เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รุ่ยอ๋องทำผิดซ้ำรอยเดิม เซียวปี้เฉิงเล่าเรื่องที่ประสบการณ์ของตนเองให้เขาฟัง ล้วนเป็นบทเรียนที่ยากลำบาก
รุ่ยอ๋องฟังแล้วก็มีเหงื่อไหลออกมาเต็มร่าง รีบกล่าวขอบคุณเซียวปี้เฉิงอย่างซาบซึ้งใจ
“ข้าประมาทเกินไป ขอบคุณเจ้านะปี้เฉิงที่เตือนข้า ช่วงที่ข้าอยู่ในวังหลวงจะระมัดระวังตัวให้ดีเลย”
ถ้าหากคนอื่นทำสำเร็จ ครอบครัวเล็กๆที่เพิ่งจะอยู่กันพร้อมหน้าอย่างยากลำบากต้องแตกสลายแน่
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “พี่ใหญ่เข้าใจก็ดีแล้ว เมื่อครู่โยว่หรงกลับถึงวังแล้ว ท่านไปเยี่ยมนางเถอะ”
สองพี่น้องกล่าวลากัน เซียวปี้เฉิงนำโคมไฟกลับไปยังตำหนักบูรพาคนเดียว
“กลับมาแล้วหรือ เมื่อครู่ข้ารับรู้ได้ถึงคลื่นพลังจิตของท่านมาแต่ไกล เกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง”
อวิ๋นหลิงกำลังดื่มยาบำรุงครรภ์ที่ทำขึ้นมาเอง กลิ่นยาเปรี้ยวฝาดเข้มข้น หลังจากที่อดทนต่อความไม่สบายดื่มเข้าไปจนหมด ความปรารถนาที่อยากจะอาเจียนก็ลดลงไปมาก
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลูกในครรภ์คนนี้มีพลังจิตแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า ร่างกายของนางจึงทนทานไม่ได้เหมือนท้องแรก ช่วงนี้จึงได้มีอาการแพ้ท้อง
แม้ว่าจะไม่ได้ทรมานมาก แต่ก็ทำให้นางปรับตัวไม่ค่อยได้
“สั่งสอนสาวงามที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำไปนิดหน่อย”
เซียวปี้เฉิงถอดเสื้อคลุมที่แฝงไปด้วยไอเย็นยะเยือก วางโคมไฟแล้วก็ไปนั่งลงข้างกายอวิ๋นหลิง โอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมอก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับวังให้ฟังทั้งหมด
“เจ้าไม่ได้เห็นสาวงามที่เต้นรำคนนั้น อากาศหนาวเช่นนี้สวมชุดกระโปรงบางเบา ไม่กลัวว่าจะหนาวจนปวดขาหรืออย่างไร กลับไปแล้วไม่เป็นไข้เพราะถูกลมหนาวสักสองสามวัน ก็คงจะเสียทีที่นางอุตส่าห์แสดงอย่างทุ่มเทเช่นนี้”
“ตลอดทางที่เดินผ่าน แค่สาวงามที่เต้นรำดีดพิณและเป่าขลุ่ย ข้าก็พบเห็นห้าหกคนแล้ว โชคดีที่มีพลังจิต จึงหลีกเลี่ยงได้หมด พวกนางช่างเป็นคนที่รู้จักใช้โอกาสให้คุ้มค่าจริงๆ ปิดกั้นเส้นทางที่จะกลับมาจนไม่เหลือช่องว่างเลย”
เซียวปี้เฉิงบ่นออกมา แน่นอนว่าก็ไม่ได้ลืมเรื่องที่รุ่ยอ๋องเกือบจะตกหลุมพรางด้วย
อวิ๋นหลิงอิงแอบกับอกเขาด้วยรอยยิ้มสดใส น้ำเสียงแฝงแววขัน “ก้าวหน้าไม่น้อยเลยนี่นา ตอนนี้รู้แล้วหรือว่าคนอะไรช่วยได้ คนอะไรช่วยไม่ได้”
เซียวปี้เฉิงรู้ว่านางกำลังล้อเรื่องที่พบเจอตอนที่อยู่จวนเหวินกั๋วกง นึกย้อนไปตอนนี้ก็รู้สึกโกรธอยู่หลายส่วน
ตอนนั้นเขาไม่ทันสังเกตถึงความไร้เหตุผลที่เจียงฉ่ายเหลียนจะตกน้ำ ภายใต้ความรีบร้อนที่จะช่วยคน เกือบจะถูกใช้เป็นที่พึ่งเพราะเจตนาดี
“แน่นอนอยู่แล้ว ผู้หญิงอย่างพี่สาวเจ้า ข้าควรจะกดหัวของนางลงในทะเลสาบ ให้นางได้กัดโคลนสองสามคำ ดังนั้นสาวงามเมื่อครู่นี้ข้าจึงไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย แม้จะตกลงมาขาหักก็เป็นนางที่รนหาที่เอง คนรูปร่างผอมกะหร่องก่องอย่างพี่ใหญ่ ถูกนางกระแทกเข้าจะเป็นอย่างไร”
ตอบได้คะแนนเต็ม รหัสผ่านถูกต้อง
ใบหน้าผ่อนคลายของอวิ๋นหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เป็นเด็กมีอนาคตสอนได้จริงๆ”
“แล้วมีรางวัลอะไรหรือไม่”
เขาส่งสายตาพลางเขยิบเข้าใกล้ อวิ๋นหลิงประทับจูบไปบนใบหน้าของเขาอย่างอารมณ์ดี
เซียวปี้เฉิงลูบใบหน้าพลางยิ้มอย่างพอใจ “ใช่แล้ว เจ้าจะใช้เว่ยฉือเลี่ยรับมือกับสาวงามเหล่านี้ไม่ใช่หรือ ทำไมพวกนางยังกล้าสร้างปัญหาเช่นนี้อีก”
“เรื่องนี้ข้ามอบหมายให้อวี้จือจัดการแล้ว เพิ่งจะสิ้นสุดการคัดเลือกรอบแรก คาดว่าในสองวันนี้จะมีการประกาศเรื่องการแต่งงานเพื่อสันติภาพกับทูเจวีย เขาจัดการได้”
อวิ๋นหลิงพูดจบ เพิ่งจะสังเกตเห็นโคมไฟสวยงามที่วางอยู่บนโต๊ะ บนนั้นยังมีรูปวาดของนางด้วย
เซียวปี้เฉิงเห็นสายตาของนาง เอ่ยอธิบายด้วยเสียงอบอุ่นว่า “นี่เป็นของขวัญอวยพรที่อู๋จีกับฮั่นม่อทำให้เจ้ากับมือ ฝีมือกับการวาดภาพของพวกเขาสองคนไม่เลวเลย”
ได้ยินดังนั้น อวิ๋นหลิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แม้แต่ความก้าวหน้ายังแสดงให้เห็นอย่างระมัดระวัง ไม่เหมือนหลี่เมิ่งชู มีการพลิกผันอย่างมากจากการสอบเข้าเรียนในตอนแรก ทำเอาทุกคนตกตะลึงกันหมด
รับรู้สถานการณ์ของนักเรียนแล้ว อวิ๋นหลิงก็ถามเรื่องสัพเพเหระตามความเคยชิน โดยเฉพาะเรื่องของเฟิงอู๋จีกับหลี่เมิ่งชู
“พวกเขาสองคนปกติดีทุกอย่าง แต่ทางด้านฮั่นม่อมีเรื่องใหญ่มากเชียวล่ะ ข้าอยากจะเล่าให้เจ้าฟังตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว”
เซียวปี้เฉิงเขยิบเข้ามาหาอย่างมีลับลมคมใน เล่าเรื่องที่จักรพรรดิจาวเหรินอยากจะเรียกตัวแม่นางหลีเข้าวังออกมาจนหมด
อวิ๋นหลิงเกือบจะพ่นชาอุ่นๆออกมาจากปาก ข่าวนี้ใหญ่จนเกือบจะทำให้นางจุก
“ไม่เสียแรงที่เป็นพ่อลูกกัน แม้แต่ความชอบก็เหมือนกันไม่มีผิด รู้จักกันสั้นๆแค่สามเดือน คลุกคลีอยู่ด้วยกันไม่กี่วัน เขาถึงกับหลงรักแม่นางหลีด้วยน้ำใสใจจริง นี่จะให้พระสนมหลี่กับเสี่ยวเฟิงทนได้อย่างไรกัน”
เซียวปี้เฉิงถอนหายใจออกมา “เรื่องนี้นอกจากเจ้าแล้ว ข้าไม่ได้พูดกับใครเลย ทางด้านเสด็จแม่ยังดี แต่ทางโยว่หรงไม่แน่ว่าจะรับได้ แต่เสด็จพ่อก็รู้ว่านางชอบกู้ฮั่นม่อ อาจจะไม่ดึงดันเรียกตัวแม่นางหลีเข้าวัง”
สำหรับเรื่องนี้ อวิ๋นหลิงก็ไม่สามารถตัดสินได้
ในใจของจักรพรรดิจาวเหริน เห็นได้ชัดว่าสองพี่น้องรุ่ยอ๋องมีความสำคัญกว่าลูกคนอื่น แต่เอามาเปรียบเทียบกับตัวเขา เขารักลูกหรือรักตัวเองมากกว่า เรื่องนี้ก็ยากจะพูด
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่สองสามีภรรยาจำเป็นต้องสนใจในตอนนี้ จะจัดการกับเหล่าสาวงามที่ไม่รู้จักวางตัวเหล่านั้นต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ
หลังจากที่เรื่องของสาวงาม”ขโมยพุทรา”ถูกลงโทษแพร่กระจายออกไป ตำหนักสาวงามก็สงบไปสองวัน
ไม่ช้า ราชสำนักก็ประกาศข่าวเรื่องที่แคว้นต้าโจวเตรียมจะจัดงานแต่งงานเพื่อสันติภาพกับทูเจวียตะวันออกให้คนภายนอกรู้
ตอนที่จักรพรรดิจาวเหรินประชุมราชสำนักได้ประกาศด้วยตนเอง ในบรรดาสาวงามที่ถูกคัดเลือกเข้ามาอยู่ในตำหนักสาวงาม จะมีการเลือกหญิงสาวที่โดดเด่นที่สุดหนึ่งคน แต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นองค์หญิง ส่งไปแต่งงานเพื่อสันติภาพที่ทูเจวียทางตะวันออก
เมื่อมีราชโองการ ราชสำนักกับวังหลังก็โกลาหลขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...