ทันใดนั้นเกาจ้านเอามือปิดปาก และเงียบลงอย่างกะทันหัน
เซิ่งอันหรานหันศีรษะไปมองเกาจ้าน สีหน้าดูไม่ได้เลย
ยังคงเป็นรักตั้งแต่วัยเด็กจนแก่เฒ่าสินะ
ถานซูจิ้นโกรธสะสมมานานมากแล้ว
“ก็ยังรู้นี่ พูดต่อสิ”
เมื่อดูจากท่าทางแล้ว ถ้าไม่ยอมรับผิดและผ่อนปรน ก็จะต้องทำตามอวี้หนานเฉิงต้องรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าชั่งน้ำหนักกันดูแล้ว เกาจ้านเลยเลือกที่จะหยุดพฤติกรรมนี้ชั่วคราว
“วิเวียนเป็นชื่อภาษาอังกฤษ เธอชื่อหลินมั่นหัน ตระกูลหลินกับตระกูลของเราและตระกูลอวี้ล้วนเป็นเครือญาติกัน ผมกับหนานเฉิงและพี่ใหญ่พี่รองของเธออายุพอๆกัน ตอนเด็กเลยเล่นด้วยกันบ่อย แต่หนานเฉิงค่อนข้างเป็นคนสันโดษไม่ค่อยสนใจพวกเราเท่าไหร่ และมั่นหันก็ยังเล็กอยู่ พวกเราเลยไม่ค่อยพาเธอไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นหนานเฉิงที่ดูแลเธอเสมอมา”
เด็กทั้งสองเล่นอย่างมีความสุข ผู้ใหญ่ก็มีความสุข ในตอนที่พ่อแม่ของอวี้หนานเฉิงยังมีชีวิตอยู่พวกเขาอยากได้ลูกสาวมาโดยตลอด เมื่อได้เจอหลินมั่นหันก็มักจะมีความมากว่าได้เจอลูกชายตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงทำสัญญาหมั้นหมายกัน อวี้หนานเฉิงเองก็ไม่ได้คัดค้าน ตระกูลหลินจึงปีนขึ้นไปอยู่เหนือตระกูลอวี้ได้อย่างมีความสุขแบบนี้
เดิมทีเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง แล้วเมื่อหลินมั่นหันเรียนจบกลับประเทศมาก็จะได้แต่งงานกัน แต่ในตอนที่เธอเรียนอยู่ฝรั่งเศสเธอก็มีรักแรกพบ เพื่อที่จะล้มเลิกการหมั้นกับอวี้หนานเฉิง เธอกลับมาทะเลาะกับพ่อแม่ใหญ่โต จนในที่สุดก็ได้แต่งงานกับหนุ่มฝรั่งเศสสุดโรแมนติก
เดิมทีเป็นเรื่องราวความรักที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชนชั้น แต่เธอยังไม่รู้ผู้คนดีพอ หนุ่มฝรั่งเศสจะโรแมนติกและน่าหลงใหล แต่หลังจากแต่งงานกันได้ไม่กี่ปีก็แตกหักกัน ตอนนี้เธอจึงหย่าร้างแล้วกลับประเทศจีน
“เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ พวกคุณอย่าคิดมากเลย สัญญาแต่งงานเป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ พ่อแม่ของพี่เฉิงเสียไปหลายปีแล้ว แล้วตอนนี้มั่นหันก็ทั้งแต่งงานและหย่าร้างแล้ว และเรื่องในอดีตมันก็ผ่านมานานแล้ว”
เกาจ้านพูดสั้นๆ เขาเปิดเผยเรื่องความรู้สึกของอวี้หนานเฉิงและหลินมั่นหันในสมัยก่อนออกมาเล็กน้อย และเขาต้องการทำให้เรื่องต่างๆมันพูดง่ายขึ้น แต่จิตใจของผู้ฟังนั้น มันกลับไม่อยากได้ยินถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
ในตอนนั้นที่ตระกูลมีการทำสัญญาหมั้นกันไว้ อวี้หนานเฉิงไม่ได้คัดค้าน แต่เมื่อหกปีก่อนคุณปู่ตระกูลอวี้บังคับให้เขาแต่งงาน แต่เขาปฏิเสธ และไปหาผู้หญิงที่จะมาตั้งครรภ์เกิดลูกให้เขาแทน เขาไม่ยอมทำตามคุณปู่ ถ้าไม่ใช่เพราะหลินมั่นหัน ผมก็ไม่รู้จริงๆว่าจะอธิบายเหตุผลนี้อย่างไรดี
สีหน้าของเซิ่งอันหรานซีดลงเล็กน้อย มือของเธอกำผ้าปูเตียงแน่น ความรู้สึกทรมานในหัวใจราวกับถูกพายุฝนพัดแรง ทำให้จิตใจสับสนไปหมด
นั่นเป็นรักวัยเด็กเกือบยี่สิบปี เธอแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว
“อันหราน” เสียงของถานซูจิ้งดึงสติของเธอกลับมา
“ไม่เป็นไร ฉันก็แค่อยากพักผ่อนสักหน่อยนะ”
“โอเค งั้นเธอก็นอนห้องเดิมนะ”
เมื่อเห็นเซิ่งอันหรานจากไปอย่างสิ้นหวัง ถานซูจิ้งก็ยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่รู้จะทำยังไง
เสียงถอนหายใจดังมาจากข้างเตียง
เธอหันหลังกลับทันที และพูดอย่างโกรธเคืองว่า “คุณถอนหายใจอะไร ? ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลยนะ อวี้หนานเฉิงมีประวัติเรื่องรักที่ลึกซึ้งขนาดนี้ ทำไมคุณถึงไม่บอกให้ฉันไปบอกอันหรานล่วงหน้าล่ะ ?”
ความรักใหม่และรักเก่าล้วนเป็นปัญหาที่ไม่จบไม่สิ้น ใครจะรู้ว่าความรักเก่าของผู้ชายจะทำให้เขาทำเรื่องอะไรออกมาได้
เกาจ้านถูกดุเขาจึงพูดอย่างขมขื่นว่า “นี่มันเป็นเรื่องของพี่เฉิงเองไม่ใช่เหรอ ? ผมยังอยากให้เขาไปคุยกับอันหรานเองเลย ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆมั่นหันจะกลับมาประเทศจีน ?”
“เธอกลับมาเพื่ออะไรกันแน่ ?”
ถานซูจิ้งนั่งลงข้างเตียง “คุณรู้เหรอ ?”
เกาจ้านโบกมืออย่างรวดเร็ว “ผมจะไปรู้ได้ยังไง ? ผมแค่รู้ว่าเธอหย่าแล้วกลับมาเท่านั้น สำหรับหนานเฉิง ก็อาจจะมีความคิดที่อยากจะกลับมาเริ่มใหม่อยู่บ้างละมั้ง”
“กลับมาเริ่มใหม่ ?” ถานซูจิ้งขมวดคิ้วขึ้นมา “ถ้ากลับมาเริ่มใหม่ แล้วอันหรานจะทำอย่างไรล่ะ ?”
“เรื่องความรู้สึก คนภายนอกยุ่งมากไม่ได้หรอก” เกาจ้านปิดปากหาว เขายกผ้าห่มขึ้นมาคลุมเตรียมจะนอนหลับ
“ใครให้คุณนอนตรงนี้ ?”
ถานซูจิ้งเตะก้นของเขาแล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไปนอนโซฟาข้างนอก”
“เมื่อครู่ผมก็พูดไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ผมทรยศพี่ชายที่ดีที่สุดของตัวเองไปแล้ว แล้วคุณยังจะไม่ที่พักผมอีกเหรอ ? เกาจ้านทำหน้าเศร้า”
“ให้คุณนอนโซฟาก็ดีแล้ว ไม่งั้นก็ออกไปซะ”
“……”
หลังจากนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาทั้งคืน เซิ่งอันหรานก็ตื่นขึ้นตั้งแต่รุ่งสาง
บนโซฟา เสียงดังกรอบแกร๊บทำให้เกาจ้านสะดุ้งตื่น เขาคลำหานาฬิกาข้อมือจากโต๊ะชาด้วยสายตาที่ง่วงนอน
เธอขมวดคิ้ว และบีบถุงในมือแน่น
“ประธานอวี้ อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณมาโรงแรมทำไมแต่เช้า”
อวี้หนานเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ผมมาหาคุณ”
“น่าเสียดายจังค่ะ ฉันต้องเอาอาหารเช้าไปให้เทียนเอิน และมีเรื่องจะพูดคุยกับเขาด้วย”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่แยแสของเธอ สีหน้าของอวี้หนานเฉิงก็เคร่งขรึมขึ้น
“เมื่อคืนคุณไปไหนมา ?”
เขาตามหาเธอทั้งคืน ในตอนเช้าได้ยินว่าเธออยู่ที่โรงอาหารของโรงแรม เขาก็รีบมาหาทันที แต่กลับเจอทัศนคติที่ไม่ดีของเธอ
“มีเรื่องส่วนตัวต้องทำนิดหน่อยค่ะ”
เซิ่งอันหรานเดินผ่านเข้าไปกดลิฟต์
“เรื่องอะไร ?” เสียงของอวี้หนานเฉิงดังขึ้นมาจากข้างหลัง
“เรื่องส่วนตัว ทุกคนล้วนมีเรื่องของตัวเอง และคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องทุกรายละเอียดของฉันหรอกนะ”
“คุณหมายความว่าอย่างไร ?”อวี้หนานเฉิงจ้องมองเธอ ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ ฉันไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรที่พูดไม่ได้”
ตามหาเธอทั้งคืน มาหาเธอแต่เช้าแต่กลับต้องมาเห็นเธอเอาอาหารเช้าไปส่งให้ชายอื่น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกอึดอัดใจ และเธอก็ยังคงพูดอย่างเย็นชา
บรรยากาศเคร่งขรึมไปชั่วขณะ
“ติ๊ง” เสียงลิฟต์ที่มาถึงช่วยทำลายบรรยากาศนี้ เซิ่งอันหรานหันหลังให้กับอวี้หนานเฉิง
“เอาใจเขามาใส่ใจเรา เรื่องของคุณกับหลินมั่นหัน คุณไม่ได้บอกอะไรกับฉันเลยใช่ไหมคะ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน