ปล่อยใจให้รักเธอ(จบ) นิยาย บท 2

 ตอนที่ 2 การตั้งครรภ์ 

 “ริน การแต่งงานมันคือชีวิตของหนูทั้งชีวิตนะลูก แม่จะไม่ยอมให้หนูแต่งงานกับเขา” กานดารู้ดีว่าทำไมรินลดาถึงยอมแต่งงาน

รินลดาวางอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียงแล้วพูดว่า “อย่างน้อยหนูก็ไม่ได้แต่งงานกับคนอื่นคนไกล เขาเป็นลูกชายของเพื่อนแม่ไม่ใช่เหรอคะ?”

“คุณหญิงช้อยเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน แม่ไม่รู้จักลูกชายของเธอเลย หนูควรได้แต่งงานกับผู้ชายที่หนูรักจริง ๆ แม้ว่าเราจะต้องผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ แต่แม่ไม่อยากให้หนูใช้การแต่งงานมาเป็นเครื่องต่อรอง แม่เองอยู่ที่นี่ไปจนวันตายซะจะยังดีกว่า”

ผู้ชายที่เธอรักงั้นเหรอ?

ต่อให้เธอได้เจอใครคนนั้นจริง ๆ เธอก็ไม่คู่ควรกับเขาอยู่ดี

สำหรับรินลดา มันไม่สำคัญเลยว่าเธอจะต้องแต่งงานกับใคร สิ่งที่สำคัญคือการเอาทุกอย่างที่พวกนั้นเอาไปจากแม่ของเธอกลับคืนมา

เมื่อกานดาไม่สามารถโน้มน้าวให้รินลดาเปลี่ยนใจได้ พวกเขาจึงออกเดินทางกลับประเทศอัคราในวันรุ่งขึ้น

จตุเทพไม่อนุญาตให้พวกเขาอยู่ในบ้านของครอบครัว เพราะพวกเขาไม่เป็นที่ต้องการ จตุเทพพาทั้งสองไปเช่าบ้านอยู่ เมื่อถึงวันนั้นแต่งงาน รินลดาจึงจะได้ไปที่บ้านโชคอนันต์

รินลดาเองไม่เคยอยากไปที่นั่นอยู่แล้วเพราะรู้ว่าแม่ของเธอจะต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ทำลายชีวิตครอบครัวของเธอ ดังนั้นทั้งสองจึงพอใจที่จะมาเช่าบ้านอยู่ 

มันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน

กานดายังคงกังวลเรื่องการแต่งงาน "ริน โอกาสนี้จะมาไม่ถึงลูกเลย ถ้างานแต่งงานนี้เป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่าแม่กับคุณหญิงช้อยจะสนิทกันก็ตาม”

รินลดาไม่ต้องการพูดเรื่องนี้แล้ว เธอพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย “แม่คะ กินข้าวกันเถอะ”

กานดาถอนหายใจ เธอรู้ว่ารินลดาไม่ต้องการที่จะพูดเรื่องนี้ต่อ แต่ลูกสาวคนนี้ยอมทนทุกข์กับเธอมาหลายปีแล้ว และตอนนี้เธอยังจะต้องมาเสียสละชีวิตของตัวเองอีก

รินลดาถือช้อนส้อมพร้อมลงมือทาน แต่เธอกลับไม่นึกอยากกินอะไรเลย อาการแพ้ท้องเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ

"ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?" กานดาถามด้วยความเป็นห่วง

รินลดาไม่อยากให้แม่ต้องเป็นกังวล จึงโกหกไปว่าเธอยังปรับเวลาจากการเดินทางข้ามซีกโลกไม่ได้ก็เท่านั้น

เธอวางช้อนส้อมลงและเดินเข้าห้องนอนไป

หลังจากปิดประตู รินลดายืนพิงประตูอย่างท้อแท้ ถึงเธอจะไม่เคยท้อง แต่เธอก็เคยเห็นอาการแพ้ท้องแบบนี้สมัยที่แม่ท้องน้องชาย แม่แพ้กลิ่นอาหารทุกชนิดและไม่อยากอาหารเลยแม้แต่น้อย

และตอนนี้รินลดาก็กำลังมีอาการแบบเดียวกันนั้น

หนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่คืนวันนั้น ประจำเดือนของเธอมาช้าไป 10 วันแล้ว

เธอไม่อยากนึกถึงความอดสูในคืนนั้นเลย ถ้าไม่ใช่เพราะความเป็นความตายของแม่และน้องชายรอเธออยู่ เธอก็คงไม่ต้องขายตัว

เธอเริ่มตัวสั่น......

“คุณตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้ว”

แม้จะเดินออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว แต่คำพูดของคุณหมอยังคงตามมาหลอกหลอนเธออยู่ในใจ 

ผลจากการตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลซึ่งรินลดาแอบไปโดยไม่บอกกานดาทำให้เธอเครียดจัด เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรเก็บเด็กคนนี้ไว้หรือจะทำแท้งดี

รินลดาอดไม่ได้ที่จะลูบเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอที่ก่อตัวอยู่ในท้อง แม้เขาจะเกิดมาจากความไม่ตั้งใจและความอัปยศ แต่เธอก็ไม่พร้อมที่จะทำลายชีวิตอันบริสุทธิ์ 

ความรู้สึกของการที่จะได้เป็นแม่ ทำให้เธอทั้งสุขและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

เธอนั่งอยู่เงียบ ๆ ตรงนั้นเป็นเวลาเนิ่นนาน

ก่อนเข้าบ้าน รินลดาซ่อนผลการตรวจอัลตราซาวด์ไว้ในกระเป๋าอย่างมิดชิด 

เมื่อเห็นว่าจตุเทพรอเธออยู่ สีหน้าของเธอเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

เขามาทำไมที่นี่?

ดูจากสีหน้าของจตุเทพแล้ว เขาก็คงไม่อยากมาสักเท่าไหร่ ยิ่งต้องมานั่งรออีก น้ำเสียงของเขาห้วนและแข็งกระด้าง “เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”

“ทำไมคะ?” รินลดาถาม

“ในเมื่อเธอจะแต่งงานกับพวกวิสุทธิภักดิ์ เธอก็ควรที่จะแต่งตัวให้มันดีกว่านี้หน่อย จะให้บ้านนั้นเห็นเธอในสภาพนี้ได้ยังไง? อยากทำให้ฉันขายหน้านักงั้นเหรอ?”

นี่เธอยังมีความรู้สึกเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกเหรอเนี่ย?

รินลดาคิดว่าความรู้สึกของเธอคงตายด้านไปแล้วนับจากวันที่เธอต้องขายตัวเองและสูญเสียน้องชายไป

แต่คำพูดที่ไร้หัวใจจากจตุเทพ ก็ยังคงทำให้เธอเจ็บปวดได้อยู่ดี

เขาไม่เคยดูแลเธอเลยตั้งแต่ส่งเธอและแม่ไปอยู่อีกซีกโลก

แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงคืนนั้น ธีรสิทธิ์ก็รู้สึกผิดที่กำลังทำให้ผู้หญิงตรงหน้าเสียใจ ‘คืนนั้นเธอคงเจ็บมากสินะ’

ราวหนึ่งเดือนก่อน เขาไปทำโครงการวิจัยในต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา เขาถูกงูพิษกัดและคงจะตายไปแล้วถ้าเขาไม่ได้หลับนอนกับเธอ ผู้หญิงคนนี้คือทางรอดทางเดียวของเขา

เธอชื่อดวงเดือน เธอคือคนที่ยอมสละตัวเองให้เขาเพื่อเป็นยาถอนพิษ

เขารู้ดีว่าตอนนั้นเขาสุดที่จะควบคุมตัวเองได้

ว่ากันว่าครั้งแรกของผู้หญิงจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขากลับกระทำกับเธออย่างไม่ปรานี ย้อนกลับมาคิดดู มันคงเจ็บปวดมากสำหรับเธอ

แต่เธอก็ทนรับความเจ็บปวดนั้นไว้อย่างเงียบ ๆ ทำเพียงสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนของเขาเท่านั้นที่บ่งบอกให้เขารู้ว่าเธอเจ็บปวด

เขารู้ว่าดวงเดือนชอบเขาตั้งแต่แรกพบ แต่เขาไม่เคยคิดให้โอกาสเธอเลย

เหตุผลหนึ่งก็เพราะเขาไม่ได้รู้สึกรักเธอ ส่วนอีกผลก็เพราะแม่ของเขาได้จัดการหาคู่ครองให้เขาไว้แล้ว 

แต่ดวงเดือนพอใจแค่เพียงได้อยู่ใกล้เขาอย่างเจียมตัว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เขารู้สึกว่าเขาควรตอบแทนเธอบ้าง ด้วยการให้เธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต 

จนถึงตอนนี้ เขายังจดจำรอยสีแดงเข้มบนผ้าปูที่นอนนั้นได้อย่างแม่นยำ

ดวงเดือนนอนอยู่บนอกของเขาแล้วฮัมเพลงเบา ๆ

เธอรักธีรสิทธิ์มาตลอด และในที่สุดเธอก็ได้อยู่ใกล้ชิดเขาในฐานะเลขา แต่เธอไม่กล้าพอที่จะให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์เพราะเธอรู้ดีว่าผู้ชายให้ความสำคัญกับพรหมจารีของผู้หญิงแค่ไหน เธอจึงยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้คนในพื้นที่เสาะหาสาวพรหมจรรย์มาแทนที่เธอในคืนวันนั้น

และเมื่อหญิงสาวจากไป เธอก็เข้าไปนอนแทนที่และทำให้ดูเหมือนว่าคืนนั้นเป็นเธอมาโดยตลอด

“ถ้าคุณชอบชุดไหนอีก ก็ซื้อเพิ่มได้เลยนะ” น้ำเสียงธีรสิทธิ์เปี่ยมด้วยอาทรความขณะที่ลูบผมเธอเบา ๆ

“ห้องนั้นสำหรับลูกค้า VIP ค่ะ เดี๋ยวเลี้ยวขวาเข้าห้องนี้ได้เลยนะคะ” พนักงานขายตามมาบอกรินลดา 

ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม มักออกแบบห้องลองให้มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะห้องลองสำหรับลูกค้า VIP จะยิ่งหรูหราฟู่ฟ่ามากขึ้นไปอีก มีการแบ่งพื้นที่ด้านในสำหรับลองชุดและพื้นที่ด้านนอกสำหรับนั่งพักผ่อน

"โอ้!" รินลดาเดินไปที่ห้องลองด้านขวา

ระหว่างที่ลองชุด รินลดานึกไปถึงคู่รักในห้องลอง VIP ถ้าเธอได้ยินไม่ผิด พวกเขาน่าจะกำลังพูดถึงครอบครัวโชคอนันต์ของพ่อเธออยู่

บางทีผู้ชายคนนั้นอาจจะเป็น— 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปล่อยใจให้รักเธอ(จบ)