ยี่หวานั่งที่โต๊ะคนเดียวได้ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาอีกแล้ว “สวัสดีครับคนสวย ตรงนี้มีคนนั่งไหมครับ” เขาชี้ไปที่เก้าอี้ว่างข้างเธอ
“ไม่ค่ะ”
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนผมขอนั่งด้วยนะครับ” รบกวนค่ะ รบกวนมาก
แต่ถ้าอยากนั่งมากก็ “เชิญค่ะ”
“ขอบคุณครับ ว่าแต่คุณไม่ได้มากับแฟนใช่ไหม”
“ค่ะ ฉันมากับเพื่อน”
“ไม่ทราบว่าคุณทำงานอะไรเหรอครับ” ถามแบบนี้คิดว่าเธอไม่รู้จุดประสงค์ของเขาสินะ ได้! งั้นเธอก็จะเล่นด้วย อย่าเพิ่งยอมแพ้ไปก่อนแล้วกัน
“ออกแบบค่ะ”
“เงินคงน้อยสินะครับ พอดีผมเป็นเจ้าของบริษัทพีแอนด์ดี คุณเคยได้ยินบ้างไหม”
“ไม่เคยค่ะ”
“น่าแปลก เพราะผมว่าบริษัทผมก็ใหญ่พอควรนะ”
“พอดีฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศค่ะ ก็เลยยังไม่ค่อยรู้จักอะไรที่นี่เท่าไหร่”
“อย่างงี้นี่เอง ผมว่าอีกเดี๋ยวคุณก็คงรู้จักเอง ว่าแต่คุณดื่มเหล้าแรงจังนะครับ ไม่กลัวเมาเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“พอดีที่โต๊ะผมกำลังดื่มแมคคัลแลน 1939 คุณสนใจไปร่วมโต๊ะกับผมไหมครับ” จะอวดว่าตัวเองดื่มเหล้าราคาสามแสนกว่าบาทสินะ
“ขอผ่านค่ะ พอดีแอลกอฮอล์แค่สี่สิบฉันดื่มแล้วไม่รู้สึกค่ะ” เธอรู้สึกเหมือนกินน้ำเปล่าจริงๆ
“คุณนี่คอแข็งมากเลยนะครับ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเห็นผู้หญิงดื่มเหล้าเก่งขนาดนี้”
“ถ้าดื่มไม่เก่ง เดี๋ยวถูกผู้ชายมอมได้” ยี่หวาพูดด้วยท่าทางจริงจัง แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ตัว
“นั่นสิครับ อีกอย่างคุณก็เป็นคนที่สวยมากๆ เลย คุณรู้ไหมมีผู้ชายมองมาทางคุณเยอะมาก แต่พวกเขาคงไม่กล้าเดินเข้ามา”
“พวกเขาทำถูกแล้วค่ะ”
ผู้ชายตรงหน้าหัวเราะกลบเกลื่อน “คุณนี่ตลกจังเลยนะครับ”
“เหรอคะ”
ขณะที่เธอกำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนนี้อยู่ เดวิลที่กลับมาจากห้องน้ำก็เดินเซมาเลย ยี่หวารีบลุกขึ้นไปรับ “ใครมอมเหล้านายมาเนี่ย!”
“อาการมันเพิ่งออก ฉันไม่ไหวล่ะขอนอนพักก่อนแล้วกัน รู้สึกเหมือนจะตายยังไงไม่รู้ ร่างกายมันร้อนไปหมด” เดวิลไม่คิดเลยว่าเขาจะดื่มแพ้ยี่หวา แต่ต้องยอมรับว่าเธอคอแข็งมากจริงๆ คงไม่ต้องห่วงแล้วว่าใครจะมอมเหล้าเธอ
“เพื่อนคุณเหรอครับ” ผู้ชายคนนี้ถามขึ้นทันทีที่เดวิลหลับไป หมอนี่อ่อนแอจัง
“ใช่ค่ะ”
“ว่าแต่คุณไม่สนใจไปดื่มที่โต๊ะผมจริงเหรอ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันต้องคอยดูเพื่อน” ดีจริงๆ ที่มีหมอนี่อยู่ พอใช้เป็นข้ออ้างได้
“ถ้าอย่างนั้นนี่นามบัตรผม เดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลืออะไรก็ติดต่อมาได้นะครับ” เขาหยิบนามบัตรสีทองออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เธอ
“ค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่คุณอุตส่าห์ใส่เสื้อแบรนด์ของฉัน แต่ถ้าคุณสนใจชุดโอต์กูตูร์ก็ติดต่อที่สำนักงานฉันได้เลยค่ะ ตอนนี้เฮอเซนเปิดสำนักงานย่อยที่ไทยแล้วค่ะ” ยี่หวาพูดขึ้นแต่อีกฝ่ายก็ยังคงทำหน้างงอยู่ “พอดีฉันเป็นเจ้าของแบรนด์เฮอเซนค่ะ”
“ฮะ? คุณเป็นซีอีโอเฮอเซนเหรอครับ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างตกใจ แต่เพื่อให้แน่ใจจึงถามซ้ำอีกครั้ง
“ใช่ค่ะ” สิ้นเสียงยี่หวาอีกฝ่ายถึงกับหน้าถอดสี ถ้าเธอเป็นเจ้าของแบรนด์เฮอเซน แสดงว่าเธอต้องรวยมากสิ เพราะชุดที่เขาใส่อยู่ถึงแม้ว่าจะเป็นชุดเรดดี้ทูแวร์แต่ราคาก็เกือบสามแสน
“เอ่อ...งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ” ยี่หวาสีหน้าเรียบเฉยส่งยิ้มให้เขา แต่ในใจรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าเธอจะอยากเป็นผู้หญิงที่ให้ผู้ชายเลี้ยงหรือไง
แล้วตอนนี้เธอจะทำยังไงกับเดวิลดี ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหลับลึกแล้วด้วย เพราะไม่ว่าเธอจะปลุกยังไงเขาก็ไม่ยอมตื่น หมอนี่ทิ้งผู้หญิงบอบบางแบบเธอให้ดูแลงั้นเหรอ ไหนบอกว่าจะปกป้องเธอไง
แล้วนี่อะไร...???
มาหลับใส่กันซะงั้น!!!
แถมเธอยังไม่รู้อีกว่าบ้านเขาอยู่ไหน แล้วจะให้ไปส่งเขาที่ไหน เธอเพิ่งรู้จักเขาได้แค่วันเดียวเองนะ อีกอย่างเธอก็ไม่กล้าโทรไปหาพีรพัฒน์ด้วย เดี๋ยวโดนบ่นกลับมาอีก
จะว่าไปวายุรู้จักเดวิลด้วย บางทีเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าบ้านหมอนี่อยู่ที่ไหน ครั้งนี้คงต้องหวังพึ่งเขาแล้ว ไม่รอช้ายี่หวารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาวายุทันที
เมื่ออีกฝ่ายรับสาย ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดเขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “เธออยู่ไหน ทำไมเสียงดังแบบนั้น ยังไม่ถึงคอนโดอีกเหรอ”
“เอ่อ...ยังค่ะ พอดีฉันอยู่ที่บาร์แถวสตูดิโอค่ะ มาดื่มกับเดวิลนิดหน่อย”
“เธอเจอเขาแล้ว?”
“ใช่” วายุสีหน้าเรียบเฉยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น เดินมาโอบไหล่ยี่หวาเหมือนเดิม ยี่หวามองหน้าเขาเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นอะไร ซึ่งสีหน้าเขาก็นิ่งเหมือนเดิม
“คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ นั่นภรรยาของคุณเลยนะ”
คราวนี้ใบหน้าวายุคิ้วเริ่มขมวดด้วยความไม่พอใจ “ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันยังไม่แต่งงาน” แล้วถ้าเขาจะมีภรรยาจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นยี่หวาแค่คนเดียว
“ขอโทษค่ะ งั้นไปกันเถอะ” ยี่หวาหันหลังกลับแต่ในมือแอบถือโทรศัพท์แล้วกดถ่ายรูปพวกเขา อย่างน้อยก็ควรถ่ายเก็บไว้เป็นไอเทมป้องกันในอนาคต
วายุรู้ว่ายี่หวาแอบถ่ายรูปดาหลาแต่เขาก็ไม่พูดอะไร กลับดีเสียอีกเผื่อวันข้างหน้าเขาจะได้ใช้รูปพวกนี้มาตัดขาดกับเธอ
ยี่หวายังไม่แน่ใจว่าตอนนี้วายุรู้สึกยังไง เพราะสีหน้าเขาแทบจะเหมือนเดิมตลอดเวลา แต่อย่างน้อยเธอก็ควรปลอบเขาหน่อย ยี่หวาจึงเอื้อมไปจับมือของวายุแล้วบีบเบาๆ คราวนี้วายุหัวเราะออกมาเล็กน้อย ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวเธอ
“ไม่เป็นไร ฉันกับผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ฉันชอบที่เธอจับมือฉัน”
ยี่หวาทำท่าจะปล่อยมือ แต่ก็ถูกเขาจับเอาไว้แน่น ยี่หวาจึงต้องยอมให้เขาจับต่อไป จะว่าไปพอได้จับมือเขาแล้วเธอกลับรู้สึกอบอุ่นยังไงไม่รู้ เหมือนเป็นความคุ้นเคย
ส่วนผู้ชายที่เล็งยี่หวาไว้ตั้งแต่แรกก็คอตกกันเป็นแถว เพราะถ้าแฟนเธอจะดูดีมีฐานะขนาดนี้ พวกเขาก็คงต้องยอมแพ้แต่โดยดี อีกอย่างพวกเขาทั้งคู่ก็เหมาะสมกันจริงๆ
“แล้วสรุปคุณรู้จักบ้านของเดวิลไหมคะ”
“รู้” เพราะเมื่อก่อนยี่หวาต้องไปทำรายงานที่บ้านเดวิลบ่อยๆ วายุที่ต้องคอยไปรับไปส่งจึงรู้ดี
“งั้นคุณไปส่งเดวิลได้ไหม เดี๋ยวฉันจะขับรถกลับคอนโดเลย” เพราะตอนนี้ยี่หวาอยากพักผ่อนแล้ว ความเกรงใจที่มีก่อนหน้าจึงหายไปหมด
“ทิ้งรถไว้ที่นี่” แสดงว่าเขาจะให้เธอกลับกับเขาด้วยสินะ
“ฉันไม่เมาจริงๆ ไม่เป็นไรค่ะ”
“อันตราย”
“แต่พรุ่งนี้ฉันต้องใช้รถไปทำงาน”
“อีกคัน” วายุจำได้ว่าเธอมีรถนอกสองคัน คันแรกคือคันที่เธอเคยขับมารับเรนจิที่บ้าน ส่วนอีกคันคือรุ่นแอสตันมาร์ติน
เขายังไม่ลืมรถนอกคันนั้นของเธอไปอีกเหรอ แต่ถึงยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ “แต่มันเร็ว ฉันไม่อยากให้เรนโกรธฉันค่ะ”
“เรนเข้าใจ”
“โอเคค่ะ ฉันจะกลับกับคุณ งั้นเรารีบกลับกันเถอะค่ะ พรุ่งนี้ฉันมีถ่ายหนังต่อ”
ยี่หวายอมแพ้แต่โดยดี เพราะยังไงเธอก็ไม่มีทางเถียงชนะผู้ชายคนนี้หรอก…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม