ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 163

“เป็นเพราะเรื่องนี้หรอ มั่นหันพูดอะไรคุณไปบ้าง?”

อวี้หนานเฉิงมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ดูสับสน

เมื่อคืนตอนที่หาเซิ่งอันหรานไม่พบ ปฏิกิริยาแรกของเขาก็รู้เลยว่าเธออาจจะรู้อะไรมาบางอย่างเข้าแล้ว และหลินมั่นหันเข้ามาพักอยู่ที่โรงแรมเป็นเวลาหลายวันก่อนที่เขาจะรู้ว่าหลินมั่นหันคือประธานของ Sg Tourism group เขตภูมิภาคจีนตะวันออก

“เธอไม่ได้บอกอะไรฉันหรอก” เซิ่งอันหรานหัวเราะแค่นๆออกมา “เธอไม่ค่อยชอบฉันอยู่แล้ว ถึงอย่างไรคุณทั้งสองคนก็เติบโตมาด้วยกัน แล้วเธอก็ยังเป็นคู่หมั้นของคุณอีก คุณก็ชื่นชอบเธออยู่แล้ว เธอจะบอกอะไรฉันได้หรอ? ก็ขอแค่ได้ยืนอยู่ข้างกายคุณก็พอแล้ว เธอกับคุณเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ทั้งฐานะทางการเงินและครอบครัว

“เซิงอันหราน”

อวี้หนานเฉิงรีบตัดบทเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง “คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรออกมา”

“ฉันไม่รู้” เซิ่งอันหรานหันหน้าหนีจากเขา

“ถ้าคุณอยากฟังเรื่องของมั่นหัน ไปที่ห้องทำงานของคุณแล้วผมจะเล่าให้คุณฟัง ผมไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวไร้เหตุผล ซึ่งคุณก็ไม่ควรจะเป็นคนแบบนั้น ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งอันหรานก็กำหมัดแน่น เธอนอนคิดมาตลอดทั้งคืน แต่เมื่อได้เห็นอวี้หนานเฉิงทุกอย่างกลับพังทลายลง การเสียสติทำให้เธอโกรธอย่างไร้เหตุผล

แม้ว่าเธอจะเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากของอวี้หนานเฉิงเอง เธอยิ่งรู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังเอามีดมาเฉือนเนื้อตัวเองอยู่อย่างไรอย่างนั้น

เธอรีบเดินเข้าไปในลิฟต์

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้ฉันไม่กะจิตกะใจจะฟังอะไร เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังก็แล้วกัน”

หลีกเลี่ยงบ้างก็ดี บางทีเธออาจจะต้องการเวลาที่จะทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

เทียนเอินจัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว เป็นกระเป๋าเดินทางใบเล็กขนาดกว้าง 18 นิ้วสะดวกแก่การพกพา เซิ่งอันหรานฟังแผนการเดินทางของเขาอย่างเหม่อลอย แทบไม่ได้ฟังอะไรที่เขาพูดเลย

“วันนี้พี่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ ไม่สบายหรือเปล่า?”

เทียนเอินขมวดคิ้วแล้วมองไปยังเธอ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้เป็นอะไร” เซิ่งอันหรานได้สติกลับมา แล้วพูดเปลี่ยนเรื่องว่า “อ่อ ใช่สิ เมื่อกี้นายบอกว่าเครื่องออกกี่โมงนะ? เดี๋ยวฉันไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอก ตอนบ่ายสามนะ พี่น่าจะไปไม่ทัน”

“ไปทันสิ” เซิ่งอันหรานยิ้มบางๆออกมา ”ก็แค่ลางานแปบนึงก็ไปได้แล้ว”

หลังจากที่เทียนเอินไปแล้ว เซิ่งอันหรานก็กลับมาทำงานที่สำนักงาน ในระหว่างทางเดินมาที่ห้องทำงาน นั้น พนักงานที่เข้างานในตอนเช้าก็มากันเกือบครบ นอกจากการทักทายกันธรรมดาแล้ว เซิ่งอันหรานก็รู้สึกได้ว่าพวกเขามองมายังเธอด้วยสายตาที่แปลกๆ

หลังจากที่เปิดประตูห้องทำงานของตัวเองออกนั้น เธอจึงเข้าใจแล้วว่าสายตาที่แปลกๆนั้นเป็นเพราะอะไร

อวี้หนานเฉิงยังไม่ไปไหน แถมยังมาหาเธอที่ห้องทำงานอีก

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” มือของเซิ่งอันหรานจับอยู่ที่ประตู ด้วยสีหน้าตกใจกลัว

“ผมอยากจะคุยกับคุณถึงเรื่องเมื่อคืนสักหน่อย ถ้าคุณอยากให้คนข้างนอกได้ยินที่เราพูดกัน ผมก็ไม่ว่าอะไรนะ ถ้าคุณอยากจะเปิดประตูเอาไว้อย่างนั้นก็ได้”

เซิ่งอันหรานรู้สึกตกใจเล็กน้อย เหลือบมองไปข้างหลังด้วยจิตใต้สึกนึก ก็พบว่าภายในสำนักงานนั้นเงียบสนิทแม้แต่เข็มเล่มเดียวตกลงพื้นทุกคนยังได้ยินอย่างชัดเจน ต่างคนต่างแนบหูชิดติดกำแพงเอาไว้

เธอขมวดคิ้วเป็นปม แล้วปิดประตูลง

“คุณต้องการจะพูดอะไรคะ?”

“วิเวียนคืออีกชื่อหนึ่งของมั่นหัน ก่อนหน้าเมื่อคืนผมก็ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน” อวี้หนานเฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะอธิบายว่าตัวเองนั้นไม่รู้เรื่องว่าหลินมั่นหันมีความเกี่ยวข้องอะไรกับ sg Tourism group

เซิ่งอันหรานมีสีหน้าผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไร

อวี้หนานเฉิงจึงพูดต่อไปอีกว่า

เมื่ออวี้หนานเฉิงจากไป จึงเหลือเพียงเซิ่งอันหรานคนเดียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ราวกับเป็นเรื่องฝันไป เรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลาก็ผ่านไปอย่างไม่รอช้า แผนการที่เธอเคยวางไว้กลับวุ่นวายไปหมด เมื่อวันเวลาที่ผ่านไป เธอก็ยิ่งไม่รู้ว่าเธอควรที่จะบอกกับอวี้หนานเฉิงดีหรือไม่ว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แทนคนนั้นก็คือเธอนั่นเอง

เวลาที่พวกเขาทั้งสองคนคบหากันมันน้อยเกินไป เธอคิดว่าอวี้หนานเฉิงนั้นรักเธอมาก แต่ในระหว่างทางกลับมีหลินมั่นหันโผล่ขึ้นมา แล้วบอกกับเธอว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงในโลกของอวี้หนานเฉิงที่เขาจะอ่อนโยนด้วย จึงทำให้ความมั่นใจของตัวเธอนั้นหายไป

วินาทีนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแล้วดึงสติของเธอกลับมา

“อันหราน ฉันไปงัดข่าวออกมาจากปากเกาจ้านได้นิดหน่อย” น้ำเสียงของซูจิ้งในสายนั้นดูจริงจังมาก “เธอเตรียมใจเอาไว้ดีๆนะ”

“เธอพูดมาเลย”

“เหมือนว่าเมื่อสองวันก่อนคนในตระกูลหลินมั่นหันจะได้ติดต่อกับคุณท่านตระกูลอวี้ เพื่อที่จะพูดคุยกันเรื่องแต่งงานที่เคยคุยกันในปีนั้น ”

“จริงหรอ? อันนี้ไม่นับว่าเป็นข่าวใหญ่อะไรนะ” เซิ่งอันหรานถอนหายใจออกมา ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เรื่องการแต่งงานนี้ คุณท่านตระกูลอวี้ไม่สามารถมาตัดสินแทนอวี้หนานเฉิงได้ เขาต้องการที่จะแต่งกับใคร หรือว่าจะแต่งหรือจะไม่แต่งนั้น มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาเพียงคนเดียว

“เธอช่างใจกว้างเสียจริง” ถานซูจิ้งตะโกนออกมาจากในสาย

“ถ้าเธอคิดเพื่อตัวเองแล้วล่ะก็ ทางที่ดีที่สุดเธอควรกลับบ้านไปขอสินสอดจากพ่อเธอสักหน่อย จะได้ไม่เสียเปล่าประโยชน์ ฉันได้ยินเกาจ้านพูดว่า ครั้งนี้ตระกูลของหลินมั่นหันเตรียมวางเงินทุนไป ไม่ว่าจะเป็นหุ้น、ร้านค้า 、อหังสาริมทรัพย์ เขาเตรียมพร้อมไว้ทุกอย่างแล้ว เขาวางแผนอย่างเต็มที่ที่จะให้ลูกสาวเขานั้นได้แต่งงานกับตระกูลอวี้”

“อย่างนี้ไม่ได้เหมือนกับขายลูกสาวเพื่อเอาเงินหรือไง?” เซิ่งอันหรานหัวเราะออกมา “เธอคิดว่าฉันโง่หรอ”

“เธอยังหัวเราะออกมาได้ไง?” น้ำเสียงของถานซูจิ้งดูตกใจ เธอปรับน้ำเสียงแล้วพูดว่า “คิดให้ดีนะ อย่างนี้เขาเรียกว่าการลงทุน”

“เมื่อคืนเธอยังโน้มน้าวให้ฉันเลิกกับเขาอยู่เลยไม่ไช่หรอ? บอกว่าผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรที่จะรั้งไว้ให้อยู่ ”

“แต่เอาจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากนะ ก็แค่ไม่ได้บอกกับเธอก่อน ถึงจะบอกกับเธอก่อนมันก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร นั่นมันก็จะทำให้เธอรู้สึกกังวลก่อนไม่ใช่หรอ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน