เซิ่งอันหรานก้มหน้าดื่มชา หลังจากได้ฟังคำถามของชายชรา ก็ยิ้มจางๆ
“จิ่งซีเป็นหลานชายของท่าน ฉันคิดว่าคงไม่มีสิทธิ์ห้ามไม่ให้ท่านเอาไปได้”
“เธอรู้ก็ดี” ชายชราเอ่ยเสียงออกทางจมูก
“แต่ฉันคิดว่าถ้าปัญหาระหว่างท่านกับหนานเฉิงยังไม่ได้รับการคลี่คลายในสักวัน เด็กที่อยู่ตรงกลางระหว่างพวกคุณคงอึดอัด สิ่งนี้เขาคงไม่ต้องการ”
“เหล่าโจวบอกเธอแล้วสินะ”
ชายชราเหลือบมองพ่อบ้านโจวที่อยู่ข้างๆ
พ่อบ้านกลับไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทีสงบนิ่งของเซิ่งอันหรานบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน
“พ่อบ้านเพียงแค่ต้องการให้ฉันคืนดีกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรฉันกับหนานเฉิงก็เป็นครอบครัว”
“หรือเธอคิดว่าตัวเองมีความสามารถในเรื่องนี้?”
“เปล่าค่ะ” เซิ่งอันหรานตอบกลับด้วยท่าทีสงบ “ฉะนั้นฉันจึงปฏิเสธ”
ชายชราขมวดคิ้ว สีหน้าผ่อนคลายลงกว่าก่อนหน้านี้มาก
“เธอคงคิดเหมือนกันว่าเรื่องนี้ไม่มีช่องว่างสำหรับการคลี่คลายมาตั้งแต่ต้น ที่ฉันไม่พูดอะไรนานหลายปีขนาดนี้ ตั้งใจให้เรื่องมันเงียบ แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ช่างใช้ไม่ได้จริงๆ”
“ท่านฝืนเจตนารมณ์ของท่านเรื่องที่เขาอยู่กับฉันเหรอคะ?”
เซิ่งอันหรานพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าฉันจำไม่ผิด แต่ตอนแรกท่านทำทุกอย่างเพื่อจับคู่ฉันกับหนานเฉิง”
ชายชราไม่อ้อมค้อมเช่นกัน สายตาจับจ้องไปยังเซิ่งอันหราน “ถ้ารู้เร็วกว่านั้นว่าเธอยังไม่หย่า ฉันคงไม่จับคู่เธอกับหนานเฉิงหรอก”
“เรื่องนี้ฉันอธิบายให้ท่านฟังได้” ท่าทีของเซิ่งอันหรานยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม พูดต่ออย่างไม่รีบร้อน “ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับหนานเฉิง ท่านอยากรู้ความจริงเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วหรือไม่คะ?”
สีหน้าของชายชราหยุดเคลื่อนไหว “หนานเฉิงพูดอะไรกับเธอ?”
“เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ฉันไปสืบค้นมาเอง”
เซิ่งอันหรานเปิดไฟล์ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ แล้วดันไปตรงหน้าชายชราบนโต๊ะน้ำชา “ท่านลองดูสิคะ เป็นข้อความบันทึกคำสารภาพของพี่เลี้ยงสองคนที่อยู่ใกล้ชิดจิ่งซีในปีนั้น ฉันขอให้ใครคนหนึ่งไปตามหาพวกเธอที่กวางโจว ถ้าคุณอยากฟังเสียงบันทึก ฉันก็จะอยู่ที่นี่ด้วย แต่ถ้าไม่ ฉันก็จะไม่อยู่”
ชายชรามองดูเนื้อหาในโทรศัพท์ สีหน้าค่อยๆ ตึงเครียดมากขึ้น
“ในตอนแรกที่ฟั่นอวิ๋นฟังและเหอชุนสยาต่างบอกว่านายน้อยเป็นคนให้พวกเธอสั่งยา ฉันก็คิดว่าเป็นหนานเฉิงเช่นกัน และคิดว่าตอนนั้นท่านก็คงได้ฟังมาแบบนี้เหมือนกัน แต่ฉันอยากถามท่านสักอย่าง”
“เชิญพูด” ชายชราขมวดคิ้ว
“ตั้งแต่ที่จิ่งซีถูกส่งตัวไปบ้านเก่าจนกระทั่งจิ่งซีเกิดเรื่องเมื่อสามปีก่อน ช่วงเวลานั้นหนานเฉิงไปหาท่านที่นั่นบ่อยไหม?”
