ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 51

เมื่อลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่งวายุก็รีบเดินมายังจุดที่ยี่หวากำลังนั่งรออยู่ ซึ่งยี่หวาที่เห็นดังนั้นก็ทำหน้าตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนลงมารับเธอด้วยตัวเอง

รวมถึงพนักงานคนอื่นๆ ที่เห็นท่านประธานลงมาข้างล่าง แถมยังเดินไปทางจุดที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ ดวงตาก็เบิกกว้างอย่างฉับพลัน ส่วนพนักงานประชาสัมพันธ์ เมื่อเห็นว่าท่านประธานลงมารับผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวเอง ก็ลนลานหน้าถอดสี

เพราะเธอไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ขึ้นไป ทำให้ท่านประธานต้องลงมารับด้วยตัวเอง คราวนี้ซวยแน่ๆ เลย…

“เธอมาแล้วเหรอ” วายุเอ่ยด้วยเสียงเรียบที่แฝงไปด้วยความนุ่มนวล

เมื่อกี้…พวกเขาเห็นอะไร พวกเขาตาฝาดไปหรือเปล่า ทำไมแววตาที่ท่านประธานมองผู้หญิงคนนั้นมันถึงได้อบอุ่นขนาดนี้

นี่เป็นครั้งแรก ที่พวกเขาได้เห็นท่านประธานอ่อนโยน…

“เอ่อ…ค่ะ” ยี่หวาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี เพราะตอนนี้พนักงานคนอื่นๆ กำลังจ้องเขม็งมายังเธอเป็นจุดเดียว ดีนะที่เธอใส่ผ้าปิดปากไว้ก่อน

“ทำไมมาถึงเร็ว” เพราะเขายังไม่ได้แจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์เลยว่าจะมีคนมาหา…

จะว่าไปทำไมเขาไม่โทรลงมาบอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทำไมเขาถึงได้ลงมารับเธอด้วยตัวเอง

พอเรนจิได้ยินพ่อของเขาพูดก็รีบเสริมขึ้นทันที “หม่ามี๊ขับรถเร็วมาก ขับมาจากโรงเรียนผมถึงที่นี่แค่สิบนาที เผลอๆ ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ”

ยี่หวาเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก้มหน้าลงมองเด็กน้อยเมื่อได้ยินคนเก่งของเธอกำลังฟ้องพ่อตัวเองอยู่

วายุหลุบตาลง แววตาดุดัน จ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้พูดอะไร แต่ยี่หวาก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังโกรธที่เธอขับรถเร็วตอนที่ลูกชายของเขาอยู่ด้วย

“ฉันขอโทษ ทีหลังฉันจะไม่ขับเร็วตอนที่เรนอยู่ด้วย”

ยี่หวาทำหน้าสำนึกผิด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายตรงหน้าเธอตอนนี้กลับโกรธเธอยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ทำเอาพนักงานที่อยู่รอบๆ นี้รู้สึกว่าอยู่ๆ อุณหภูมิที่นี่ก็ลดต่ำลงอย่างเฉียบพลัน

แต่แล้วอยู่ๆ ยี่หวาก็รู้สึกได้ว่าคนที่กำลังโกรธไม่ได้มีแค่ผู้ชายตรงหน้าเธอเพียงคนเดียว แต่รวมถึงเด็กน้อยในอ้อมกอดของเธอด้วย

แย่แล้ว!

เธอลืมไปเลยว่าคนเก่งของเธอก็อยู่ด้วย เรนจะต้องคิดว่าถ้าเขาไม่อยู่เธอจะต้องขับรถเร็วสินะ

“เอ่อ…คือ” ยี่หวายังไม่ทันได้พูดอะไรก็มีเสียงเล็กๆ ดังขึ้นแทรกมาก่อน

“ผมอยากลง”

ยี่หวาไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่วางเด็กน้อยลงที่พื้นอย่างจำใจ เพราะเธอไม่กล้าง้อคนเก่งของเธอเหมือนที่ทำก่อนหน้านี้ต่อหน้าท่านประธานคนนี้ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยทำ แต่พอรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกลับไม่มีความกล้าหลงเหลืออยู่เลย

ส่วนเรนจิเมื่อเห็นว่าหม่ามี๊วางเขาลงจริงๆ สีหน้าเหยเกดวงตาเริ่มสั่นไหว

ทำไมครั้งนี้หม่ามี๊ไม่ง้อเขาแบบเมื่อกี้

หรือว่าเขาจะเอาแต่ใจมากจนหม่ามี๊รำคาญ

แต่เขาก็แค่เป็นห่วงหม่ามี๊ เขาไม่อยากให้หม่ามี๊ขับรถช้าแค่ตอนอยู่กับเขาเท่านั้น

เรนจิเริ่มรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมา เขาที่ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นยกเว้นหม่ามี๊ เพราะงั้นตอนนี้เขาจะร้องไห้ไม่ได้

แต่ตอนนี้คงต้องกลับไปตั้งหลักก่อน

ขณะที่ยี่หวากำลังจะเดินออกไปจากที่นี่ ก็มีเสียงสั่นๆ ลอยมาจากข้างหลังเธอเสียก่อน “ขอโทษนะคะคุณผู้หญิง”

แต่พอยี่หวาหันไปก็พบกับพนักงานประชาสัมพันธ์คนเมื่อกี้

ผู้หญิงคนนี้คุยกับใคร?

เธอเหรอ…???

“เรียกฉัน” ยี่หวาทำหน้างงๆ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเองเพื่อความแน่นอน และจะได้ไม่หน้าแตกทีหลัง

“ใช่ค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงต้องการขึ้นไปห้องท่านประธานดิฉันพาไปได้นะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ อีกอย่างขืนขึ้นไปตอนนี้มีแต่จะทำให้ทั้งคู่โกรธกว่าเดิม แล้วฉันก็ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการด้วย” ว่าจบยี่หวาก็เดินออกมาจากบริษัทเลย

ถึงแม้ยี่หวาจะคิดแบบนั้น แต่พนักงานคนนี้กลับคิดว่าท่านประธานกับคุณชายน้อยคงอยากให้ผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปง้อมากกว่า เพราะเธอทำงานกับท่านประธานมาห้าปีแล้ว จะไม่รู้ได้ยังไงว่าท่านประธานคิดอะไรอยู่

ท่านประธานชอบผู้หญิงคนนี้…

ซึ่งคราวนี้เธอก็ซวยแล้วสิ ดันรั้งผู้หญิงคนนี้ไว้ไม่ได้

สงสัยคงต้องลองค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วว่าใบลาออกเขียนยังไง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม