ก่อนหน้านี้เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้ยี่หวาต้องอยู่ใกล้กับพวกเด็กๆ ดังนั้นพอเธอเริ่มเห็นท่าทางไม่ดีของเด็กๆ เพราะที่ดวงตาคู่น้อยๆ นั้นเริ่มมีน้ำใสๆ คลออยู่ก็รีบพูดปลอบทันที “แต่พี่ก็ยังเป็นพี่สาวให้ทุกคนได้นะ เพราะทุกคนเป็นเพื่อนของเรน”
“เรนไม่ใช่เพื่อนพวกเรา เพราะพ่อแม่ของพวกเราบอกว่าพ่อของเรนน่ากลัวเกินไปไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว”
เด็กน้อยคนหนึ่งพูดด้วยหน้าตาเศร้าๆ ไม่รู้ว่าเพราะถูกห้ามไม่ให้เป็นเพื่อนกับเรน หรือว่าเพราะไม่ได้ยี่หวามาเป็นแม่กันแน่
ยี่หวาที่ได้ฟังก็ได้แต่นิ่ง ไม่คิดว่าที่เด็กพวกนี้ไม่เป็นเพื่อนกับคนเก่ง เพราะว่าพ่อของเขา ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมคนอื่นๆ ถึงได้กลัวเขาขนาดนี้
ส่วนตัวหนูน้อยเรนจิเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนใจที่ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าที่คนอื่นๆ ต่างก็กลัวเขาเป็นเพราะพ่อของเขา ถึงว่าทำไมเวลาปกติไม่มีใครกล้ามาคุยกับเขาเลย จะมีมาพูดกับเขาก็ตอนเลิกเรียนว่าเขาไม่มีแม่ คงเป็นเพราะว่าพ่อแม่ตัวเองอยู่แถวนี้สินะเลยมีความกล้าขึ้นมา
ผ่านไปสักพักก็มีเด็กคนหนึ่งพูดขึ้นมา “แต่ถ้าได้พี่คนสวยมาเป็นพี่สาวหนูจะยอมเป็นเพื่อนกับเรนก็ได้ค่ะ”
“ผมด้วย ผมอยากมีพี่สาวสวยๆ แบบนี้”
“หนูก็ด้วย เพราะถ้ามีพี่สาว หนูก็ไม่กลัวที่จะเป็นเพื่อนกับเรน”
“ใช่ๆ ถ้ามีพี่สาวการเป็นเพื่อนกับเรนก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป”
ในช่วงประโยคแรกสีหน้าของหนูน้อยเรนจิมีความเหยียดหยามมาก มีความคิดที่ว่าใครเขาอยากจะเป็นเพื่อนกับพวกเธอกัน แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคต่อมาของเพื่อนคนอื่นๆ สีหน้าก็เริ่มนิ่งขึ้นทำเป็นไม่มีอาการใดๆ แต่จริงๆ แล้วในใจเขาตอนนี้ตื่นเต้นมาก
ไม่คิดว่าจะยังมีคนที่อยากเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ แต่ไม่กล้าเพราะกลัวพ่อของเขา
“ขอบคุณนะ ถ้าอย่างนั้นเวลาอยู่ที่โรงเรียนพี่สาวฝากเรนด้วยนะ” ยี่หวาพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ ที่พอใครได้ฟังต่างก็ต้องหลงใหล รวมถึงเด็กน้อยทั้งหลายตรงหน้าเธอด้วย
“ได้เลยค่ะพี่สาว ไม่ต้องเป็นห่วง”
“พวกผมจะเป็นเพื่อนกับเรนได้จริงๆ ใช่ไหม”
ยี่หวาแทบอยากจะร้องไห้ มันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก วันนี้เธอคงต้องไปคุยกับพ่อของเรนจิหน่อยแล้ว ว่าเลี้ยงลูกยังไงทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวพี่สาวจะไปคุยกับพ่อของเรนให้เอง ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดพวกเขาก็ทำอะไรหนูไม่ได้ และการเป็นเพื่อนกับเรนก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด”
ตอนที่ยี่หวาพูดว่า ‘ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด’ เธอเหลือบตาไปมองเด็กผู้ชายสองคนที่เป็นคนเริ่มเรื่องนี้ ทำเอาเด็กสองคนนั้นสั่นสะท้านไปถึงกระดูกเลยทีเดียว
ไททั่นที่รู้สึกตัวก่อนรีบเอ่ยปากขึ้นทันที “พี่สาวครับ! ผมขอโทษนะครับที่พูดกับเรนแบบนั้น”
“หนูไม่ได้ทำอะไรผิดกับพี่ ไม่จำเป็นต้องขอโทษพี่นะ” ถึงยี่หวาจะไม่พอใจเด็กสองคนนี้ขนาดไหนแต่ก็ยังคงควบคุมอารมณ์ได้ดี เพราะยังไงทั้งสองคนก็ยังเป็นแค่เด็กอนุบาล
“เรน พวกเราขอโทษ ที่พวกเราพูดแบบนั้นเป็นเพราะเราอิจฉาเรน” ยูตะเมื่อเห็นว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็อยากจะสารภาพให้มันจบๆ
ส่วนยี่หวากับหนูน้อยเรนก็ได้แต่ทำหน้างง เด็กสองคนนี้จะอิจฉาเรนเรื่องอะไร อิจฉาเรื่องที่เรนไม่มีแม่งั้นเหรอ…ตลกหน่า
เมื่อไททั่นเห็นว่ายูตะกำลังจะสารภาพผิด ตัวเองก็เลยร่วมด้วย “ใช่ครับ พวกเราอิจฉาเรน เพราะถึงแม้ว่าเรนจะไม่มีแม่ แต่ก็ยังมีพ่อที่คอยมารับมาส่งตลอด ไม่เหมือนกับพวกเราที่มีทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยว่างมารับมาส่งเลย ให้แต่คนอื่นมาแทนตลอด”
ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่สี่คนที่ได้ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ก็รู้สึกผิดในใจอย่างบอกไม่ถูก นี่พวกเขาปล่อยให้ลูกของเขาคิดมากจนถึงขนาดไปแกล้งคนอื่นเลยเหรอ
“เด็กๆ ช่วงวัยนี้ต้องการความรักจากพ่อแม่ที่สุดค่ะ”
“ขอบคุณจริงๆ ค่ะ พวกเราละเลยลูกเกินไปเอาแต่ทำงาน ถ้าไม่ได้คุณพวกเราคงไม่รู้ว่าลูกชายเราคิดอะไรอยู่”
ยี่หวาส่งยิ้มเบาๆ ก่อนจะเอ่ยออกมา “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” ยี่หวาโค้งตัวให้ผู้ใหญ่สี่คนตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเรนจิ “คนเก่งหิวยัง อยากกินอะไรไหม”
“อะไรก็ได้ครับ ขอแค่หม่ามี๊เป็นคนทำ”
“งั้นเดี๋ยวเราไปหาพ่อของเรนกันก่อน หม่ามี๊มีเรื่องที่ต้องคุยกับเขา”
“พ่อแย่แล้ว ต้องโดนหม่ามี๊ดุแน่ๆ”
ยี่หวาที่คุยกับคนเก่งของเธอโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ทำให้ไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าตกใจขนาดไหน พวกเขาได้แต่คิดในใจว่า
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของประธานภูวิศจริงเหรอ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้จะไปพบเขาง่ายๆ แบบนั้น แถมยังกล้าดุประธานภูวิศด้วยนี่นะ?’
เพราะต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่าวายุเป็นบุคคลลึกลับขนาดไหน ลึกลับขนาดที่ว่าบนอินเทอร์เน็ตไม่มีรูปของผู้ชายคนนี้สักรูป ทั้งที่เป็นนักธุรกิจชื่อดังของประเทศนี้แท้ๆ
ส่วนพวกเขาแม้ว่าจะเคยเห็นผ่านๆ เวลามารับลูก แต่ใครจะกล้าเข้าไปคุยกับเขากันล่ะ แถมเรื่องที่เจอวายุที่นี่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกไปอยู่แล้ว
ทำเอานักธุรกิจบางคนที่ได้ยินเช่นนั้น แทบอยากจะเดินเข้าไปให้นามบัตรตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำแบบนั้นต่อหน้าลูกมันจะดูไม่ดีเท่าไหร่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม