พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 702

ภายใต้การเตรียมการของเหล่านางสนมในวังหลัง ตำหนักสาวงามก็เปิดประตูที่ปิดสนิทมานานในที่สุด

ไม่นาน กรมพิธีการก็ทยอยส่งมอบหญิงงามหนึ่งพันกว่าคนให้แผนกในวังตรวจสอบ

นี่เป็นการคัดเลือกขั้นต้นครั้งแรก ขันทีกับบรรดาแม่นมของกรมวังจะตรวจสอบรูปร่างหน้าตาของเหล่าหญิงงามเป็นหลัก

วังหลวงมีชีวิตชีวามาสองสามวันแล้ว นางสนมอาวุโสหลายคนอยากรู้อยากเห็น จึงมามุงดูกันที่หน้าตำหนักสาวงามเป็นระยะๆ

“ดูแม่นางเหล่านี้สิอย่างกับดอกไม้แรกแย้ม หากเลือกมาสักคนคงเรียกข้าว่าแม่ได้เลย”

“ถูกต้องๆ ฝ่าบาทคงไม่อยากเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนกระมัง คนที่อายุน้อยที่สุดดูจะแค่สิบสองสิบสามปีเอง!”

“ฝ่าบาทไม่ใช่คนหน้าหนาขนาดนั้น น่าจะเลือกให้ท่านอ๋องทั้งหลายมากกว่า”

ปกติแล้วหญิงสาวที่มาคัดเลือกนางในจะมีช่วงอายุตั้งแต่สิบสามถึงสิบแปดปี

ทว่าจักรพรรดิจาวเหรินคงจะเสียสติไปหน่อย จึงปรับการคัดเลือกนางในครั้งนี้ ให้หญิงที่ยังไม่ได้ออกเรือนวัยสิบห้าถึงสิบแปดปีเท่านั้นจึงเข้าร่วมได้

แม้เขาจะแก่แล้ว ไม่ได้คิดจะทำร้ายแม่นางน้อยเหล่านี้ แต่อยากจะเลือกให้กับองค์ชายทั้งหลายไว้เป็นชายารองหรืออนุ

ในสายตาของคนยุคนี้ วัยสิบห้าถึงสิบแปดปีเป็นช่วงที่เหมาะจะมีบุตร

สองวันนี้ฝูกงกงตามเสด็จจักรพรรดิจาวเหรินไปสำนักศึกษาชิงอี้ เซียวปี้เฉิงก็ตามไปจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับปิดเรียนภาคฤดูหนาว แล้วให้อวิ๋นหลิงพักผ่อนอยู่ในวังเพียงลำพัง

แม่นมเฉินจะหารือเรื่องคัดเลือกนางในกับนางอยู่บ่อยครั้ง

“บ่าวได้ยินอาฝูเคยพูดถึงมาก่อน ฝ่าบาททรงคิดมานานแล้วว่าจะเลือกพระชายารองให้กับรุ่ยอ๋อง เพียงแต่ติดที่ฝ่าบาทกับจวนเจิ้นกั๋วกงตึงเครียดกันเกินไป จึงชะลอไว้ไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้”

อวิ๋นหลิงดูประหลาดใจเล็กน้อย “เขายังคิดเรื่องนี้อยู่อีกหรือ”

“นับตั้งแต่รุ่ยอ๋องถูกงูกัด ความสัมพันธ์ของเขากับจวนเจิ้นกั๋วกงก็ผ่อนคลายลงมาก ถึงพระชายารุ่ยอ๋องจะอยู่บ้านเดิมมาตลอด แต่เมื่อเร็วๆ นี้รุ่ยอ๋องมักจะไปค้างที่จวนเจิ้นกั๋วกงเป็นประจำ”

จวนเจิ้นกั๋วกงยอมรับการกระทำของเขาไปโดยปริยาย และไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องการหย่า ทั้งสองฝ่ายจึงอยู่ด้วยกันอย่างปรองดอง

แม่นมเฉินกระซิบต่อ “ฝ่าบาททรงคิดเรื่องนี้มานาน ตอนนี้พระชายารุ่ยอ๋องเป็นแม่คนแล้ว นางอยู่กับลูกมานานจนตัดใจแยกจากกันไม่ได้ หากภายหน้าจะไม่หย่า ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะคัดเลือกหญิงงามเหล่านี้สักสองสามคนและเก็บรายชื่อนี้ไว้ก่อน รอสักสองสามปี ค่อยหาโอกาสเหมาะๆ มอบให้กับรุ่ยอ๋อง”

หญิงงามที่เข้าร่วมคัดเลือกนางใน หลังผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นของกรมวังแล้ว สุดท้ายฝ่าบาทกับฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินหญิงงามที่ถูกพระทัยจะถูกบันทึกชื่อไว้

ต่อไปถ้าไม่ได้เป็นอนุหรือนางสนมก็จะแต่งงานกับบรรดาชินอ๋องและองค์ชาย บางครั้งอาจตกรางวัลให้ขุนนางก็มี

โดยปกติจะบันทึกชื่อไว้ห้าปี หญิงงามที่ได้รับเลือกนั้นห้ามแต่งงานเอง หากเลยช่วงนี้ไปแล้ว หญิงงามเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกจัดสรรอีก ตามกฎแล้วก็จะไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิต

อวิ๋นหลิงอดลูบหน้าผากไม่ได้ แล้วบ่นค่อนแคะว่า “เขายังอยากให้รุ่ยอ๋องใช้ชีวิตอย่างสุขสบายหรือเปล่า อยากเห็นว่าสมองของรุ่ยอ๋องจะรับมือกับเรือนหลังได้หรือไม่สินะ”

นางเคยรู้สึกไม่พอใจกับเจ้าก้อนถ่านหินของนางเอง แต่บัดนี้กลับเห็นใจรุ่ยอ๋องอยู่บ้าง

ตอนนี้รุ่ยอ๋องเติบโตขึ้นแล้ว ไม่ใช่คนที่ ‘โง่เขลาและไร้เดียงสา’ อย่างแต่ก่อนอีกต่อไป แต่ยังใจอ่อนและจิตใจดีงาม

นี่คือจุดอ่อนของรุ่ยอ๋อง หากเผชิญกับกลุ่มหญิงที่ชิงดีชิงเด่นก็คงกินกระดูกเขาไม่เหลือชิ้นดี

แม่นมเฉินมองอวิ๋นหลิง อดถอนใจไม่ได้ “ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นพระชายารัชทายาทเหมือนอย่างท่านได้ และไม่ใช่ว่าชายทุกคนในโลกจะเป็นรัชทายาทได้ เรื่องแต่งงานของท่านอ๋องทั้งหลาย...พวกเขาคงตัดสินใจเองไม่ได้”

ถึงเยียนอ๋องจะตะโกนทุกวันว่ามีแค่ตี้หวู่เหยาก็พอแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินก็ไม่ได้ตรัสอะไร แต่ในพระทัยกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด

“พระชายาเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็ดีแล้วเพคะ”

แม่นมเฉินโล่งอก ตอนจักรพรรดิจาวเหรินคุยเรื่องนี้กับนางก่อนหน้านี้ ยังบ่นถึงอวิ๋นหลิงเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำว่า

...ข้าควบคุมนางกับเจ้าสามไม่ได้ก็ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ถ้าขัดขวางการแต่งงานของพวกเจ้าใหญ่อีก ข้าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้แต่อย่างใด นี่คือขีดจำกัดของข้า!

อวิ๋นหลิงหัวเราะ ถึงนางอยากจะส่งเสริมการมีคู่สมรสคนเดียวแบบสมัยใหม่ แต่เห็นชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่นางจะทำได้ในตอนนี้

ช่วยผูกด้ายแดงสองสามเส้นให้คนที่รักกัน สำหรับนางแล้วถือว่าง่ายดาย แต่นางก็ไม่ว่างพอจะมายุ่งด้วยมากนัก

นางแค่นำข่าวนี้ไปบอก ก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาว่าจะทำอย่างไร

ไม่นานหลังจากที่รุ่ยอ๋องรู้ข่าว สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“...น้องสะใภ้สาม ขอบคุณที่บอกเรื่องนี้ให้ข้ารู้ อ้อ รบกวนอย่าให้เสี่ยวฉานระแคะระคายเรื่องนี้ ข้าจะแก้ไขปัญหานี้เอง”

ไม่ง่ายเลยกว่าความสัมพันธ์ของเขากับหรงฉานจะคลี่คลายลงเพราะลูก บัดนี้มีความพยายามจะโน้มน้าวให้หรงฉานตามเขากลับจวนอ๋อง

หากข่าวนี้แว่วเข้าหูหรงฉาน ความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งมวลก็จะสูญเปล่า

เมื่อนานมาแล้ว รุ่ยอ๋องมีความฝันที่จะถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชรไปจนแก่เฒ่า

ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าคนผู้นั้นคือฉู่อวิ๋นหาน จึงทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ต่อมาเมื่อตื่นจากความฝัน เขายังคิดเช่นนั้นอยู่

บัดนี้คนเดียวที่เขาเฝ้าหวังจะได้จับมือไปด้วยกันในชีวิตนี้ก็คือหรงฉาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