาโย่วหรงกลับวังด้วยกัน ข้าจะไม่อยู่สักสองสามวัน พวกเจ้าสองสามีภรรยาจะต้องดูแลราชสำนักให้ดี โดยเฉพาะการเปิดตำหนักสาวงามใหม่อีกครั้ง อย่าทำผิดพลาดเป็นอันขาด”
จักรพรรดิจาวเหรินรับสั่งเช่นนี้ เซียวปี้เฉิงก็ได้แต่รับพระบัญชา “เช่นนั้นลูกจะไปสำนักศึกษากับท่านวันหลัง”
ชายชราอายุปูนนี้แล้ว ช่วงนี้อากาศหนาวจัด ภูเขาก็เย็นเฉียบราวกับอุโมงค์น้ำแข็ง เขาค่อนข้างกังวลสุขภาพของอีกฝ่าย
สองวันต่อมา อวิ๋นหลิงกับสามีเริ่มช่วยกรมวังจัดการเรื่องคัดเลือกนางใน
กำหนดเวลาคัดเลือกนางในไว้ที่เดือนสามต้นฤดูใบไม้ผลิ ก่อนหน้านี้รายชื่อหญิงงามจากที่ต่างๆ ที่เข้าคัดเลือกนางในจะต้องผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นจากกรมวัง
หลังจากผ่านการคัดเลือกขั้นต้นแล้ว เหล่าหญิงงามที่ได้รับคัดเลือกจะถูกจัดให้อยู่ในตำหนักสาวงาม เพื่อเรียนรู้กฎและมารยาทในวังเป็นเวลาหนึ่งเดือน
รอย่างเข้าเดือนสามฤดูใบไม้ผลิ ก็จะเป็นการคัดเลือกครั้งสุดท้าย
อวิ๋นหลิงพลิกดูภาพวาดของบรรดาหญิงงาม บางคนก็ธรรมดา ลายเส้นวาดลวกๆ บางคนก็ประณีตอ่อนช้อย แม้กระทั่งลายปักบนอาภรณ์ก็ลงสีแจ่มชัด เห็นชัดว่ายัดเงินให้ช่างเขียนไปไม่น้อย
“รอคัดเลือกขั้นต้นแล้ว ก็ประกาศข่าวที่อ๋องทูเจวียตะวันออกจะแต่งงานกับองค์หญิงต่อสาธารณะแล้วกัน”
นางอยากจะดูนักว่านางมารน้อยที่ไม่กลัวตายคนไหนจะกล้ากระโดดลงไปในหลุมไฟบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...