เผยหย่งจื้อพูดเสร็จก็ไม่รอให้อวี้เฟิ่งหยาได้ตั้งสติ
“ฝันเฟื่องไปเถอะ”
กู้เทียนเอินคว้าเก้าอี้ข้างตัวเขวี้ยงใส่ชายตรงหน้า
เสียง "ปัง" ดังขึ้นภายในห้อง คนในโรงแรมต่างทยอยตกใจตื่นขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“เสียงอะไรน่ะ”
“จะไม่ให้คนเขาได้นอนกันเลยหรือไง”
“……”
“เฮ้ พวกคุณเป็นใคร”
ที่ทางเข้าโรงแรม ประตูกระจกทั้งบานถูกชายร่างสูงใหญ่ที่อยู่ด้านนอกของประตูทุบด้วยท่อเหล็กจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หญิงสาวร่างเล็กประจำแผนกต้อนรับตกใจกลัวจนเข้าไปหลบใต้เคาน์เตอร์ บรรดาแขกเหรื่อที่ออกมาพากันกรีดร้องและหนีกลับเข้าห้องพักของตัวเอง
“ปล่อยตัวเทียนเอินนะ”
เสียงของอวี้เฟิ่งหยาราวกับหัวใจที่ถูกฉีกขาด เธอดึงเสื้อของเผยหย่งจื้อไม่ยอมปล่อย
เผยหย่งจื้อมือหนึ่งเอาผ้าขนหนูอุดตรงจุดที่เลือดออกบนศีรษะ อีกมือหนึ่งสะบัดเธอออกอย่างโหดเหี้ยม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ตอนแรกก็อยากคุยกับคุณดีๆ แต่ตอนนี้ดูท่าไม่จำเป็นแล้ว ไอ้เด็กนี่จะอยู่กับผมสองวัน หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ให้คุณเอาเงินมา 20 ล้าน แล้วจะส่งเขาคืนให้คุณในสภาพเดิม แต่ถ้าเอามาไม่ได้ เฟิ่งหยา อย่ามาโทษที่ผมพลิกลิ้นเปลี่ยนใจก็แล้วกัน"
อวี้เฟิ่งหยาขบฟันจนแทบจะหักออกจากกัน “เผยหย่งจื้อ แกมันไม่ใช่คน”
คำพูดลักษณะนี้เผยหย่งจื้อดูเหมือนจะฟังจนชาชินเสียแล้ว จึงหัวเราะเยียบเย็นออกมา
“คุณเพิ่งรู้เหรอ”
เขาทิ้งคำพูดนี้ไว้ จากนั้นก็นำกลุ่มคนร่างสูงใหญ่ ท่าทีดุร้ายแบกกู้เทียนเอินที่มีลมหายใจรวยรินเดินจากไป
คนกลุ่มนั้นทุบไปตามถนน ขณะเดินออกไปยังทุบโรงแรมจนเละไม่มีชิ้นดี
——
หิมะตกอีกครั้งในยามเช้า สภาพถนนไม่ค่อยดีนัก
ยามเซิ่งอันหรานมาถึงสตูดิโอของชิงเหมิงก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว สตูดิโอเพิ่งเปิดทำการได้ไม่นาน ช่วงปลายปีจึงไม่มีธุรกรรมทางการเงินที่ต้องทำมากนัก เธอแค่เข้ามาดูงานตามตาราง และประกาศแจ้งวันหยุด
“ทุกคน เหน็ดเหนื่อยอีกครึ่งเดือนก็จะได้หยุดพักละ”
ทันทีที่เซิ่งอันหรานพูดประโยคนี้ออกมา พนักงานภายในห้องก็พากันกระโดดโลดเต้นขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ประธานเซิ่ง พูดจริงพูดเล่น วันหยุดเทศกาลตรุษจีนมันต้องวันที่ 30 เป็นต้นไปไม่ใช่หรือคะ”
เซิ่งอันหรานส่งรอยยิ้มอันสดใสออกมา
“ถ้าเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 จริงๆ พวกเธอกลับบ้านกันทันไหมล่ะ แค่เดินทางก็กินเวลาไปครึ่งหนึ่งแล้ว ก่อนวันหยุดไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน กลับมาไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเสียยิ่งกว่า สู้ให้พวกเธอหลบฤดูแห่งการเดินทางอันคับคั่ง หยุดไปเลย 20 วันเต็มๆ พวกเธอกลับมาก็ตั้งใจทำงานให้ฉันดีๆ แล้วกัน”
“นั่น…ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”
มีคนผงกศีรษะ พากันโห่ร้องคำรับรองกันพึ่บพั่บประหนึ่งเห็ดที่ผุดขึ้นมาจากดิน ทั้งสตูดิโอเต็มไปด้วยเสียงครื้นเครงเฮฮาปาร์ตี้
“พอๆ ไปทำงาน เลิกตามประจบกันได้แล้ว ยังไม่ถึงวันหยุดเสียหน่อย รีบไปทำงานของตัวเองเลยไป”
ฉินปัวยังคงมีสีหน้ามืดมัว เพียงคำพูดเดียวก็พากันใบ้รับประทานกันทั่วหน้า จากนั้นต่างคนต่างรีบเก็บหางของตัวเองเดินกลับที่นั่งไป
เซิ่งอันหรานหยอกล้อฉินปัวระหว่างเดินกลับห้องทำงาน
“รุ่นพี่ฉิน ฉันว่าคุณยังดูเหมือนบอสของบริษัทนี้มากกว่าฉันเสียอีก ฉันขายบริษัทให้คุณเอาไหม”
“ผมไม่สนใจ”
ฉินปัวมีสีหน้าเรียบเฉย “ผมไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้นนอกจากการออกแบบ ถึงคุณจะให้ผมฟรีๆ ผมก็ไม่เอาหรอก”
“ฝันไปเถอะ”
เซิ่งอันหรานเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เรื่องอะไรฉันต้องยกบริษัทให้คุณ”
ฉินปัวมองมาที่เธอด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
ตรงระเบียงทางเข้าห้องนอน อวี้หนานเฉิงกำลังยืนอยู่บนบันไดพับซึ่งไม่รู้ไปเอามาจากไหน อีกทั้งยังมีกระดิ่งลมอันเล็กๆ สีชมพูแขวนเรียงรายอยู่บนเพดานเหนือศีรษะเขา มันช่างสวยงามเหลือเกิน
“แค่ให้คุณติดคำอวยพรเองนะ” เซิ่งอันหรานเดินเข้าไปหาพลางเงยหน้าอย่างจนใจ “คุณแขวนของตกแต่งพวกนี้ไปทำไมกัน”
อวี้หนานเฉิงที่หายยุ่งแล้วโบกมือลงมาจากบันได พลางพูดอย่างเคร่งขรึม
“อาจ้านส่งคลิปวิดีโอตอนที่ไปรับเจ้าสาวมาให้ผมเยอะเลย ผมเห็นงานแต่งของคนอื่น ทางบ้านฝั่งเจ้าสาวจะมีของพวกนี้ นอกจากของตกแต่งจำพวกนี้แล้ว ยังมีลูกโป่ง แต่ดูเหมือนต้องทำทีหลัง ไม่อย่างนั้นลมมันจะไหลออกน่ะ”
“เป็นโชคดีของฉันจริงๆ ที่มีแฟนละเอียดรอบคอบปานนี้”
เซิ่งอันหรานยิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรง คิดๆ แล้วก็เข้าไปเกาะเอวอวี้หนานเฉิงแบบหมีโคอาล่า เดินตามเขาไปตั้งแต่ประตู้องนอนจนถึงห้องครัว จนกระทั่งเขาล้างมือแล้วก็ยังไม่ยอมปล่อย
“ผมแขวนอันนี้พอ” อวี้หนานเฉิงล้างมือเสร็จก็พูดประโยคนี้ขึ้นมากะทันหัน “กลัวคุณจะตกลงไปน่ะ ส่วนอันอื่นคุณแขวนเองได้ ก็แขวนเองแล้วกัน”
“ฉันไม่ว่างค่ะ”
เซิ่งอันหรานกระพริบตาปริบๆ “คุณช่วยทำให้ฉันเถอะนะ”
“ทำไมไม่ว่างล่ะ ที่บริษัทยุ่งเหรอ”
“ใช่ค่ะ” เซิ่งอันหรานหลบตาเขาพลางพูดอย่างประหม่าออกไปว่า “ยุ่งมากเลย พอถึงปลายปีที่บริษัทก็ต้องอยู่เคลียร์บัญชีกันไม่ใช่หรือคะ ฉันเองก็ต้องทำงานล่วงเวลาไปด้วย ตอนกลางวันเลยไม่มีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนคุณน่ะ”
“งั้นผมอยู่รอคุณที่บ้านตอนกลางคืนก็แล้วกัน”
“ก็ไม่ได้ค่ะ” เซิ่งอันหรานปฏิเสธเป็นพัลวัน “น้าสะใภ้บอกว่าก่อนแต่งงานคุณห้ามมาอยู่กับฉัน เพราะงั้นคุณกลับไปอยู่ที่บ้านของคุณเถอะนะ”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “คืนก่อนแต่งงานค่อยกลับไปก็ได้นี่”
“อุ๊ย แบบนี้ไม่ดีค่ะ” เซิ่งอันหรานรีบจับมือเขาเอาไว้ “ที่จริงฉันก็ไม่อยากแยกจากคุณเลยนะคะ แต่กฎเกณฑ์มันเป็นแบบนี้ คุณก็ตอบรับเถอะนะ”
อวี้หนานเฉิงยังคงไม่หวั่นไหว
เซิ่งอันหรานขบเม้มริมฝีปาก พลางงัดไม้เด็ดออกมาด้วยการบิดเอวเล็กน้อย เขย่าๆ มือเขา จากนั้นก็ลากเสียงยาวๆ ออกไป
“คุณสามี——”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน