ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 218

"พี่ไม่เป็นไรนะ?"

หลังจากเส้าซือรับสายก็รีบมา ทรงผมเครื่องสำอางยังไม่ได้ล้าง ทักซิโด้สีฟ้าประกายทั้งตัว เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตะลอน ๆ ยังมีหลินมู่เหยียนตามหลังมา

ตำรวจกลับไปแล้ว เซิ่งอันหรานเปิดประตูให้ทั้งสองเขามา สีหน้าอ่อนล้า

"ไม่เป็นไร"

ชาร้อนสองแก้วมีไอร้อนลอยอยู่บนโต๊ะ

เซิ่งอันหรานเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาสั้นๆ ไม่ได้พูดโดยรวม พูดแค่ทะเลาะและเลิกกับอวี้หนานเฉิง เขาลงมือทำให้เกิดเรื่องแจ้งความ

"ผมย้ายมาอยู่" เส้าซือขมวดคิ้ว "ผมไม่เชื่อ อวี้หนานเฉิงยังกล้ามาอีก ผมจะหักขาเขา"

"ไม่มีความจำเป็นนี่"

หลินมู่เหยียนที่อยู่ข้างๆ เปิดปากเสียงเข้ม "อวี้หนานเฉิงไม่ใช่คนตอแย ในเมื่อไปแล้วก็จะไม่กลับมาอีก หากเขาจะแก้แค้นคนหนึ่งจริงๆ จะไม่ลงมือด้วยตัวเอง"

"นี่ยังไม่ใช่ลงมือด้วยตัวเองเหรอ นายดูบนคอพี่สาวฉัน"

บนคอเซิ่งอันหรานมีรอยช้ำหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ขัดขืน ถูกอวี้หนานเฉิงบีบ บางทีอาจไม่ได้ตั้งใจ หรือบางทีอาจจะโมโหจนขาดสติ แต่นี่เป็นรอยแผล เป็นหลักฐานทางอาญาที่ชัดเจนที่สุดแล้ว

หากไม่ใช่หลินมู่เหยียนขวางไว้ เส้าซือจะพุ่งไปต่อยตีอวี้หนานเฉิงที่สถานีตำรวจแล้ว

"ไม่จำเป็น ฉันเรียกนายมา มีเรื่องอื่นอยากบอกนาย"

"เรื่องอะไร?"

เซิ่งอันหรานมองหลินมู่เหยียนแวบหนึ่ง

ตั้งแต่เข้าประตู หลินมู่เหยียนก็ไม่เห็นตัวเองเป็นคนนอก ตอนนี้ก็ไม่มีความอยากรู้ นั่งชิลอยู่บนโซฟา

"แต่ไหนแต่ไรฉันไม่ใช่คนปากสว่าง ในธุรกิจฉันกับอวี้หนานเฉิงเป็นคู่แข่งกัน ฉันว่าเธอไม่จำเป็นต้องระแวงฉัน ไม่แน่ ฉันยังช่วยเธอได้"

หากจะพูดถึงความหน้าด้าน ไม่มีใครสู้หลินมู่เหยียนได้

เส้าซือมองบนใส่เขา "ฉันคุยธุระกับพี่ฉัน เกี่ยวอะไรกับนาย นายกลับไปก่อน คืนนี้ฉันนอนที่นี่"

"ไม่ได้"

หลินมู่เหยียนปฏิเสธทันที เห็นชัดว่าคิดจะอยู่นี่ไม่กลับ

เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว ไม่มีกะจิตกะใจจะประนีประนอมสองคนนี้ทะเลาะกันจริงๆ

"ไม่เป็นไร ความลับนี้ฉันก็ไม่คิดจะปิดแล้ว ถือโอกาสนี้ ฉันจะขีดเส้นแบ่งตัดขาดกับเขา และจะเอาสิทธิ์เลี้ยงดูจิ่งซีคืนมา"

ส่วนตำรวจจะจัดการเรื่องนี้ยังไงกับอวี้หนานเฉิง เซิ่งอันหรานไม่มีการร้องขอใดๆ ตอนนั้นที่เธอแจ้งความไม่มีอะไรมากไปกว่าที่อยากให้อวี้หนานเฉิงไสหัวไปจากตรงนี้ หลังตำรวจมา เธอแทบจะเปลี่ยนรหัสประตูใหม่ทันที

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ไม่สนว่าจะเข้าใจผิดหรือไม่ เซิ่งอันหรานก็ไม่ทนการกระทำรุนแรง ไม่สนว่าในใจอวี้หนานเฉิงโมโหแค่ไหน ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้กำลังไม่สนความสมยอมของตัวเองมาทำให้เกิดความสัมพันธ์

ครั้งนี้ เธอไม่มีวันยกโทษให้เขาอีก

"เห็นด้วย ต้องขีดเส้นแบ่ง สิทธิ์เลี้ยงดู……สิทธิ์เลี้ยงดูอะไร?" เส้าซือนิ่ง นึกว่าเซิ่งอันหรานโกรธจนเลอะเทอะ พูดอย่างระมัดระวัง

"พี่ พี่จะชอบลูกชายอวี้หนานเฉิงยังไง ก็ไม่สามารถเอาสิทธิ์เลี้ยงดูจากลูกชายคนอื่นได้นะ"

"จิ่งซีเป็นลูกชายฉัน"

เซิ่งอันหรานหน้าขรึม มือที่กำหมัดอยู่ ถูกเล็บหยิกจนเกือบเลือดไหล

จากท่าทางเธอสามารถมองออก เธอไม่ได้ล้อเล่น

ไม่ใช่แค่เส้าซือ แม้หลินมู่เหยียนที่เป็นคนนิ่ง ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ก็ยังช็อก

ถึงอย่างไรใครก็คิดไม่ถึง อวี้หนานเฉิงที่ทั้งเมืองไม่มีคนสืบได้ว่าแม่องค์ชายน้อยเป็นใคร กลับมีความสัมพันธ์แบบนี้กับ

เพิ่งพูดจบ หลินมู่เหยียนเหยียบคันเร่ง เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดึงดูดสายตาของคนมากมายบนถนน รูปทรงรถที่เพรียวลมเหมือนจรวด วูบเดียวก็พุ่งไปแยกทางด่วน

ความกระสับกระส่ายที่รู้ความลับในค่ำคืน ทั่วเมืองเข้าสู่หมอกควัน ฝนฟ้าคะนองล้างถนนเป็นระลอก เหมือนอยากลบรอยในอดีตให้สะอาดเหมือนเริ่มใหม่อีกครั้ง

เวลาใกล้รุ่ง แสงอาทิตย์ทำลายรุ่งอรุณ

หน้าประตูสถานีตำรวจมีเสียงแหลมจากการเบรกรถดังขึ้น มีคนหนุ่มสวมสูทรองเท้าหนังลงจากรถเก๋งสีขาวอย่างรวดเร็ว

วิ่งเหงื่อตกมา เข้าสถานีตำรวจก็รีบถามตำรวจหญิง

"อวี้หนานเฉิงอยู่ไหน?"

ตำรวจหญิงมองเขาแวบหนึ่ง ทำปากชี้ไปทางห้องขังอย่างอารมณ์เสีย "โน้น ตรงนั้น รอคนในครอบครัวตลอดทั้งคืน ทำไมตอนนี้เพิ่งมา?"

"ขอโทษ เมื่อคืนมือถือแบตหมดปิดเครื่องไป"

โจวฟังเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาทำงานสุขุมรอบคอบมาโดยตลอด มีเพียงเมื่อคืนมือถือแบตหมดปิดเครื่องไป เที่ยงคืนเขาตื่นมาเข้าห้องน้ำติดนิสัยดูเวลาถึงเห็น แค่ชาร์จแบตก็ได้รับสายจากสถานีตำรวจ เหงื่อไหลลงมาทันที

หัวหน้าสูงสุดนอนอยู่สถานีตำรวจเกือบหนึ่งคืน โทรหาเขาหลายสายไม่มีคนรับ นี่ไม่ใช่รอถูกไล่ออกเหรอ เขายังต้องเก็บเงินซื้อบ้านที่จินหลิงขอภรรยาเลี้ยงลูกนะ

ตำรวจสักถามโจวฟังทั่วไปเล็กน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอวี้หนานเฉิง จากนั้นอนุญาตให้เขาเข้าไปคุยกับอวี้หนานเฉิง

"นี่หมายความว่าไง? ตอนนี้ผมยังพาเจ้านายกลับไม่ได้เหรอ?"

"แน่นอน นายคิดว่าโทษข่มขืนปล่อยคนได้ง่ายขนาดนั้นเลย?" ตำรวจหญิงหงุดหงิดเล็กน้อย

"เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พวกเรารายงานเบื้องบนแล้ว จำเลยและหลักฐานพร้อม ตอนนี้จำเป็นต้องจำคุก รอพรุ่งนี้เช้าค่อยมาฟังรายงานว่าเหยื่อจะเตรียมยื่นฟ้องหรือไม่"

"จะเป็นไปได้ยังไง? คุณเซิ่งเป็นแฟนของประธานอวี้เรา พวกเขาใกล้แต่งงานแล้ว ครั้งนี้แค่คู่รักทะเลาะกัน ไม่ใช่ที่พวกคุณบอกว่า……"

"ใช่เหรอ?" ตำรวจหญิงปิดสมุดบันทึกในมือ มองทางโจวฟัง "แต่จำเลยปฏิเสธเอง เขากับเหยื่อไม่มีความสัมพันธ์คู่รัก "