สีหน้าของชายชราหมองลงเล็กน้อย ราวกับว่าไม่อยากตอบคำถามนั้น
พ่อบ้านโจวที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกขึ้นมา “นายน้อยไม่เคยไป ช่วงเวลาสองปีนั้นนายน้อยโกรธคุณผู้ชาย”
เพราะจิ่งซีเกิดมาพร้อมกับเรื่องยุ่งเหยิง ชายชราทำตามสัญญาที่ให้ตั้งแต่แรกว่าจะมอบอำนาจให้อวี้หนานเฉิงไม่ได้ ด้วยเหตุผลสองประการนี้ ทั้งสองจึงต่างฝ่ายต่างประชดประชันกันอยู่สองปีเต็มๆ
“ถ้าอย่างนั้นนายน้อยที่ฟั่นอวิ๋นฟังและเหอชุนสยากล่าวถึงจะเป็นหนานเฉิงได้ยังไงล่ะคะ?”
เซิ่งอันหรานชี้ให้เห็นจุดสำคัญอย่างตรงไปตรงมา “และอีกอย่างพวกเธอยังบอกอีกว่า เห็นนายน้อยหลายครั้งที่บ้านเก่า แม้จะไม่บ่อยมาก แต่ก็จำได้ว่า คนรับใช้ที่อยู่มานานทุกคนต่างเรียกเขาว่านายน้อย”
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป
สีหน้าของพ่อบ้านโจวก็เช่นกัน
“คุณผู้ชาย...”
เจ้าเด็กนั้นที่กล่าวถึงก็คืออวี้หนานเฉิง
เซิ่งอันหรานหมดทางเลี่ยง อัจฉริยะบนโลกธุรกิจที่ถูกผู้คนตีแผ่กันในโลกภายนอก เมื่ออยู่ที่นี่กับชายชรากลับกลายเป็นคนอวดฉลาดไปได้เสียนี่
“ฉันกับสามีแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงเพื่อหาทางออกเท่านั้น ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน เสี่ยวซิงซิงเป็นลูกสาวของฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา”
เซิ่งอันหรานพูดไปเพียงแค่บางส่วน ยังเหลืออีกบางส่วนที่อธิบายออกไปไม่ได้
เธอรู้ว่าที่ชายชราถามคำถามนี้ออกมา ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ได้เกลียดเธอขนาดนั้น หรือบางทีอาจจะเชื่อว่าการแต่งงานของเธอเป็นการแต่งงานที่ขมขื่น แต่ถามคำถามนี้เพื่อให้เธอมีโอกาสได้อธิบาย ให้ตัวเธอเองได้ไต่เต้าขึ้นมาอีกขั้น
ชายชราจ้องมองเธออย่างครุ่นคิด แล้วเอ่ยถาม
“เรื่องนี้หนานเฉิงรู้ไหม?”
“แน่นอนว่าเขารู้” เซิ่งอันหรานพูดอย่างแปลกใจ “ท่านคิดว่าหลานชายของท่านจะอยู่กับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วงั้นเหรอคะ? เขาหยิ่งในศักดิ์ศรีซะขนาดนั้น”
ชายชราชะงักไปชั่วครู่ แต่ท่าทางน่าเกรงขามฟื้นคืนมาในทันควัน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครจะไปรู้เวลาที่เขาถูกผีดลใจ”
ห่างออกไป เสี่ยวซิงซิงไถลลงมาตามสไลเดอร์ พร้อมเสียงหัวเราะสดใสราวกับเสียงระฆัง จากนั้นกระโจนลงไปในกองทะเลบอล และทำเช่นเดิมวนอยู่หลายรอบ ประเดี๋ยวก็พลิกไปโดนตาข่ายป้องกันที่อยู่ข้างๆ
ชายชรายิ้ม แล้วเอ่ยเตือน “หนูน้อยระวังๆ หน่อย”
เสี่ยวซิงซิงเมื่อได้ยินเสียงชายชรา จึงโผล่ทะลุขึ้นมาจากกองทะเลบอล แล้วจ้องเขาตาเขม็ง “หนูสนใจคุณปู่หรอก ปู่นิสัยไม่ดี! หึ!”
อยู่ดีๆ ก็ถูกเพื่อนต่างอายุตัวน้อยที่ตัวเองชอบที่สุดเมินใส่ ชายชราชะงักไป “ทำไมฉันถึงกลายเป็นปู่นิสัยไม่ดีล่ะ?”
เซิ่งเสี่ยวซิงยืนเท้าสะเอวอยู่ในกองทะเลบอลหลากสี “ก็คุณนิสัยไม่ดี คุณไม่ชอบแม่ของหนู แม่ของหนูเป็นคนดีมีคนตามจีบเยอะแยะ ไม่สนใจครอบครัวของพวกคุณหรอก คุณลืมนัดหนูแล้ว คุณเพียงแค่มาหาหลานสะใภ้ ส่วนหนูมาหาพ่อ โกหก คนโกหก”
“นัดอะไร?” เซิ่งอันหรานยืนทำหน้างุนงงอยู่ข้างๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน