“เหลวไหลเหรอ ฉันว่านายนั่นล่ะเหลวไหล!”
หลินหว่านหรูไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าอวดดี ทำไมถึงทำไม่ได้”
“ยิ่งกว่านั้น นายน้อยหลิวยังสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด และเขาได้ช่วยเหลือตระกูลหลินของฉันมามาก คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปที่จะใส่ร้ายผู้อื่นด้วยวิธีแบบตาต่อตาเช่นนี้เหรอ?”
“ถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ลืมมันซะเถอะ เพราะนายไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่านายกำลังใส่ร้ายผู้มีพระคุณของเราต่อตระกูลหลิว หากเจ้ายังทำเช่นนี้ต่อไป จงออกไปจากตระกูลหลินซะ”
หลินหงก็ถือโอกาสพูด
“ช่างมันเถอะ จริง ๆ แล้วผมเข้าใจพี่เย่นิดหน่อย ยังไงซะ เขาก็แค่คนบ้านนอกบนภูเขาและไม่เข้าใจอะไรเลย เขาคงจะรู้สึกอิจฉาผมในใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลิวเจี๋ยหัวเราะ
“เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ควรจะถ่อมตัว นี่หมายความว่ายังไง คิดจะฆ่าพวกเราจริง ๆ สินะ” หลิวอวิ๋นซิ่วกล่าว
เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดมากแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์ แต่เขากลับถูกโจมตีมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงหยุดพูด
“เอาล่ะ เทียนหยู่เพิ่งทำผิดพลาด”
เห็นได้ชัดว่าท่านปู่หลินไม่เชื่อคำพูดของเย่เทียนหยู่ แล้วพูดว่า: “นายน้อยหลิว ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ข้าไม่รู้จะขอบคุณยังไงจริง ๆ”
“ยินดีครับท่านปู่หลิน ไม่เป็นไร เพื่อเห็นแก่หว่านหรู ไม่สำคัญว่าจะทำอะไร” หลิวเจี๋ยได้ทีก็เอาหน้า
ท่านปู่หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนนี้หลานสาวของเขาเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
เมื่อหลิวเจี๋ยเห็นว่าท่านปู่ดูผิด เขาก็พูดทันที: “คุณปู่หลิน จริง ๆ แล้วผมมาที่นี่วันนี้และนำสิ่งดี ๆ มาสู่ตระกูลหลิน”
“โอ้?”
“ดูนี่สิ!” หลิวเจี๋ยหยิบคำเชิญสีแดงออกมา
“นี่คือ?”
ท่านปู่หลินรับมันมาเปิดแล้วพูดอย่างมีความสุข: “จดหมายเชิญไปงานเลี้ยงอาหารค่ำที่หอการค้าหลงเถิง?”
“ถูกตัอง!”
หลิวเจี๋ยยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า: “จริงๆ แล้ว งานเลี้ยงนี้ควรจะจัดขึ้นมานานแล้ว เพียงเพราะลูกสาวของประธานหยาง ป่วยหนักจึงถูกเลื่อนออกไปในคืนมะรืนนี้”
“ไม่เหมือนที่ใครเขาพูดกัน เขาเก่งมากจนสามารถยกเลิกงานเลี้ยงได้จริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภูพาจุติราชามังกร