ในคฤหาสน์บนเนินเขาในเขตชานเมืองจินหลิง
กู้เจ๋อวางเซิ่งอันหรานไว้บนเตียงในห้องอย่างแผ่วเบาและให้หมอมาตรวจร่างกายของเธอ
"อวี้หนานเฉิงเกือบจะเป็นบ้าไปแล้วถึงกล้าทำร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปหาคุณท่านตระกูลอวี้เพื่อพูดคุยเรื่องที่เขาห้ามอันหรานเดินทางละก็...ไม่รู้ว่าเรื่องวันนี้จะจบลงยังไง !"
ถานซูจิ้งพูดในห้องนั่งเล่นด้วยความโกรธ
เกาจ้านพูดอ้อมแอ้มว่า "ซูจิ้ง พี่เฉิงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร บางทีอาจเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้"
"นายน่ะเงียบไปเลยนะ"
ถานซูจิ้งมองเขาอย่างเคร่งขรึม "ถ้านายพูดแทนอวี้หนานเฉิงอีกคำละก็...มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้นเลย นายไม่เห็นสภาพของอันหรานหรือไง? เธอเกือบจะตายเพราะไอ้โรคจิตอวี้หนานเฉิงแล้วนะ”
เกาจ้านขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของถานซูจิ้ง แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
สักพักหมอก็เดินออกมาจากห้องนอน
กู้เจ๋อที่ยืนรออยู่หน้าประตูเอ่ยปากถามในทันที “เธอเป็นยังไงบ้างครับ?”
"ไม่เป็นอะไรมากครับ"
หมอเดินมาที่ห้องนั่งเล่นและกล่าวต่อว่า “ไม่มีบาดแผล แต่ร่างกายอ่อนแรง ตอนนี้มีไข้ขึ้นสูง พอไข้ลดลงก็จะตื่นขึ้นมาเองครับ”
กู้เจ๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเกาจ้านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน
หลังจากส่งหมอกลับไปแล้ว ถานซูจิ้งก็ตรงไปที่ห้องนอนเพื่อดูเซิ่งอันหราน มีเพียงเกาจ้านและ กู้เจ๋อที่เหลืออยู่ในห้องนั่งเล่นเท่านั้น
ในฐานะเพื่อนของอวี้หนานเฉิง สถานการณ์ของเกาจ้านในตอนนี้ค่อนข้างน่าอึดอัด วิธีที่ดีที่สุดคือการไม่ถามอะไรทั้งสิ้น แต่เขากลับทนไม่ไหว
"คุณจะทำยังไงต่อไป?"
เมื่อได้ยิน กู้เจ๋อก็เหลือบมองเขา "คุณกำลังถามแทนอวี้หนานเฉิงสินะ?"
"ไม่ใช่"
เกาจ้านรีบอธิบายต่อว่า “ผมแค่คิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นการเข้าใจผิดกัน ผมได้ยินจากซูจิ้งแล้ว ที่อันหรานคลอดลูกสองคนในตอนนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนานเฉิงควรจะเข้าใจเธอถึงจะถูกต้อง แต่ทำไมเขาถึงโกรธเธอ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ผมคิดว่าเราควรจะทำให้ทุกอย่างมันชัดเจน”
“คุณก็คิดว่าเขาไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ?”
กู้เจ๋อพูดต่อด้วยท่าทีรังเกียจอวี้หนานเฉิงว่า "แล้วคุณคิดว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ทำร้ายผู้หญิงที่มีลูกให้กับเขาล่ะ?"
เกาจ้านเงียบไป
ใช่ ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะอธิบายท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของอวี้หนานเฉิงที่มีต่อเซิ่งอันหรานได้เลย
“ผมจะคุยกับเขา”
“นี่มันเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” กู้เจ๋อเหลือบมองเกาจ้าน "ผมพร้อมที่จะฟ้องอวี้หนานเฉิง คุณก็บอกเขาเรื่องขึ้นศาลเลยก็ได้"
"ฟ้องงั้นเหรอ?"
เกาจ้านลุกออกจากโซฟาทันที "คุณจะฟ้องเรื่องอะไร?"
"การข่มขืนเมื่อ 6 ปีที่แล้วและการลักพาตัว ฟ้องพร้อมกันทีเดียวเลย"
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เกาจ้านพูดอย่างตะกุกตะกัก “ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ? คุณคิดให้ดีๆนะ อันหรานไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะมันจะทำให้เกิดเสียงนินทาต่างๆมากมาย คุณกำลังทำร้ายเธอ”
“เพื่อลูก เธอจะต้องเห็นด้วยแน่ๆ”
โดยปกติแล้วกู้เจ๋อมักมีนิสัยอ่อนโยนเสมอ แต่ครั้งนี้เขากลับพาคนไปเอาเรื่องที่คฤหาสน์ตระกูลอวี้ ก่อนที่จะได้พบกับเซิ่งอันหราน เขายังรู้สึกลังเลว่าจะทำดีหรือไม่ แต่เมื่อเห็นเซิ่งอันหรานต้องลำบากใจเพราะเรื่องของลูกๆในวันนี้ มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง
“หยุดเล่นได้แล้ว ซิงซิงน้อย รีบมาดื่มนมเร็วเข้า”
เซิ่งอันหรานยื่นแก้วนมให้กับเธอ
เด็กน้อยรับแก้วนมไปอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะดื่มอย่างรวดเร็วและเรอออกมาเสียงดัง เซิ่งอันหรานมองเธอด้วยรอยยิ้ม
เซิ่งอันหรานรู้สึกขบขันกับเธอและจับศีรษะเด็กน้อยของเธออย่างช่วยไม่ได้ "ลูกไม่ได้เจอหม่ามี๊มาหลายวัน ไม่กลัวเลยเหรอ?"
“เมื่อก่อนหม่ามี๊ก็พาหนูไปหาคุณปู่เฉิงบ่อยๆไม่ใช่เหรอ !”
คุณปู่เฉิงที่เซิ่งเสี่ยวซิงกล่าวถึงนั้นคือชายชราตระกูลอวี้นั่นเอง
“เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ครั้งนี้ไม่ได้อยู่กับคุณปู่เฉิงไม่ใช่เหรอ? ลูกอยู่ที่นั่นไม่รู้จักใครเลย”
“ป่าป๊ามาอยู่กับหนูทุกวัน !”
“ป่าป๊า?” เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว “ใครเหรอ?”
"ลุงอวี้น่ะสิ" เซิ่งเสี่ยววิงพูด "หนูรู้แล้ว หม่ามี๊ตามหาพี่มาตลอด พี่จิ่งซีก็คือพี่ ลุงอวี้ก็คือพ่อแท้ๆของหนู"
“เขาบอกลูกเหรอ?” เซิ่งอันหรานประหลาดใจ
"ใช่ค่ะ" เซิ่งเสี่ยวซิงมองเธอด้วยรอยยิ้ม "หลายวันมานี้ป่าป๊าเล่นอยู่ที่สวนสนุกกับหนูทุกวัน สนุกมากเลยค่ะ ป่าป๊ารับปากหนูว่าครั้งหน้าจะพาพี่จิ่งซีไปด้วย และที่นั่นจะเป็นฐานลับของพวกเรา”
เซิ่งอันหรานกำหมัด การแสดงออกของเธอซับซ้อน
ในช่วงหลายวันมานี้ ที่อวี้หนานเฉิงหายตัวไปก็เพราะเขาอยู่ที่สวนสนุกกับเซิ่งเสี่ยวซิงงั้นเหรอ?
“หม่ามี๊” เซิ่งเสี่ยวซิงนึกถึงบางสิ่ง มองดูเธออย่างสงสัยและถาม “แต่ทำไมตำรวจถึงพาหนูกลับมาล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน