เป็นเวลานาน กว่าที่เธอจะสงบลง เธอค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมองไปที่อวี้หนานเฉิง
“ใช่” เธอกำมือและขมวดคิ้ว
“ในเมื่อคุณรู้ทุกอย่างแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังคุณ”
เธอสงบ
เธอพยายามบอกตัวเองว่าเรื่องเมื่อ 6 ปีที่แล้วไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นความผิดของอวี้หนานเฉิงต่างหาก แต่เธอก็ตกหลุมรักเขา ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะให้อภัย เฉกเช่นดังพระเจ้ามอบของขวัญให้กับเธอ แม้ว่าในตอนแรกเธอจะรู้สึกตกใจ แต่ในตอนสุดท้ายเธอกลับรู้สึกมีความสุข
เมื่อเห็นท่าทางสงบของเธอ เปลวเพลิงในดวงตาอันเย็นชาของอวี้หนานเฉิงก็ค่อย ๆ ลุกไหม้อย่างแรง เขาถามเธอต่อว่า “คุณรู้เรื่องนี้ ตั้งแต่กลับมาถึงประเทศจีนแล้ว ?”
"ใช่"
เมื่อเห็นเขามีท่าทางโกรธเคือง เซิ่งอันหรานก็ขมวดคิ้วและรีบอธิบายขึ้นว่า
“ถ้าหากคุณโทษว่าฉันไม่ยอมบอกคุณ จริงๆ แล้วฉันรู้สึกกังวลว่าคุณจะแย่งสิทธิ์การดูแลเสี่ยวซิงซิงไป ตอนนั้นเรายังไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ ฉันไม่สามารถเชื่อใจคุณได้มากพอ แต่ยังไงซะฉันก็รู้สึกกังวล...”
"จริงเหรอ ?"
ริมฝีปากของอวี้หนานเฉิงขดตัวอย่างเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่พอใจ "ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เรากำหนดวันแต่งงานแล้ว แล้วทำไมคุณถึงยังไปพบทนายอยู่อีก ?"
เซิ่งอันหรานตกตะลึง "คุณรู้ได้อย่างไร ?"
“ถ้าหากว่าผมไม่รู้เรื่องเองล่ะก็ เมื่อไหร่คุณถึงจะบอกผมล่ะ? ”
อวี้หนานเฉิงมองดูเธออย่างเย็นชา
“ด้านหนึ่งที่ต้องการแต่งงานกับผม เพื่อที่จะได้เป็นแม่ของจิ่งซี โดยที่ตัวเองไม่ต้องสูญเสียลูกสาว ในทางกลับกันก็เตรียมหาช่องทางให้ตัวเองได้หลบหนีในกรณีที่เกิดอะไรขึ้น คุณวางแผนที่จะใช้เหตุผลอะไรในการประดิษฐ์หลักฐานว่าผมทารุณกรรมจิ่งซี คุณต้องการแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูจากผมไปใช่ไหม ? "
ใบหน้าของเซิ่งอันหรานค่อยๆซีดเผือด "ฉันเปล่า"
“คุณกล้าสาบานด้วยสุขภาพของลูกคุณไหม ?” ดวงตาของอวี้หนานเฉิงเต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหง เขาคว้าแขนของเซิ่งอันหรานและบังคับให้เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขา “คุณกล้าสาบานไหมว่าคุณไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่ไหนแต่ไรมาคุณไม่เคยคิดที่จะแย่งชิงสิทธิ์การดูแลจิ่งซีไปจากผม”
“อวี้หนานเฉิง!” เซิ่งอันหรานเจ็บปวด ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน “ปล่อยฉันนะ”
“ปล่อยคุณอย่างนั้นเหรอ ?”
ความโกรธนัยน์ดวงตาของอวี้หนานเฉิงลุกโชน ปะปนด้วยความเศร้าโศกและความรู้สึกผิดหวัง เขาตะโกนใส่เธอ
“เซิ่งอันหราน ที่คุณเข้ามาอยู่ใกล้ผมตั้งแต่แรกก็เพื่ออยากได้สิทธิ์การดูแลลูก คุณวางแผนและคำนวณไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจของคุณไม่มีตำแหน่งหรือที่ว่างสำหรับผมเลยแม้แต่น้อย!”
ตอนนี้เขาเพิ่งจะได้เข้าใจ ว่าทำไมทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ตราบใดที่พูดถึงจิ่งซี เธอมักจะใจอ่อนลงเสมอ และสิ่งเดียวที่เธอปฏิบัติต่อตัวเขาก็คือความเย็นชา เพราะตั้งแต่ต้นจนจบในใจของเธอไม่มีพื้นที่สำหรับเขาเลย
สำหรับการแต่งงาน มันเป็นเพียงราคาที่เธอต้องเสียสละ เพื่อประโยชน์ในการที่จะดูแลลูกของตัวเองก็เท่านั้น!
ผู้หญิงคนนั้นที่เคยใช้เตียงและหมอนร่วมกันกับเขา เขามองเธอไม่ออกเลย จนกระทั่งวันนี้
“คุณคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ ?”
เซิ่งอันหรานมองดูเขาด้วยแววตาที่เหลือเชื่อ “ค่อยๆวางแผน ค่อยๆคำนวณมาจนถึงทุกวันนี้ ใช้ตัวเองในการแต่งงานกับคุณ เพียงเพื่อที่จะแย่งสิทธิ์การดูแลลูกไปจากคุณอย่างนั้นเหรอ ?”
"มันไม่ใช่หรือยังไง?"
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้วและถามกลับ “ถ้าหากไม่มีเด็กสองคนนี้ คุณยังจะแต่งงานกับผมไหม ?”
แผ่นหลังของเธอกระแทกแผงประตูอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดค่อยๆมีขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อเห็นว่าเขาทำตัวไร้ซึ่งเหตุผล เธอจึงตะโกนด้วยความโมโหขึ้นว่า
“นั่นมันเรื่องของฉัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย ”
ประโยคนี้มันจุดประกายความโกรธทั้งหมดในหัวใจของอวี้หนานเฉิง เขาคิดว่าแผนทั้งหมดที่เซิ่งอันหรานทำคือทำเพื่อลูกเท่านั้น ทันทีที่เธอได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร เธอก็จะพาเด็ก ๆ กลับไปที่สหรัฐอเมริกาและอยู่กินกันอย่างมีความสุขกับกู้เจ๋อ
กู้เจ๋อเป็นหนามที่อยู่ในใจของเขามาโดยตลอด แต่ตอนนี้หนามเล่มนี้มันได้เจาะทะลุแนวป้องกันสุดท้ายของเขา ความโกรธของเขาดูเหมือนจะควบคุมไม่ได้
เขามองไปที่เซิ่งอันหรานอย่างดูถูก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
“คุณต้องการลูกใช่ไหม? ผมจะให้ลูกกับคุณ คุณอยากได้มากเท่าไหร่ผมให้คุณได้ตามที่คุณต้องการ ! แต่จิ่งซี คุณอย่าแม้แต่จะคิด”
"คุณกำลังจะทำอะไร ?"
อวี้หนานเฉิงถูกความโกรธเข้าครอบงำจนเสียสติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่เธอพยายามดิ้นรนและกรีดร้อง ในสมองของเขาเต็มไปด้วยภาพของเธอและลูกๆอยู่กับกู้เจ๋ออย่างมีความสุข
“ฉันเกลียดคุณ!” เธอตะโกนเสียงดังในห้องน้ำ ตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อวี้หนานเฉิง! ฉันเกลียดคุณ!”
“งั้นก็เกลียดผมเลย เกลียดผมไปตลอดชีวิต”
ในขณะนั้น ในสมองของเซิ่งอันหรานมีอยู่เพียงความคิดเดียว คือความคิดที่ว่า
เรื่องเธอและอวี้หนานเฉิงจบลงแล้วจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน