ราวกับสายฟ้าฟาดกระทบร่างของหลีเย่ว์อย่างแรง
เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หยางเสวี่ยเอ๋อร์พูด
“เป็นไปได้ยังไง….”
เธออยู่กับเฉียวเจ๋อมา 6 ปีแล้ว เธอรู้จักนิสัยใจคอของเขาเป็นอย่างดี ถึงเขาจะออกนอกลู่นอกทางไปบ้างแต่ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ ประการแรกเป็นเพราะตระกูลเฉียวนั้นเข้มงวดมาก ลูกที่จะเกิดจากดาราโนเนมนั้นทางตระกูลเฉียวไม่มีทางยอมรับ ประการต่อมา หลีเย่ว์เข้าใจดีว่าเดิมทีแล้วเขาไม่ได้มีนิสัยเจ้าชู้ขนาดนั้น
“เป็นไปไม่ได้” เธอลุกขึ้นจากพื้นและเดินโซเซ พยายามจะจับหยางเสวี่ยเอ๋อร์
"ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น"
ร่างของเฉียวเจ๋อยืนอยู่ตรงหน้าเธอ “เสวี่ยเอ๋อร์พูดถูก เธอกำลังตั้งท้องลูกของฉัน ฉันจะพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเฉียว”
หลีเย่ว์ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ทำร้ายจิตใจจากปากเฉียวเจ๋อมากมายขนาดนี้มาก่อน และไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ? พ่อกับแม่ไม่มีวันอนุญาตให้ผู้หญิงอย่างมันเข้าไปในบ้านแน่”
“ตราบใดที่ฉันยืนกราน ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
ท่าทางที่สงบของเฉียวเจ๋อทำให้หลีเย่ว์ตกใจ ตอนที่เธอแต่งานกับเขา เขาไม่เคยมีท่าทีที่มั่นคงเช่นนี้ เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจะเอาใจพ่อแม่ของเฉียวเจ๋อ
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ทุกอย่างไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพียงเล็กน้อย? เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เธอเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉียวเจ๋อ รูปร่างผอมเพรียว ไม่มีเสน่ห์ใดๆ แต่ใบหน้านั้นดูอ่อนกว่าวัยมาก เธออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบผู้หญิงคนนี้กับตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นดวงตาคู่นั้นก็หัวเราะออกมาทันที
“ฮ่าๆๆๆ” จู่ๆเธอก็หัวเราะ
เฉียวเจ๋องุนงงและขมวดคิ้ว “หัวเราะอะไร?”
หลีเย่ว์ชี้ไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขา หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและถามคำถามสองสามข้อ
“คุณชอบเธอ ก็เพราะอยากได้ของมาทดแทนในสิ่งที่คุณโหยหาสินะ ดังนั้นต่อให้เป็นของทดแทนที่มีข้อบกพร่องแค่ไหนก็ยอมรับได้”
“แกว่าใครมีข้อบกพร่อง?” หยางเสวี่ยเอ๋อร์งงงวยอย่างเห็นได้ชัด ขมวดคิ้วและรอให้หลีเย่ว์ตอบ
เฉียวเจ๋อเข้าใจ และดวงตาของเขาก็เย็นลง “หลีเย่ว์ ฉันเตือนเธอแล้วนะ หุบปากซะ”
“ปากของฉัน ฉันจะพูดอะไรก็ได้คุณกลัวอะไรงั้นเหรอ?”
หลีเย่ว์จับที่อ่างล้างมือหินอ่อน และยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียดราวกับจะร้องไห้
“แล้วคุณล่ะ? คุณทรยศเซิ่งอันหรานในตอนแรก และตอนนี้คุณพบผู้หญิงที่ดูเหมือนเธอ ก็เลยแสร้งทำเป็นว่ารักใคร่อย่างสุดซึ้ง?”
“พอแล้ว” เฉียวเจ๋อหน้าซีด
“ใครคือเซิ่งอันหราน?” หยางเสวี่ยเอ๋อร์ถามอย่างว่างเปล่า
“เซิ่งอันหรานน่ะเหรอ?” หลีเย่ว์หัวเราะออกมาดังๆ “ก็เป็น...”
เสียงตบหน้าหลีเย่ว์ส่งเสียงดังก้องอยู่ในห้องน้ำ หลีเย่ว์ถูกตบจนล้มลงกับพื้น
เฉียวเจ๋อพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอไม่มีสิทธิ์เอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ ถ้ายังอยากจะเป็นคุณนายเฉียวต่อก็หุบปากซะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปทันที
แม้ว่าหยางเสวี่ยเอ๋อร์จะอยากรู้อยากเห็น แต่เธอก็ไม่ต้องการอยู่กับหลีเย่ว์เพียงลำพัง ดังนั้นเธอจึงติดตามเขาไป
เซิ่งอันหรานละสายตาเห็นอกเห็นใจ นึกถึงสถานะของเธอในตอนนี้
หลีเย่ว์จ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่พอใจ
ท่าทีเช่นนี้ทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกอึดอัด คิ้วของเธอขมวดลงลึก “เธอมองอะไร?”
“เด็กสาวนักไลฟ์คนนั้นเหมือนเธอตรงไหน เธอยังไม่รู้สินะ อาเจ๋อน่ะกำลังคบหาอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง และหล่อนก็ดูเหมือนเธอมากด้วย”
ดูเหมือนเธอจะรอคำตอบจากเซิ่งอันหราน แต่เซิ่งอันหรานไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับเธอ นอกจากทำท่าทีเหินห่างและตอบว่า "หลีเย่ว์ เธอจะบอกฉันทำไม? ต่อให้จริงๆแล้วเธอจะอยู่กับเฉียวเจ๋อแล้วไม่มีความสุข นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“เธอจะบอกว่าปัญหาการแต่งงานระหว่างอาเจ๋อกับฉันทั้งหมดเป็นปัญหาของฉันเองงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น” เซิ่งอันหรานรู้สึกว่าความสามารถในการเข้าใจของหลีเย่ว์มีแต่การมองโลกในแง่ลบ
“เธอคิดแบบนั้น”
หลีเย่ว์พูดด้วยความเยาะเย้ย ดวงตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ
“เธอกำลังคิดอะไร? มีผู้ชายหลายคนล้อมรอบตัวเธอ ตอนสมัยเรียนก็เชนกัน พวกเขาคิดว่าเธอน่ะสูงส่ง แต่พวกเขาจะรู้ไหมว่าเธอน่ะเคยถูกพี่สาวขาย และต้องนอนกับผู้ชายพร้อมกันทีเดียว 5 คน พวกเขารู้หรือเปล่า?”
เซิ่งอันหรานรู้สึกราวกับว่าสมองของเธอจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆในทันที
ผู้คนรอบๆ ค่อยเดินเข้ามาดูทีละคน
เธอเห็นเพียงแค่หลีเย่ว์ที่กำลังเอ่ยปากพูด
“ดังนั้นเซิ่งอันเหยาน่ะสมควรตาย แม้แต่น้องสาวของตัวเองก็ไม่เว้น กล้าวางแผนส่งเธอไปแบบนั้น หล่อนไม่สมควรตายหรอกเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน