“สวัสดีค่ะ นี่คือข่าวอุตุนิยมวิทยาในเช้านี้ เนื่องจากฝนตกหนัก ทัศนวิสัยการขับรถไม่ดีนักจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์มากมายในเมือง เมื่อเวลา 8:05 น. มีรถชนกันติดต่อหลายคันบนสะพานซงเจียง คนขับรถบรรทุกถูกต้องสงสัยว่าเมาแล้วขับ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน รถพยาบาลของโรงพยาบาลจินหลิงที่ใกล้ที่สุดมาถึงที่เกิดเหตุในทันที"
"..."
เซิ่งอันหรานที่กำลังล้างจานอยู่ เมื่อเธอได้ยินเสียงข่าวออกอากาศทางทีวีในห้องนั่งเล่น เธอก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที เธอรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างรวดเร็วและโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขณะที่เธอกำลังเช็ดมือ
“สวัสดีค่ะ หัวหน้าจ้าว”
"..."
“อืม ดิฉันทราบข่าวแล้ว จะรีบไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ค่ะ”
"..."
“ค่ะ ดิฉันจะตรงไปที่ห้องฉุกเฉินเลย”
"..."
หลังจากวางสาย เซิ่งอันหรานกำชับกู้อันให้ดูแลน้องสาวให้ดีและรีบออกจากบ้านไป
เดิมเธอมีวันหยุดพักร้อนครึ่งวัน แต่ด้วยสภาพอากาศแบบนี้มักทำให้โรงพยาบาลมีงานล้นมือ ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาลที่ลาพักร้อนต่างก็กลับมาให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาลจินหลิง
เมื่อเซิ่งอันหรานมาถึงโรงพยาบาล รถพยาบาลชุดแรกก็มาถึงที่ทางเข้าโรงพยาบาล เธอไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นขึ้นไปช่วยและเข็นเตียงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
"แท่งเหล็กทะลุผ่านช่องทรวงอกทางด้านซ้าย ทำการตรวจเอกซเรย์ทรวงอกเพื่อตรวจสอบความเสียหายของเส้นประสาท โทรหาผู้อำนวยการหลิวแผนกศัลยกรรมทรวงอกเพื่อขอคำปรึกษาด้วย"
"..."
“หมอเซิ่ง มาดูเคสนี้หน่อยค่ะ ผู้ป่วยไม่มีบาดแผลบนร่างกายแต่มีอาการช็อก”
“ฉันไม่ค่อยถนัดด้านนี้ ผู้อำนวยการชิวแผนกสมองน่าจะมาถึงแล้ว คุณพาผู้ป่วยไปทำซีทีสแกนก่อน”
แม้ว่าเซิ่งอันหรานจะเป็นเพียงกุมารแพทย์ แต่เธอมีพื้นฐานการแพทย์คลินิกที่ดีตอนที่เรียนอยู่ในวิทยาลัย และมีโอกาสได้เป็นอาสามาสมัครหลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงมีประสบการณ์มากกว่าการฝึกงาน ดังนั้นตอนนี้เธอจึงอยู่ใน ห้องฉุกเฉิน แพทย์ฝึกหัดมักจะถามเธอเสมอว่ามีปัญหาอะไรไหม
แต่มีปัญหาบางอย่างที่เธอแก้ไม่ได้ เธอจึงไม่เสียเวลาดูเอง
แพทย์ฝึกหัดผลักเตียงคนไข้ผ่านเธอ ชายที่นอนอยู่บนเตียงหลับตา เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเปื้อนฝนและโคลน แต่เขาก็ยังหล่อเหลาเย็นชา ขณะนั้นมือของเขาก็ขยับกะทันหัน คว้าชายเสื้อคลุมสีขาวของเซิ่งอันหรานและปล่อยมืออีกครั้งในพริบตา
ผลกระทบจากอุบัติเหตุที่ตามมายังคงเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากไข้หวัดแล้ว โรงพยาบาลจินหลิงก็แออัดไปด้วยผู้คน รถกู้ภัยและรถพยาบาลเอกชนยังคงมาจอดอย่างต่อเนื่อง
“แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ” เสื้อคลุมสีขาวของฟ่านหลิงชวงเปื้อนเลือด และเธอขมวดคิ้ว “คนเยอะเกินไป พวกเขาอาจจะติดเชื้อได้
เซิ่งอันหรานมองไปที่ห้องฉุกเฉินที่พลุกพล่านรอบตัวเธอ และดวงตาก็เต็มไปด้วยความกังวล
“ทำไงได้ล่ะ? จะปิดประตูโรงพยาบาลไม่ให้คนเข้ามาก็เป็นไปไม่ได้”
ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยตึงเครียดมาก เมื่อโรงพยาบาลปฏิเสธผู้ป่วย ความโกลาหลก็จะเกิดขึ้น และคนที่เดือดร้อนที่สุดก็คงจะเป็นโรงพยาบาลเอง
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ฟ่านหลิงชวงพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ฉันจะไปผู้อำนวยการ”
หลังจากพูดจบ เธอก็โยนข้อมูลหมอและผู้ป่วยในมือให้กับเซิ่งอันหรานทันทีแล้วจากไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูโรงพยาบาลจินหลิงก็ปิดอย่างเป็นทางการ หลังจากที่รถพยาบาลที่เพิ่งมาถึงเข้ามา สมาชิกในครอบครัวที่กำลังร้องไห้ทั้งหมดก็ถูกล็อกไว้
เซิ่งอันหรานยืนอยู่บนชั้นสองของโรงพยาบาล มองดูสมาชิกในครอบครัวข้างนอก และอารมณ์ของเธอก็ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
เสียงกระซิบของแพทย์ฝึกหัดดังมาจากด้านหลัง
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
"ในช่วงที่เกิดโรคซาร์ส เพราะโรงพยาบาลจินหลิงปิดประตูและปฏิเสธผู้ป่วยไม่ใช่เหรอ? เลยทำให้ญาติผู้ป่วยไม่พอใจและพังประตูเข้ามา ฆ่าหมอและพยาบาลไปสองคน"
ทันใดนั้นเซิ่งอันหรานก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี
“ท่านประธานโทรมาในตอนเช้าบอกให้บริษัทจัดประชุมแต่เขายังไม่มา ตอนนี้เพิ่งได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนสะพานซงเจียงและนั่นคือทางที่ท่านประธานใช้เดินทางเป็นประจำ ผมรีบไปที่เกิดเหตุและเห็นรถของของเขาถูกชนจนรถพังยับเยิน มีคนบอกว่านำตัวเขาส่งโรงพยาบาลจินหลิง แต่ตอนนี้โรงพยาบาลปิดไม่มีใครเข้าไปได้ ผมไม่รู้จะทำยังไงก็เลยโทรมาถามคุณน่ะครับ"
เสียงของโจวฟังขาดๆ หายๆ ไม่ต่อเนื่องกันเล็กน้อย และเสียงของอวี้เฟิ่งหยาก็ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง
เซิ่งอันหรานรู้สึกหนักอึ้งในใจขึ้นมาทันที
“ฉัน...ฉันไม่เห็นเขาเลยค่ะ คือฉัน…”
ก่อนที่เธอจะวางสายและรีบวิ่งไปห้องฉุกเฉิน เธอเปิดม่านกั้นทีละห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด แต่ก็ไม่เห็นร่างของอวี้หนานเฉิง
“ใครเห็นชายร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาว อายุ30กว่าๆ บ้างคะ?”
"ไม่เห็นค่ะ"
"เธอเห็นไหม..."
หลังจากถามไปรอบๆ ก็มีเสียงพยาบาลมาจากด้านหลัง
“หมอเซิ่ง คนที่คุณถามถึงใช่คนที่สวมนาฬิกาวาเชอรอง คอนสแตนตินที่มือซ้ายใช่ไหม?”
การแสดงออกของเซิ่งอันหรานหยุดนิ่ง
“ใช่ คุณเจอเขาเหรอ?”
“ตอนที่เขาถูกส่งมาถึงที่นี่ คนยังไม่เยอะมาก เขามีอาการช็อก หมอจ้าวถามคุณว่าต้องทำยังไง คุณบอกว่าให้ส่งเขาไปที่แผนกสมองโดยตรงไม่ใช่เหรอคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉากหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเซิ่งอันหราน เธอนึกถึงสัมผัสที่คุ้นเคยบนข้อมือของเธอครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะวิ่งไปที่แผนกสมองโดยลืมกล่าวขอบคุณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน