ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 50

เมื่อเรนจิเห็นว่าหม่ามี๊ของเขาไม่ได้สำนึกเลยด้วยซ้ำก็งอนเดินนำหน้ายี่หวาไปเลย คอยดูนะเขาจะให้พ่อเป็นคนดุ ดูสิว่าหม่ามี๊จะสำนึกไหม

แต่เมื่อยี่หวาเห็นว่าคนเก่งของเธอเหมือนจะโกรธแล้ว ก็รีบเดินเข้าไปอุ้มเรนจิขึ้นแล้วหอมแก้มลงไปหนึ่งฟอดแรงๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน “คนเก่งอย่างอนหม่ามี๊สิ หม่ามี๊ผิดไปแล้ว คราวหลังหม่ามี๊จะขับช้าๆ โอเคไหมครับ”

เรนจิยังคงทำหน้านิ่งทั้งๆ ที่ในใจหายโกรธตั้งแต่ถูกหม่ามี๊อุ้มแล้ว

ไม่ได้! เขาต้องเก๊กไว้ ไม่งั้นหม่ามี๊จะเสียนิสัยได้

ยี่หวาที่เห็นว่าเรนจิยังคงงอนก็รีบหอมแก้มเขาอีกครั้ง “หายงอนหม่ามี๊เถอะนะ คนเก่งไม่เหมาะกับทำหน้าบึ้งเลย ไหนยิ้มให้หม่ามี๊ดูสิ”

เมื่อเรนจิถูกหอมแก้มอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าที่เก๊กไว้ก็พังทลายลงทันที หม่ามี๊ของเขาร้ายเกินไปแล้ว เขาไม่สามารถงอนหม่ามี๊ได้เลย

“เรนเป็นห่วงหม่ามี๊”

“หม่ามี๊รู้ ทีหลังหม่ามี๊จะขับช้าๆ แล้วจริงๆ”

หลังจากวันนี้เธอต้องหาซื้อรถใหม่แล้วสิ เอาที่เครื่องยนต์ปกติ เพราะรถคันนี้เครื่องมันแรงเกินไป แถมรถก็ไม่ติดอีกเลยเหยียบเพลินไปหน่อย

“สัญญานะครับ” เด็กน้อยพูดขึ้นพร้อมกับชูนิ้วก้อยขึ้นมา

ยี่หวาขยับเด็กน้อยในอ้อมกอดนิดหน่อยเพื่อที่จะอุ้มด้วยมือเดียวได้สะดวก จากนั้นก็ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วของคนเก่งของเธอ “สัญญาจ้ะ”

“เรนลืมเลยว่าหม่ามี๊อุ้มเรนอยู่ ขอโทษครับ”

“สบายมาก จริงสิคนเก่งหยิบผ้าปิดปากในกระเป๋าสะพายหม่ามี๊ให้หน่อย”

“ทำไมครับ”

“มันเป็นไอเทมป้องกันจ้ะ”

ยี่หวาไม่อยากให้ใครเห็นหน้าของเธอเท่าไหร่ มันเสี่ยงเกินไป เพราะวายุเป็นถึงท่านประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ถ้าคนอื่นคิดว่าคนธรรมดาแบบเธอเกี่ยวข้องกับเขา…

เขาจะเสียหายเอาได้

ส่วนเรนจิก็ได้แต่ทำหน้างงๆ ก่อนจะหยิบผ้าปิดปากในกระเป๋าสะพาย แล้วนำมาคล้องไว้ที่หูหม่ามี๊ทั้งสองข้างแต่โดยดี

จากนั้นยี่หวาก็อุ้มเรนจิเข้ามาในบริษัท พนักงานที่อยู่ที่นี่ต่างก็หันมามองที่ยี่หวากันเป็นตาเดียว เพราะทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!

ทำไมเธอถึงได้มาอุ้มคุณชายน้อยเรน!

อีกอย่างคุณชายน้อยก็ไม่ชอบให้ใครมาอุ้ม แม้แต่ท่านประธานเองก็ยังไม่เคยอุ้มลูกชายต่อหน้าพวกเขาเลย อย่าบอกนะว่าคนคนนี้จะเป็นแม่ของคุณชายน้อย

“แต่ว่าดิฉันต้องทำตามกฎค่ะ คุณชายน้อยได้โปรดเข้าใจดิฉันด้วยนะคะ” สีหน้าพนักงานตอนนี้ดูจนตรอกมาก

แต่พอพนักงานตรงหน้าพูดจบ เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเรนจิไม่พอใจมากกว่าเดิมเสียอีก ยี่หวาที่รู้สึกถึงรังสีอำมหิตในอ้อมกอดเธอ ก็เลยเอ่ยปากพูดอย่างอ่อนโยน “คนเก่งอย่าโกรธไปเลย ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ”

ยี่หวาเข้าใจพนักงานคนนี้ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นถึงท่านประธานของบริษัทแห่งนี้ ก็ไม่แปลกที่จะมีกฎเข้มงวดแบบนี้ คงเป็นเพราะว่าเธอมาเร็วเกินไป บางทีเขาอาจจะยังไม่ได้บอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าเธอจะมาหาก็ได้

ซึ่งพอเรนจิได้ยินหม่ามี๊พูดเช่นนี้สีหน้าก็คลายลง แต่ก็ยังแฝงความไม่พอใจอยู่บ้าง

ส่วนพนักงานหญิงคนนี้ แม้ตอนแรกจะไม่ชอบยี่หวา เพราะขนาดเธอใส่ผ้าปิดปากก็ยังรู้ว่าเธอต้องเป็นคนที่สวยมาก แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่ว่า สวยไร้สมอง เพราะก่อนหน้านี้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาที่นี่ พอถูกห้ามไม่ให้ขึ้นไปก็ร้องโวยวายใหญ่ ทำให้เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน

ยี่หวาไม่ได้พูดอะไรต่อเดินมานั่งลงตรงที่รับรอง จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาวายุว่าเธอถึงแล้ว รออยู่ข้างล่าง ส่วนเรนจิที่อยู่ในอ้อมกอดของหม่ามี๊เห็นข้อความที่ส่งไปก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารู้ว่าอีกไม่เกินสิบวินาที พ่อเขาจะต้องลงมาถึงข้างล่างแน่

ขณะเดียวกันในห้องทำงานของวายุ ทันทีที่เขาได้รับข้อความจากยี่หวาก็แทบจะเก็บอาการไม่อยู่ รีบลุกออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ลิฟต์ นิ้วชี้กดเลขหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ธาราธรที่นั่งอยู่ในห้องกระจกใสตรงข้าม และพนักงานคนอื่นๆ ก็ได้แต่ทำหน้าตื่นตระหนก เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นท่านประธานรีบร้อนขนาดนี้มาก่อนเลย

มันเกิดอะไรขึ้น!?!

ไม่ใช่ว่าบริษัทกำลังจะล้มละลายหรอกนะ…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม