ตอนที่อวี๋ซูซินปรากฏตัว เซิ่งอันหรานจึงได้เข้าใจว่าทำไมอวี๋เหมิงจึงเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารในครั้งนี้ เพื่อต้องการเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ แน่นอนว่าทุกคนจะต้องอยู่ที่นี่โดยพร้อมเพรียง
เมื่อดูในแง่ของสัดส่วนการถือหุ้นแล้ว อวี๋ซูซินนั้นถือหุ้นสูงกว่าเธอถึง 3 จุด โดยไม่มีข้อกังขาใดๆเลย เธอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเซิ่งซื่อกรุป และจากประสบการณ์การทำงาน เธอยังเคยเป็นกรรมการบริหารของเซิ่งซื่อกรุปอีกด้วย
“ไหนๆฉันก็กลับมาแล้ว ทุกๆท่านก็ไม่ได้มีความเห็นขัดข้องอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันจะนั่งในตำแหน่งประธานเซิ่งซื่อกรุปต่อ ถ้าอย่างนั้นเซิ่งอันหราน ถึงเวลาที่เธอควรจะสละตำแหน่งแล้ว ”
อวี๋ซูซินที่เคยเสแสร้งทำเป็นอ่อนโยนในอดีต ตอนนี้เธอเปลี่ยนไป การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับเธอต้องการส่งความรู้สึกทุกข์ทรมานที่เธอได้รับทั้งหมดผลักไปให้กับเซิ่งอันหราน
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้วและก้าวออกไปทางด้านข้าง "แน่นอนว่าตำแหน่งนี้เป็นของคุณตั้งแต่แรกแล้ว"
อวี๋ซูซินนั่งลงอย่างไม่มีความเกรงใจ
น่าน่ารีบดึงเก้าอี้มาเพื่อให้เซิ่งอันหรานนั่งทางด้านข้างของอวี๋ซูซิน การกระทำนี้สามารถบรรเทาบรรยากาศอัดอั้นในห้องประชุมลงได้ แต่จู่ๆสายตาอันเกลียดชังของอวี๋ซูซินก็เหลือบมองมาที่เธอ
“ไหนๆฉันก็กลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้บริษัทเคยเป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างเมื่อก่อน อันหราน ไม่ใช่ว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับบริษัทเสื้อผ้าเหรอ? ตอนนี้กลับไปตั้งใจทำธุระของเธอได้แล้ว งานที่บริษัทมีฉันคอยดูแลอยู่ ”
ทันทีที่คำพูดประโยคนี้ดังออกมา คณะกรรมการบริหารต่างก็ถกเถียงกันเสียงเอะอะ
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม การก้าวผ่านช่วงเวลาวิกฤตในครั้งนี้ของบริษัทเซิ่งซื่อกรุป ล้วนแต่มาจากความสามารถและความลำบากของเซิ่งอันหราน ใตอนนี้บริษัทกลับมาสู่การดำเนินงานในภาวะปกติหรือไม่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ดังนั้นบริษัทจะขาดคนที่มีความสามารถอย่างเซิ่งอันหรานไปไม่ได้
มีเหตุผลอะไรในการข้ามแม่น้ำเสร็จแล้วจะรื้อสะพาน ?
เซิ่งอันหรานฟังบทสนทนาถกเถียงระหว่างคณะกรรมการบริการ เธอไม่ได้สนใจอะไร เพราะเธอไม่ได้ต้องการอะไรจากเซิ่งซื่อกรุปมาแต่แรกแล้ว ครั้งนี้อาจเป็นโชคชะตา
"ฉันไม่มีความเห็นอะไร"
ในช่วงนี้เธอยุ่งจนขนาดไม่มีเวลาเลี้ยงลูกเลย ตอนนี้เมื่อมีคนมารับหน้าที่ต่อ เธอกลับรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก บางคนไล่ตามทรัพย์สมบัติ บางคนไล่ตามอำนาจ ในขณะหลายที่ๆคน ไม่สนใจในของพวกนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม เซิ่งอันหรานกลับไปที่ห้องทำงานและเก็บของ เพื่อเอาห้องส่งคืนให้กับอวี๋ซูซิน
ไม่นานหลังจากนั้น อวี๋ซูซินก็เดินเข้ามา รูปลักษณ์อันรุ่งโรจน์ทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่า เธอหลี้ภัยตามที่เธออธิบายในที่ประชุมจริงๆหรือเปล่า แต่สิ่งนี้ไม่สำคัญสำหรับ เซิ่งอันหราน เธอขี้เกียจแม้แต่จะถาม
“ของเก็บไปจนหมดแล้ว ประธานอวี๋ คุณสามารถย้ายเข้ามาเพื่อใช้ห้องทำงานนี้ตามอัธยาศัยได้แล้วค่ะ ”
เซิ่งอันหรานยืนอยู่ทางด้านข้าง ส่วนน่าน่าช่วยเธอยกกล่องกระดาษแข็งพร้อมกับสิ่งของของเธอออกไปรอข้างนอกแล้ว
อวี๋ซูซินและเซิ่งอันหรานถูกทิ้งไว้ในห้องทำงานสองต่อสอง
อวี๋ซูซินมองไปที่เซิ่งอันหรานอย่างเย็นชา
“ฉันบอกให้เธอไป เธอก็ตอบตกลงอย่างมีความสุขแบบนี้อย่างนั้นเหรอ เธอไม่มีความรู้สึกอะไรกับบริษัทแห่งนี้เลย หรือเธอหาทางออกให้ตัวเองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”
“ฉันไม่ได้รู้สึกสนใจในกลุ่มบริษัทนี้เลย เรื่องนี้ตอนที่คุณพ่อของฉันยังมีชีวิตอยู่ เขาเคยพูดว่า มรดกทั้งหมดที่นี่ ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถ้าหากว่าคุณยังรู้สึกไม่สบายใจ ฉันสามารถขายหุ้นในมือที่ฉันมีทั้งหมดออกไปได้ ต่อไปกลุ่มบริษัทนี้ก็จะสามารถเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มบริษัทตระกูลอวี๋ และมันก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไป ”
“อย่าแสร้งทำเป็นคนมีเกียรติเลย” อวี๋ซูซินสีหน้าเคร่งขรึม
“เธอคิดว่าฉันไม่รู้จริง ๆ เหรอ ?เซิ่งชิงซานไม่ได้ใส่ชื่อของเธอในพินัยกรรมก็จริง แต่เขาให้เงินประกันชีวิตของเขากับเธอ จำนวนเงินประกันสูงถึงหนึ่งพันล้านหยวน ต่อหน้าเขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจเธอ แต่แท้จริงแล้ว เธอเท่านั้นที่เป็นลูกสาวคนสำคัญที่สุดในหัวใจของเขา และทิ้งเซิ่งซื่อกรุปที่มันวุ่นวายให้กับฉันและอันเหยา"
อุณหภูมิในห้องทำงานลดลงอย่างกะทันหันสองถึงสามองศา บรรยากาศหนาวเหน็บราวกับภูเขาน้ำแข็ง
เมื่ออวี๋ซูซินที่กำลังรู้สึกผิดหวัง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามันน่าขำสิ้นดี หลังจากเงียบไปสักพัก เซิ่งอันหรานก็มองไปที่อวี๋ซูซินด้วยความเย็นชา
“คุณทำอะไรสวรรค์มองเห็น อวี๋ซูซิน สาเหตุของการเสียชีวิตของคุณพ่อคืออะไร คุณน่าจะรู้ดีมากกว่าใครๆ ?”
“เธอหมายความว่ายังไง ?” อวี๋ซูซินขมวดคิ้ว แววตาของเธอดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดเจน
“คุณรู้เพียงแค่ว่าจำนวนเงินประกันภัยของกรมธรรม์มีมูลค่าหนึ่งพันล้านหยวน แล้วคุณรู้หรือไม่ว่ากรมธรรม์นั้นเป็นการทำประกันเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?” ดวงตาของเซิ่งอันหรานเคร่งขรึมขึ้น
"มันเป็นประกันอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจ อย่างเช่น ถ้าคุณพ่อฉันตายโดยถูกฆาตกรรม ฉันจะได้รับเงินหนึ่งพันล้าน"
ใบหน้าของ เซิ่งอันหรานเย็นชา
"น่าจะเป็นอย่างนั้น" เซิ่งอันหรานยิ้มให้เธอ "ต่อไปตั้งใจทำงานนะ "
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ” น่าน่าถอนหายใจ “ฉันขอไปด้วยคนได้ไหมค่ะ ?ให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยของคุณที่ชิงเหมิงก็ได้ ”
เซิ่งอันหรานรู้สึกประทับใจ
น่าน่าเป็นมือซ้ายและขวาของเธอ เมื่อเธอจากไป เกรงว่าอนาคตของน่าน่าคงจะมืดบอด เพราะอวี๋ซูซินคงจะไม่เห็นหัวเธอ อยู่ที่นี่ไป มีแต่จะรู้สึกอึดอัดเปล่าๆ
"เงินเดือนของชิงเหมิงไม่สูงเท่าที่นี่ ถ้าหากว่าคุณยอมรับได้ล่ะก็..."
“ฉันยินดีค่ะ” น่าน่าตอบรับอย่างรวดเร็ว “ฉันอยากเรียนการออกแบบมาตลอด ขอแค่ประธานเซิ่งตกลง ต่อให้ไม่มีเงินเดือนให้ฉันก็จะไป ”
เซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงมองหน้ากัน และยิ้มออกมา "อย่างนั้นคุณก็ต้องไปรายงานตัวกับ ฉินปัวก่อน ฉันคิดว่าช่วงหลังๆนี้เขากำลังขาดผู้ช่วยที่มีความสามารถ"
น่าน่าตะลึกตาค้าง
"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"
เซิ่งอันหรานมองดูน่าน่า วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มอย่างมีลับลมคมใน
“พี่ฉินโชคดีจริงๆ”
อวี้หนานเฉิงจับมือเธอ “เธอมักจะเป็นห่วงเรื่องของคนอื่นเสมอ เมื่อไหร่จะเป็นห่วงเรื่องของผมบ้าง ”
“แม้แต่กับน่าน่า คุณก็หึงอย่างนั้นเหรอ ?” เซิ่งอันหรานมองเขาอย่างเฉยเมย“ตอนนี้ฉันเป็นคนตกงานไปแล้ว ดังนั้นคุณต้องเลี้ยงอาหารเย็นฉันด้วยนะ”
“ผมจองร้านอาหารไว้แล้ว” อวี้หนานเฉิงก้มหน้ามองเธอด้วยท่าทางแปลกๆ
“แต่ผมอยากให้คุณไปพบคนคนหนึ่งก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน