ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 289

เผชิญหน้ากับข้อสงสัยของเซิ่งอันหราน ผู้ใหญ่และเด็กจ้องมองตากันครู่หนึ่ง เจ้าหนุ่มน้อยกำลังจะพูด ผู้อาวุโสก็ไอขึ้นมา

พ่อบ้านโจวที่อยู่ได้ข้างก็เข้าใจความหมายทันที ถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณผู้ชายคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เซิ่งอันหรานก็ถาม ความสงสัยในตอนนี้ก็เลือกที่จะถูกลืมโดยอัตโนมัติ

“ไม่เป็นไร ด้านนอกเย็น กลับไปเถอะ อีกเดี๋ยวก็มืดแล้ว”

ผู้อาวุโสอายุมากแล้ว เอ่ยข้อร้องแบบนี้ก็คือมีเหตุผลและน้ำใจ

เซิ่งอันหรานนำเด็กสองคนเรียกออกมาจากเขตสนามเด็กเล่น หลังจากที่สั่งเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งให้พ่อบ้านโจวกับผู้อาวุโสพาพวกเขาไป

เวลาที่ไปซิงซิงน้อยสีหน้าไม่ยินยอม เพียงแต่มองผ่านกระจกรถ เซิ่งอันหรานก็เห็นผู้อาวุโสแสดงมายากลนำช็อกโกแลตออกมาหนึ่งกล่อง เป็นชนิดที่เด็กสองคนชอบกิน

สาวน้อยชั่วพริบตาเดียวก็ยิ้มออกมาแล้ว

ยัยตะกละ

เซิ่งอันหรานส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เรียกรถแท็กซี่

“โชเฟอร์ ไปหมู่บ้านลี่ว์ย่วน”

——

หลังจากที่เซิ่งอันหรานไปแล้ว ในคอนโดก็เหลือเพียงอวี้หนานเฉิงกับกู้เทียนเอินสองคนที่เป็นไข้หวัดรุนแรงต้องพึ่งพาอาศัยกัน เปรียบเทียบกู้เทียนเอินหัวหนักเท้าเบาพูดเพ้อเจ้อไม่ได้สติ สำหรับเซิ่งอันหราน อวี้หนานเฉิงยังดูแลง่ายกว่า

“ผมคิดว่าพี่อันหรานยังไม่ค่อยจะยอมสนใจคุณ”

ในห้องรับแขก กู้เทียนเอินโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มบนโซฟา สูดจมูกอย่างรุนแรง ทิ้งทิชชูลงถังขยะ“คุณไม่คิดจะทำอะไรสักหน่อยเหรอ?ถึงยังไงเรื่องนี้คุณก็มีความผิด อย่าคิดว่าป่วยแล้วจะหนีความผิดได้ พี่อันหรานไม่ใช่จะไม่ยอมโต้เถียงกับคนป่วย”

อวี้หนานเฉิงมองไม่เหมือนกับคนป่วย ตอนนี้กำลังยืนอย่างมีชีวิตชีวาอยู่หลังโต๊ะหินอ่อนในครัว กำลังต้มน้ำชงชา ได้ยินก็ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา

“สนใจเรื่องของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว”

“คุณเสแสร้งทำเป็นป่วยก็ป่วยไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก”

อวี้หนานเฉิงกวาดสายตามองเขา นำน้ำอุ่นถือออกมาจากในห้องครัว วางไว้ตรงหน้ากู้เทียนเอิน ถือโอกาสวางไว้บนโต๊ะด้านข้าง

“กินยาอีกแล้ว?”

กู้เทียนเอินถอนหายใจ“ผมคิดว่าทำไมคุณให้ผมกินยานี้ ผมยิ่งกินก็ยิ่งทรมานล่ะ?”

“นี้คือก่อนกินข้าว ถ้าหากนายไม่อยากกินข้าว ก็สามารถกินสายได้”

อวี้หนานเฉิงสีหน้าเรียบเฉย“ยังมีอีก ยาไม่ใช่ฉันให้นายกิน เป็นหมอที่ให้นาย”

“ทำไมหมอไม่ให้คุณ?”

“ให้แล้ว”อวี้หนานเฉิงมองเขาด้วยสายตาที่มีความหมายลึกซึ้ง

กู้เทียนเอินไม่สามารถหันศีรษะได้เพราะเป็นหวัด เห็นสายตานี้จึงตอบสนองกลับมา ยื่นมือออกมาจากผ้าห่ม หยิบยา ต่อมาก็ยัดเข้าปาก รีบกลืนลงไป พูดคลุมเครือ

“ถือว่าผมพูดกับตัวเอง”

ไข้หวัดของอวี้หนานเฉิงหายนานแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่กินยา ระยะของไข้หวัดก็ผ่านไปนานแล้ว และเขายังกินยาติดต่อกันสองสามวันแล้ว ถ้าหากไม่ใช่กู้เทียนเอินค้นพบว่าเขานำยาทิ้งถังขยะ ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังเสแสร้งป่วย

ถึงแม้ว่าซื้อน้ำใจคน ตั้งแต่ที่กู้เทียนเอินฟื้นฟูความทรงจำกลับมา อวี้หนานเฉิงก็ยังไม่รีบบอกเซิ่งอันหราน ครั้งนี้ก็ถือว่าคืนให้ เขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

เสียงเปิดประตูดังขึ้น กู้เทียนเอินยังไม่ได้ตอบสนองกลับมา อวี้หนานเฉิงที่นั่งตัวตรง ชั่วพริบตาเดียวก็นั่งพินบนโซฟาอย่างอ่อนแอ ยังถือโอกาสดึงผ้าห่มบนตัวเขา ห่มบนตัวเอง

“ยอดเยี่ยมจริงๆ!”กู้เทียนเอินมองเขา

วินาทีต่อมา เซิ่งอันหรานเปิดประตูเข้ามา ในมือถือถุงชอปปิ้งของซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่

“คืนนี้กินสุกี้หม้อไฟ”

“มีผู้ชายที่ไหนนอนขี้เกียจอยู่บ้านกันล่ะ?”

เซิ่งอันหรานบ่นพึมพำ“ตามใจคุณเถอะ ถึงยังไงก็เป็นเรื่องของคุณ”

ได้ยินคำพูดนี้ สายตาของอวี้หนานเฉิงค่อยๆเปลี่ยน ความอบอุ่นที่มีก็ค่อยๆหายไป

“เธอยังโกรธเรื่องงานเลี้ยงในวันนั้นใช่ไหม?”

เซิ่งอันหรานกำลังหั่นผักก็ชะงักไป เงยหน้าขึ้น

“เปล่า ผ่านไปนานแล้ว คุณคิดมากเกินไปแล้ว รักษาตัวให้ดีเถอะ”

ความไม่พอใจของเธอตกอยู่ในสายตาของอวี้หนานเฉิง ถูกบิดเบือนกลายเป็นความโกรธ และพูดอธิบาย

“ฉันเคยพูดแล้ว วันนั้นอวี๋เหมิงพูดกับฉัน ก็คือหลีเย่ว์ต่อหน้าคนพวกนั้นก็พูดกับคุณแบบนั้น ฉันแค่อยากให้เขาหุบปาก ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าในงานเลี้ยงเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว เพียงแค่ไม่อยากให้เธอฟังถึงเรื่องพวกนั้น”

“คุณเคยพูดแล้ว”เซิ่งอันหรานหั่นผักต่อไป หางตามองสังเกตอวี้หนานเฉิงที่ลุกขึ้นยืนจากบนโซฟา เสื้อเชิ้ตลายดอกไม้กางเกงสีเบจปิดกั้นรูปร่างที่ดีของเขาไม่ได้ กำลังเดินเข้ามาหาเธอ

เกี่ยวกับเรื่องที่เขากับอวี๋เหมิงเดินตามหลังกันออกมาจากห้องพักผ่อน เซิ่งอันหรานไม่ได้แคร์ แต่วันนั้นในงานคืออารมณ์ไม่ดี ดังนั้นปัญหาเล็กจึงกลายเป็นใหญ่

เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แต่อวี้หนานเฉิงกลับยังไฟสุมขอน

“แต่ฉันรู้สึกว่าเธอไม่มีความสุข”

อวี้หนานเฉิงเดินมาถึงหน้าประตูห้องครัว มองใบหน้าด้านข้างของเซิ่งอันหรานด้วยความเป็นห่วง“หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยง เหมือนมีเรื่องที่เก็บไว้ในใจ มีอะไรที่ไม่สามารถพูดกับฉันเหรอ?”

“เรื่องวันนั้นไม่เอ่ยถึงได้ไหม?ฉันไม่อยากฟัง”เซิ่งอันหรานสูดลมหายใจ อดกลั้นความหงุดหงิดไว้ในใจ

“นั่นแค่ใส่ร้ายป้ายสีเท่านั้นเอง”

“ถ้าหากไม่ใช่ล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน