หลังจากตกลงกับฟ่านหลิงชวงเรื่องที่จะไปนัดบอดแทนเธอ ฟ่านหลิงชวง ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของเธอ สลับให้เซิ่งอันหรานเวียนไปทำงานที่แผนกฉุกเฉินก่อนกำหนด เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการราววอร์ดของแผนกผู้ป่วยในในทุกเช้าๆ
ในสำนักงานฟ่านหลิงชวง ฟ่านหลิงชวงเกาะแขนของเธอด้วยท่าทางมีความสุข
“ฉันพึ่งพาได้ใช่หรือเปล่าล่ะ ที่ฉันช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ ฉันเสี่ยงที่จะถูกคณบดีหาถีบออกจากตำแหน่งนะ ”
“ใช่ เธอพึ่งพาได้จริงๆ”
เซิ่งอันหรานกระตุกมุมปาก เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“เรื่องเวลา ที่อยู่ และชื่อ ฉันได้ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของเธอแล้ว เขาเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เขารู้พียงแค่ว่าฉันเป็นหมอ ถึงตอนนั้นเธอก็ดำเนินการตามแผนได้ ทำการนักบอดครั้งนี้ให้พังก็พอ”
“อันที่จริง ฉันคิดว่าการนัดบอดมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้ดื้อนัก ลองไปดูก็ไม่ได้เสียหายอะไร บางทีเขาอาจจะเหมาะสมกับเธอจริงๆก็ได้ ?”
“เหมาะสมกับอะไรผี? คนในสมัยนี้ใครเขาจะไปนัดบอดกันล่ะ ?” ” ฟ่านหลิงชวงเหลือบมองเธอ พร้อมขดริมฝีปาก
“ถ้าประวัติไม่มีปัญหา จิตใจปกติ และพร้อมในทุกๆด้านแบบนี้ ทำไมเขาถึงหาแฟนไม่ได้ล่ะ? คนปกติที่ไปนัดบอด แปดถึงเก้าคนมักจะมีปัญหา แล้วทำไมฉันถึงต้องเสียเวลาไปด้วย?”
“อย่างน้อยก็ยังมีคนความปกติอยู่หนึ่งถึงสองคนไม่ใช่เหรอ ?”
“เธอคิดว่าฉันจะโชคดีเจอหนึ่งหรือสองคนนั้นไหม? แม้กระทั่งผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยยังรู้เลย ว่าถ้าหากอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดต่ำเกินไป พวกเขาก็นิยมที่จะเลือกการรักษาโดยวิธีปกติ เหตุการณ์นี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียงเล็กน้อย หรือเปรียบได้กับการพนัน "
ฟ่านหลิงชวงเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟค เธอวิเคราะห์ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ มองในมุมของเหตุผล และมีความชัดเจนมาก เธอแข็งแกร่งเกินที่จะคิดถึงเรื่องความรัก
เซิ่งอันหรานเปิดโทรศัพท์ เช็คดูเวลา สถานที่ และถอนหายใจอย่างจำใจ เลือกวันได้ดีทีเดียว วันเสาร์นี้เป็นวันพักผ่อนของเธอ ปกติเธอมีวันหยุดไม่มาก กะว่าเสาร์นี้จะพาเด็กสองคนออกไปเล่นนอกบ้านซะหน่อย ยังไงก็เถอะ คงจะต้องเสียเวลาไปครึ่งวัน
ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน เซิ่งอันหรานโทรหากู้อัน
“เธอพาเสี่ยวซิงซิงไปที่บ้านของคุณหมอช่ายหรือยัง ?”
“ฝังเข็มเสร็จนานแล้ว ” เสียงที่ยิ้มแย้มของกู้อันดังมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง “ฉันกับเสี่ยวซิงซิงกำลังเดินเล่น คืนนี้คุณจะกลับมาเมื่อไหร่ แล้วจะทำอาหารไหม ?”
“ไม่ล่ะ วันนี้ฉันต้องทำโอที เสี่ยวซิงซิงทำอาหารเป็น ให้เสี่ยวซิงซิงทำให้เธอทานเถอะ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองคนจะกินข้างนอกก็ได้นะ ”
“ฉันกินข้างนอกดีกว่า แม้ว่าเด็กคนนี้ทำอาหารเก่ง แต่ก็มักจะบังคับให้ฉันล้างจานอยู่ตลอด ”
"เธอขี้เกียจล่ะสิ"
กู้อันจะมาจากบนเกาะร้าง ตั้งแต่เด็กเรื่องอารมณ์ของเธอไม่มีใครคอยบอกคอยสอน เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นและไม่ยอมฟังคำสั่งสอนของใคร แม้ว่าเซิ่งอันหรานจะพยายามบอกสอนเธอเรื่องมารยาททางโลกภายนอกกับเธอสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเธอต้องไปอยู่ข้างกายของกู้เจ๋อ และกู้เจ๋อก็ไม่เคยสนใจเรื่องนี้ มันยิ่งทำให้กู้อันคุ้นเคยกับการละเลยเรื่องพวกนี้มากขึ้น
แม้แต่คำพูดที่เซิ่งอันหรานประชดประชันเธอ เธอก็ยังทำเป็นเหมือนไม่รับรู้อะไร
“ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว มันเสียเวลาในการซื้อของ”
โทรศัพท์ถูกตัดสายไปอย่างรวดเร็ว เซิ่งอันหรานเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยท่าทางจำใจ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดค้นหารายชื่อผู้โทรและโทรออก
เสียงรอสายดังขึ้นเป็นเวลานาน ก่อนที่ปลายอีกด้านหนึ่งจะรับ
“ฮัลโหล อันหราน มีธุระอะไรหรือเปล่า ? ” เสียงเพิ่งตื่นนอนของกู้เจ๋อดังเข้ามาในโทรศัพท์ เซิ่งอันหรานเหลือบมองนาฬิกา เธอลืมไปว่าเวลาของอเมริกาตอนนี้เป็นตอนกลางคืน
“ขอโทษนะ ฉันรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณใช่ไหม ?”
“ไม่เป็นไร” เสียงยกผ้าห่มดังขึ้นที่ปลายของโทรศัพท์ “มีอะไรหรือเปล่า ?”
“ฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณ อันอันมาหาฉัน เป็นเพราะเมื่อวานมันดึกแล้วฉันเลยไม่ได้บอกคุณ ”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง เสียงที่สับสนของกู้เจ๋อดังขึ้น
“อันอันอยู่กับคุณ? คุณหมายความว่าอย่างไร?”
“ง่ายมาก หนูจะเลือกชุดหนึ่งชุดสำหรับพี่ และพี่ก็เลือกให้หนูหนึ่งชุด ”
กู้อันมองไปที่เซิ่งอันหรานตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเธอบอกถึงความรังเกียจ "ชุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆอย่างเธอสวมใส่ ฉันทำใจใส่ไม่ได้จริงๆ"
“อย่าบังคับอื่นในสิ่งที่คุณไม่ต้องการ ?”
"หมายความว่าอะไร?"
กู้อันไม่เคยเรียนหนังสือเลยมาตั้งแต่เด็ก พอไปถึงสหรัฐอเมริกาก็ต้องใช้อีกภาษาหนึ่ง ตอนนี้ เธอพูดภาษาจีนกับภาษาอังกฤษสลับกันไปหมด ดังนั้น เมื่อพูดถึงเรื่องสำนวนในภาษาจีน โดยพื้นฐานแล้วเธอฟังไม่เข้าใจหรอก
เซิ่งเสี่ยวซิงอธิบายด้วยความจำใจ “ก็คือ พี่ไม่ชอบรสนิยมที่ฉันชอบ พี่ก็ควรพิจารณาด้วยว่า ฉันก็อาจจะไม่ชอบรสนิยมของพี่เหมือนกัน หากพี่ต้องการให้ฉันยอมรับรสนิยมของพี่ พี่ก็ควรยอมรับในรสนิยมของฉันด้วยเช่นกัน เข้าใจไหม ?”
กู้อันคิดตามอยู่ครู่หนึ่ง
“ใครว่าฉันไม่ยอมรับล่ะ เปลี่ยนก็เปลี่ยน ”
ใบหน้าของเซิ่งเสี่ยวซิงดูลำบากใจ "พี่จะเอาจริงเหรอ ? "
ไม่มีใครสามารถเกลี้ยกล่อมกู้อันได้ เธอลากเซิ่งเสี่ยวซิงไปลองเสื้อผ้าทันที คนหนึ่งชอบสไตล์ฮาราจูกุที่มีสีสันสดใส อีกคนชอบสไตล์สีชมพูน่ารัก ทั้งสองแลกเปลี่ยนรสนิยมการแต่งตัวของกันและกัน
สิบนาทีต่อมา กู้อันยืนอยู่หน้ากระจกพร้อมกับเอี๊ยมสีขาวนวลและรองเท้าหนังสีน้ำตาลคู่เล็ก ลูกค้าที่ซื้อของในนั้นสี่ถึงห้าคนต่างมองมาที่เธอ
“ทำไมฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ ”
“จะไม่แปลกได้ยังไงล่ะ ? ”
เซิ่งเสี่ยวซิงกระตุกมุมปาก เธออยากจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย
ผมเปียที่เด่นชัดบนหัวของกู้อันอันนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่แขนซ้ายที่มีลายดอกไม้ขนาดใหญ่ มันไม่เข้ากับกระโปรงเอี๊ยมสีขาวนวลเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน