เช้าตรู่วันต่อมา เซิ่งอันหรานพาผลไม้สดไปบ้านน้าสะใภ้
น้าชายเพราะว่าต้องไปทำงานที่เมืองหลวง ดังนั้นคืนนั้นก็ไปแล้ว เซิ่งอันหรานเวลาที่มาถึง มีเพียงน้าสะใภ้อยู่ในห้องรับแขกกำลังที่ตัดแต่งกระถางดอกไม้
“คุณอันหรานมาแล้ว”
คนรับใช้เปิดประตู รับของที่เซิ่งอันหรานพาเข้ามา“คุณอันหรานมาทุกครั้งก็เกรงใจ พาของมาเยอะขนาดนี้”
เซิ่งอันหรานยังไม่เปิดปากพูด เสียงน้าสะใภ้ก็ดังมาจากในห้องรับแขก
“ทุกครั้งก็จะพาผลไม้กับดอกไม่ คนไม่รู้คิดว่าเธอมาเยี่ยมคนป่วยนะ”
ได้ฟัง เซิ่งอันหรานรีบพูด รีบเดินเข้าไป พูดโมโห“น้าสะใภ้คุณพูดจาเป็นเลี่ยงการพูดแบบนี้ได้ไหม รีบลูบท่อนไม้”
น้าสะใภ้สีหน้าตึง“ถึงแม้ว่าจะเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยก็ไปอเมริกาแล้ว แต่ว่าเธอก็เรียนหมอ ทำไมถึงมีความคิดล้าสมัยเชื่องมงาย”
เซิ่งอันหรานหัวเราะ นั่งลงบนโซฟา“นี้ไม่ใช่ดีกว่าไม่เชื่อไหม?ฉันยังหวังให้คุณร่างกายแข็งแรงอายุมั่นขวัญยืนไหม?”
“ฉันไม่โกรธเธอจนตายก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
เริ่มเปิดประตูเข้ามา น้าสะใภ้ก็สีหน้าไม่ดี มองดูต้นไม้ในกระถาง ถูกเธอตัดซ้ายขวา ด้านขวาตัดจนเหมือนหัวล้าน เซิ่งอันหรานมองดู แอบไว้อาลัยให้มันเงียบๆหลายวินาที
“คุณยังโกรธเรื่องเมื่อคืน?”เซิ่งอันหรานถือโอกาสนั่งยองๆลงด้านข้างโต๊ะชา มองดูน้าสะใภ้ตัดต้นไม้จนน่าเวทนา“เรื่องเล็กขนาดนี้ โกรธก็ไม่คุ้มค่า”
“เป็นเรื่องเล็กเหรอ?”
คิ้วของน้าสะใภ้ขมวดแน่นขึ้น
“เรื่องแรกคือ ตระกูลเซิ่งเดิมทีชื่อเสียงไม่ค่อยดี ฉันกลัวว่าเธอแต่งงานไปก็จะทำให้คนตระกูลอวี้รังแกเธอ ครอบครัวน้ารองของเธอพวกนั้นก็หน้าด้าน ท่าทางเหมือนพ่อค้าคนกลางทำให้ฉันรู้สึกขายหน้า ก็ยิ่งทำให้อับอายขายหน้า”
น้าสะใภ้ก็ไตร่ตรองเพื่อตัวเอง เซิ่งอันหรานในใจก็รู้สึกซาบซึ้ง เธอจับแขนของน้าสะใภ้ เข้าใกล้ไหล่ของเธออย่างสนิทสนม
“น้าสะใภ้หน้าใหญ่มาก จะอับอายขายหน้าง่ายๆที่ไหนกันล่ะ?และน้ารองครอบครัวเป็นยังไงคุณก็รู้นานแล้วไหม?ถ้าผู้อาวุโสของตระกูลอวี้อยากจะตรวจสอบ อะไรก็ตรวจสอบได้ แต่อวี้หนานเฉิงกับคุณปู่ไม่ใช่คนแบบนั้น และยิ่งเขารู้ว่าฉันกับน้ารองไม่ได้ไปมาหาสู่กัน”
“เธอดูเมื่อคืนท่าทางพวกเขา คือไม่อยากจะไปมาหาสู่กับเธอไหม?”
น้าสะใภ้พูดมาถึงตรงนี้ก็โกรธ“เข้ามายังไม่พูดทักทาย ก็อยากจะให้รีบช่วยครอบครัวของพวกเขา ลักษณะท่าทางแย่มาก”
“ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธไปแล้วไหม?”
“เธอรับปากฉันก็ไม่สามารถรับปาก”
น้าสะใภ้หัวร้อน “ครอบครัวของพวกเขาถือว่าเป็นอะไร?ปีนั้นถ้าหากไม่ใช่คุณตาเธอเห็นว่าน่าสงสารจึงรับเลี้ยง ตอนนี้พวกเขาคงจะปลูกผักอยู่ที่บ้านเกิด คนสารเลวที่ไม่มีอะไรทำนอกจากกินนอน”
ได้ยินน้าสะใภ้โกรธ ท่าทางเหมือนตอนที่ยังเด็ก เวลาที่ด่าคนปากก็พูดออกมาได้ทุกอย่าง พูดประโยคไม่ซ้ำกัน เพียงแค่ตอนที่ยังเป็นเด็กได้ยินก็จะกลัว ตอนนี้ได้ยิน กลับรู้สึกสนิทสนม
“น้าสะใภ้”เซิ่งอันหรานหัวเราะเยาะเย้ย“ถ้าคุณอยากจะตัดอีก ต้นไม้นี้คงเปลี่ยนเป็นต้นหญ้าแล้ว ไม่มีใบแล้ว”
น้าสะใภ้ก้มหน้ามอง มีสติก็ถลึงตาใส่เซิ่งอันหราน“สาวน้อยฉันค้นพบว่าเธอใจกว้างจริงๆ ขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว”
“นั่นก็ไม่ได้”เซิ่งอันหรานส่ายแขนของน้าสะใภ้อย่างขี้เกียจ ท่าทางออดอ้อนหาได้ยาก “เรื่องงานแต่งงานของฉันต้องเป็นคุณจัดการ คุณไม่สนใจ งั้นงานแต่งงานจะทำยังไง?”
น้าสะใภ้ถูกเธอทำให้หายโกรธแล้ว“จะแต่งงานแล้ว ทำไมยังทำตัวยิ่งเหมือนเด็ก ไม่สงบนิ่งเหมือนตอนเด็กแล้ว”
ในปากก็พูดบ่นพึมพำ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่น
ผู้หญิงมีชีวิตดีไหม ความจริงมองเห็นท่าทางของเธอก็ดูออก ผู้หญิงที่มีความสุขจะยิ่งเหมือนเด็ก ไม่มีอะไรที่จะเป็นทุกข์
“ถ้าหากอวี้หนานเฉิงไม่มีลูกชายก็ดี ฉันไม่หวังให้เธอแต่งงานไปเป็นแม่เลี้ยงจริงๆ เป็นเรื่องใหญ่ และยังเป็นตระกูลร่ำรวย อนาคตเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ก็เป็นเธอที่ต้องรับผิดชอบ”
พูดมาถึงจุดนี้ เซิ่งอันหรานสายตาที่มีรอยยิ้มก็หายไป พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
พนักงานก็ไม่โกรธ เพียงแค่ถอนหายใจ กลอกตามองบนเดินไปที่เคาน์เตอร์
“มิน่าล่ะก่อนหน้านี้เถ้าแก่เนี้ยพูดว่าเป็นห่วงว่าคุณจะหาคนรักไม่ได้ ก็เพราะว่าคุณนิสัยแบบนี้ สาวน้อยคนไหนจะตาบอดชอบคุณล่ะ”
กู้เทียนเอินไม่มีอารมณ์พูดแทรกกับเธอ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่กลับมาจากเมืองจินหลิง อวี้เฟิ่งหยาก็ขังตัวเองไว้ในห้อง ไม่ได้ก้าวออกมา อาหารสามมื้อเป็นพนักงานที่ส่งขึ้นไป กินก็น้อย ตอนเที่ยงเวลาที่เห็นเธอ ท่วมตัวก็ผอมมากแล้ว
ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง วันนี้เป็นเทศกาลพื้นบ้านของเมืองโบราณหลานซี แขกส่วนใหญ่ออกไปปล่อยโคมไฟดอกบัวที่ริมทะเลสาบ โรงแรมก็เงียบขึ้นมากะทันหัน
เหยาเหยาพนักงานแผนกต้อนรับกำลังงีบหลับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น
“นี่คือโรงแรมเฟิงถังไหม?”
ในขณะที่เสียงพูดชายดังขึ้น เหยาเหยาก็ตื่นขึ้นมา“ใช่ ท่านจะทำเรื่องเข้าพัก?”
“อืม”
“จองไว้รึยังคะ?”
ผู้ชายสวมหมวกสีดำ บนไหล่สะพายกระเป๋า ส่ายหน้า“ยังไม่ได้จอง รีบมากะทันหัน ยังมีห้องว่างไหม?”
“ท่านรอสักครู่ ฉันตรวจสอบก่อน”
เหยาเหยาตรวจสอบในคอมพิวเตอร์ เวลาที่เงยหน้าขึ้นก็ปรากฏรอยยิ้ม
“บังเอิญมาก ตอนเที่ยงมีคนคืนห้อง เพียงแต่ใกล้ถึงตรุษจีนแล้ว พนักงานทำความสะอาดกลับไปแล้วไม่ทันได้ทำความสะอาดห้อง ท่านรอสักครู่”
ผู้ชายพยักหน้า
“ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน