เซิ่งอันหรานยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็หยิบผ้าห่มจากโซฟามาคลุมบนร่างกายของอวี้หนานเฉิง
“อันหราน…”อวี้หนานเฉิงลืมตาขึ้น
หลังจากที่เห็นเซิ่งอันหราน อวี้หนานเฉิงก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง และเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือ “ทำไมคุณถึงมาเร็วจัง ?เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับเหรอ ?”
เซิ่งอันหรานพยักหน้า “ฉันกินอาหารญี่ปุ่นมากเกินไปเลยปวดท้อง”
อวี้หนานเฉิงจับมือเธอมาวางไว้บนฝ่ามือของเขา จู่ๆเขาก็ขมวดคิ้วขึ้น
“มือคุณเย็นจัง ใส่เสื้อผ้าน้อยเกินไปแล้วรู้ไหม”
"ไม่เป็นไร ในบริษัทมีฮีตเตอร์"
“ข้างนอกอากาศมันหนาว” จู่ๆอวี้หนานเฉิงก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาปล่อยมือเซิ่งอันหราน อวี้หนานเฉิงก้มลงไปหยิบถุงน้ำร้อนในลิ้นชักใต้โต๊ะออกมา และยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเซิ่งอันหราน
“กอดนี่ไว้ซะ อีกสักพักคงจะอุ่นขึ้น”
เซิ่งอันหรานกอดถุงน้ำร้อนอยู่ครู่หนึ่ง อุณหภูมิของถุงน้ำร้อนค่อยๆสูงขึ้น เธอมองไปที่ลวดลายโดราเอมอนบนถุงน้ำร้อนสีน้ำเงิน และถามขึ้นอย่างสงสัยว่า
“คุณเป็นคนซื้อเหรอ ?”
อวี้หนานเฉิงดูเรียบเฉย
“เลขาฯเป็นคนให้ เธอบอกว่าซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้จิ่งซี”
ก่อนหน้านี้จิ่งซีและเซิ่งเสี่ยวซิงเคยมาเล่นที่บริษัท เด็กฝึกงานที่เคยมาฝึกงานกับเขา เป็นเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เธออายุราวๆยี่สิบต้นๆ ต่อมาเธอก็กลายมาเป็นพนักงานประจำโดยทำหน้าที่เป็นเลขาของอวี้หนานเฉิง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของเซิ่งอันหรานก็เปลี่ยนไป“เด็กสาวคนนั้นมีจุดประสงค์อะไร คุณไม่รู้จริงเหรอ ?”
ปากบอกมอบให้จิ่งซี จริงๆแล้วหาโอกาสอยู่ใกล้ๆกับอวี้หนานเฉิง
ครั้งแรกมอบถุงน้ำร้อนให้ ต่อไปก็คงมาถามว่าจิ่งซีใช้เป็นยังๆ ถ้าชอบคงจะส่งหมวกอุ่นๆ ผ้าพันคอ ถุงมือให้แบบครบชุดเลยล่ะสิ
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีจุดประสงค์อะไร ?”
“ความสัมพันธ์ในการทำงานและพัฒนาเป็นคนรัก ต่อมาเธอเคยถามคุณไหมว่า จิ่งซี ใช้เป็นอย่างไรบ้าง ?”
"เคยถาม"
"นั่นยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ"
“ผมบอกเธอว่าผมไม่ได้เอาไปให้จิ่งซี เพราะด้านข้างมันเขียนบอกอยู่ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไม่ควรใช้”
เมื่อได้ยินที่อวี้หนานเฉิงพูด เธอสามารถจินตนาการได้อย่างเต็มที่ว่าเขาคงจะมีสีหน้าขยะแขยงมากในขณะนั้น เซิ่งอันหรานชะงักไปครู่หนึ่ง เธอกระตุกมุมปากและกล่าวออกมาว่า
“การเป็นเลขาของคุณดูท่าแล้วคงจะเหนื่อยมาก ดังนั้นคุณควรพิจารณาเพิ่มเงินเดือนให้กับเธอบ้างนะ ”
คนให้ของ ไม่ว่าจะเป็นของดีหรือไม่ดี คนปกติก็ควรจะมีความถ่อมตัวบ้าง เพราะยังไงซะก็เป็นความตั้งใจของคนให้ แต่กับอวี้หนานเฉิงนี่สิ มีนิสัยเรื่องมากไม่เปลี่ยนเลยนะ
ไม่คิดที่จะเอามาใช้เลย ต่อไปเลขาคนนั้นคงจะไม่กล้ามอบของอะไรให้กับเขาอีก
“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ฉันขอกลับไปที่ทำงานก่อนนะ” เซิ่งอันหรานเหลือบมองนาฬิกา “ในตอนเช้ามีการประชุมคณะกรรมการบริหาร”
“ตั้งแต่เธอเข้ามารับตำแหน่ง มีคนถูกถอดออกไปแล้วกี่คน ลูกพี่ลูกน้องของฉันสองคนถูกเธอส่งไปยังสำนักงานสาขาที่อื่น
ยึดอำนาจบริษัทไปก่อนที่คุณอาของฉันจะกลับมาใช่ไหมล่ะ ”
ต่อหน้าคณะกรรมการบริหาร อวี๋เหมิงกล้าแสดงทัศนคติแบบนี้ มันก็ไม่น่าแปลกเลย ที่เธอจะถูกจำกัดไม่ให้เข้ามาทำงานในบริษัท
เซิ่งอันหรานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ จากนั้นเธอเงยหน้าขึ้นมองอวี๋เหมิง ด้วยดวงตาอันเย็นชา
“ดังนั้นที่วันนี้เธอเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารมาที่นี่ เพื่อต้องการที่จะมาตำหนิฉันอย่างนั้นเหรอ ?อวี้เหมิง เธอคิดว่าการที่เธอมีหุ้นอยู่ในบริษัทเพียงน้อยนิด เธอก็สามารถทำอะไรตามใจชอบได้อย่างนั้นเหรอ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอนะ ที่นี่คือบริษัท และในบริษัทก็มีกฎและข้อบังคับ ลูกพี่ลูกน้องสองคนของเธอยักยอกเงินของบริษัทไปใช้เป็นการส่วนตัว คิดว่าเรื่องนี้ฉันจะไม่รู้จริง ๆ น่ะเหรอ?”
ลูกพี่ลูกน้องสองคนของอวี๋เหมิงเคยทำงานที่เซิ่งซื่อกรุปมาก่อน และถือได้ว่าเป็นแรงสำคัญของบริษัท พวกเขายักยอกเงินจากโครงการของบริษัท ในที่สุดก็สูญเสียเงินไปจนหมด และไม่เหลือเงินจ่ายค่าจ้างให้กับคนงาน สุดท้ายถูกฝ่ายความมั่นคงทางแรงงานฟ้อง
อาจกล่าวได้ว่า แหล่งที่มาของช่องโหว่ทางการเงินในเซิ่งซื่อกรุป สาเหตุหลักคือลูกพี่ลูกน้องของอวี๋เหมิง
“ตอนนั้นอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาหลงผิด” อวี๋เหมิงยังคงอธิบายอย่างหนักแน่น “คุณมีคุณสมบัติอะไรในการจัดการกับพวกเขา คุณเป็นแค่ผู้กำกับการแสดง”
“ตราบใดที่ฉันอยู่ในตำแหน่งรักษาการหนึ่งวัน ฉันก็คือประธานคณะกรรมการ”
“แล้วถ้าหากคุณอาของฉันกลับมาล่ะ ?”อวี้เหมิงเชิดคางขึ้นและแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง “คุณอาของฉันต่างหากที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัทนี้ ถ้าคุณอาของฉันกลับมา เธอก็ควรจะสละตำแหน่งประธานจริงหรือเปล่าล่ะ ? ”
ก่อนที่เซิ่งอันหรานจะตอบคำถามนี้ จู่ๆเลขานุการก็เปิดประตูห้องประชุมเข้ามา
อวี๋ซูซินสวมชุดทำงานสีชมพูอ่อน ผู้ช่วยที่อยู่ทางด้านข้างช่วยเธอถือกระเป๋าและเสื้อโค้ต ในตอนที่เธอเดินผ่านเซิ่งอันหราน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความขุ่นเคืองใจ ไม่นานจากนั้นน้ำเสียงอันเคร่งขรึมของเธอก็ดังขึ้นในห้องประชุม
“ประธานเซิ่ง ช่วงเวลาที่ผ่านมาลำบากคุณแล้ว ฉันกลับมาแล้ว ต่อไปคงจะไม่ต้องรบกวนคุณอีก ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน