ฉากที่ 55 ย้อนกลับไปเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้าที่เวนิสจะโดนรถชน เธอกำลังแอบตามผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็คือทราฟฟิค ก่อนหน้านี้เธอได้สารภาพรักกับเขาแต่ก็โดนปฏิเสธแถมเขายังเดินหนีเธออีก ด้วยความที่เธอไม่ยอมแพ้จึงแอบเดินตามเขาต่อไป แต่ในจังหวะนั้นเองที่ทราฟฟิคกำลังข้ามถนน อยู่ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร็ว เวนิสที่เห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปผลักทราฟฟิค สุดท้ายแล้วเธอก็โดนรถคันนั้นชนเข้าเต็มแรง
ทราฟฟิคที่ล้มเพราะโดนผลักรีบลุกขึ้นวิ่งไปหาเวนิส เขาประคองตัวเธอที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ในแววตามีแต่ความหวาดกลัว กลัวว่าจะสูญเสียเธอไป ทราฟฟิคตะโกนเรียกชื่อเวนิสออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาคลอที่ถูกกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหล มือสองข้างกอดเธอเอาไว้แน่น
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับกวินรู้สึกได้ว่าเดวิลเล่นดีกว่าทุกครั้ง เขาสามารถเผยอารมณ์ความเศร้าออกมาได้อย่างตรงจุด เหมือนกับว่าเขากลัวสูญเสียเธอไปจริงๆ ส่วนคนอื่นๆ ที่ยืนดูอยู่ถึงกับพูดไม่ออก เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเดวิลจะเล่นฉากเศร้าออกมาได้เศร้าขนาดนี้
“คัท! เยี่ยม! เยี่ยมจริงๆ ทั้งสองคนทำดีมาก”
เสียงผู้กำกับดังขึ้น สติทุกคนก็กลับมาใบหน้ามีแต่ความตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทีมงานแต่ละคนไม่รอช้ารีบเอ่ยขึ้น
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะร้องไห้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนที่ถ่ายฉากนี้ฉันยังไม่ร้องเลย” เพราะก่อนหน้านี้เดวิลเคยถ่ายฉากนี้แล้วกับดารานักแสดงคนก่อน
“นี่เป็นครั้งแรกที่เดวิลเล่นฉากเศร้าแล้วทำฉันร้องไห้ได้”
ยี่หวาลืมตาขึ้นมาก็เห็นทุกคนน้ำตาคลอเบ้า ดวงตาแดงก่ำ ฉากเมื่อกี้มันเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะเธอหลับตาอยู่ตลอดเลยไม่รู้ว่าออกมาเป็นยังไงบ้าง
ยี่หวารีบเดินไปหาผู้กำกับทันที “ผู้กำกับฉันอยากดูฉากที่ถ่ายเมื่อกี้ค่ะ”
“ไม่ต้องดู เธอรีบไปเปลี่ยนชุดเลย” เดวิลเดินมาดึงแขนยี่หวาให้ไปยังห้องแต่งตัว เพราะเขายังไม่อยากให้เธอเห็นเขาร้องไห้ เดวิลก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน ว่าจะเล่นออกมาได้แบบนั้น หรือเพราะว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นยี่หวา เขาเลยกลัวว่าจะเสียเธอไปอีกครั้งจริงๆ
“ไม่ดูก็ได้ ไว้หนังเข้าโรงเมื่อไหร่ฉันจะรีบซื้อตั๋วเลย”
พอยี่หวาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้องรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าที่ฝากเดวิลเอาไว้เพราะพีรพัฒน์หนีเธอกลับไปตั้งนานแล้ว
จากนั้นก็กดเบอร์โทรหาเรนจิทันที รอเพียงไม่นานปลายสายก็ถูกรับ “คนเก่งทำอะไรอยู่จ๊ะ”
“ผมเพิ่งกลับมาถึงบ้านกำลังจะอาบน้ำครับ แล้วหม่ามี๊ทำอะไรอยู่ครับ”
“หม่ามี๊เพิ่งเลิกงาน กำลังจะกลับคอนโด”
“หม่ามี๊พักผ่อนเยอะๆ นะครับ งั้นผมไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับ”
“ฝันดีจ้ะ”
“ฝันดีครับหม่ามี๊”
หลังจากที่ยี่หวาวางสายจากเรนจิ เดวิลก็ไม่รอช้ารีบพุ่งเข้าไปหายี่หวาเพื่อถามคำถามทันที “เธอมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ไม่ใช่ลูกชายฉัน” แต่ถ้าใช่จริงๆ ก็จะดีมากเลย
“งั้นลูกใคร ทำไมเธอต้องแทนตัวเองว่าหม่ามี๊ด้วย”
“ลูกของคุณวายุ”
“สรุปข่าวลือเป็นเรื่องจริงสินะที่ว่าเขามีลูกแล้ว” เพราะแบบนี้เองสินะก่อนหน้านี้เขาถึงไม่บอกว่าเธอเป็นอะไรกับเขา “แล้วใครเป็นแม่ของเด็ก”
“ดาหลา”
เดวิลถึงกับชะงัก ถลึงตาโตก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างตกใจ “ฮะ? เธออย่ามาล้อฉันเล่นนะ ฉันไม่ตลกด้วย”
“เรื่องจริง แม่ของเรนคือน้องสาวต่างแม่ฉัน”
“บ้าไปแล้ว เรื่องนี้มันบ้าไปหมดแล้ว” วายุไม่ได้เกลียดผู้หญิงคนนั้นมากเหรอ ทำไมถึงได้ไปมีลูกกับเธอได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่
“ทำไมเหรอ มีอะไรหรือเปล่า นายดูตกใจมากเลยนะ”
“คุณรู้จักด้วยเหรอคะ สนใจดื่มด้วยกันไหมคะ” ยี่หวาหยิบขวดเหล้าขึ้นกำลังจะเทให้เขา แต่เจ้าตัวกลับดึงแก้วเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว
“ผมไม่ชอบดื่มเหล้าผสมครับ” นี่คงเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุด เขาตั้งใจจะมามอมเหล้าเธอ แต่ดูแล้วถ้าขืนเขายังอยู่ต่อมีหวังคนที่ถูกมอบเหล้าอาจจะเป็นเขาเองก็ได้ “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เพื่อนผมคงตามหาแย่แล้ว”
“ค่ะ” ยี่หวาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่รีบร้อนลุกออกไปจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว
“มีอะไร คนเมื่อกี้ใคร” เดวิลที่เพิ่งเดินกลับมาที่โต๊ะถามขึ้นทันที เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งลุกจากโต๊ะของเขาไปด้วยท่าทางเสียดาย
“ไม่รู้จัก” ยี่หวาตอบอย่างไม่สนใจ เพราะเธอก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ผู้ชายแบบนี้เธอเจอมาเยอะ ซึ่งเธอก็สามารถโต้กลับได้อย่างสบายๆ
“อ่าว…แล้ว?” เดวิลยังพูดไม่ทันจบยี่หวาก็สวนขึ้นทันที
“ดื่มต่อเถอะ”
“ก็ได้”
ทั้งคู่นั่งดื่มไปเรื่อยๆ พร้อมกับคุยเรื่องตอนสมัยเรียน เดวิลเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนยี่หวาโดนคนทั้งโรงเรียนเกลียดเพราะถูกเพื่อนในห้องใส่ร้าย โดยเฉพาะน้องสาวของเธอ แต่ผู้อำนวยการก็รู้ความจริงจากกล้องวงจรปิด ทำให้คนทั้งโรงเรียนต่างก็มองเธอใหม่ ส่วนเธอก็ได้เลื่อนชั้นมาอยู่ห้องเดียวกับเดวิล พวกเราเป็นเพื่อนกันได้เพราะเธอไปปลุกเขา แถมช่วงแรกๆ เธอยังกลัวเขาอีกถึงขนาดไม่บอกว่าตัวเองแพ้กุ้งจนต้องไปห้องพยาบาล
เดวิลที่เหมือนจะเริ่มเมาแล้วก็ยังคงเล่าต่อไปทั้งเรื่องที่ให้เธอช่วยแปลการ์ตูน ติวหนังสือ สอนการบ้าน ไหนจะเรื่องสมัยรับน้องที่พวกเขาทั้งสองคนโดดประชุมเชียร์จนต้องโดนทำโทษอีก มีแต่เรื่องสนุกๆ ทั้งนั้นเลยถ้าเธอกลับไปจำได้ก็ดีน่ะสิ
แต่จะว่าไปถ้าเดวิลเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ส่วนธาราธรเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน แล้วคุณวายุเกี่ยวข้องกับเธอยังไง เพราะอายุเธอกับเขาก็ห่างเกือบสิบปี ไม่มีทางที่พวกเราจะมารู้จักกันได้เลย
“นายบอกว่าคุณธาราธรเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนของเรา แล้วคุณวายุล่ะเป็นใคร เขาอายุห่างจากเราตั้งเยอะ ทำไมพวกเราถึงได้รู้จักกับเขาได้”
“เอ่อ…” ถึงแม้ว่าเดวิลจะเริ่มเมาแล้ว แต่สติเขายังครบถ้วนดีอยู่ ดังนั้นเรื่องของผู้ชายคนนั้นก็ควรจะให้เขาเป็นฝ่ายพูดเองมากกว่า “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” และเดวิลก็ลุกขึ้นจากโต๊ะไปเลย
สรุปว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับวายุ ต้องให้เขาเป็นคนพูดออกมาเองสินะ ยี่หวารู้ว่าเดวิลคงหนักใจถ้าเธอจะถามซ้ำอีก งั้นเธอก็จะไม่ถามเรื่องนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม