ผมที่จัดการเอากับส้มหวานและตอนนี้เธอก็ตกเป็นเมียของผมแล้ว 5555 วันที่รอคอยก็มาถึง และวันนี้ผมตั้งใจจะไปเที่ยวกับส้มหวาน แต่คงจะไปไม่ได้แล้วล่ะ ก็เพราะไอ้เหี้ยฟิวเวอร์มันเล่นส่งข้อความมาหาผมตั้งแต่เมื่อวาน
ข้อความฟิวเวอร์ 50 ข้อความ
เมื่อวาน
ฟิวเวอร์ : ไอ้เหี้ยคาเรน!!! - 08:00 น.
ฟิวเวอร์ : เงียบ ทำเชี้ยอะไรอยู่?? - 08:01 น.
ฟิวเวอร์ : ยังไม่ตอบกูอีก - 14:00 น.
ผมพึ่งจะเห็นข้อความจากไอ้เชี้ยฟิวเวอร์ที่ส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ผมจึงต้องจำใจแบบไม่เต็มใจเดินแยกออกมาจากเมียป้ายแดงของผม ก่อนจะเดินตรงมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ ก็จะขับรถออกไปทันที
คอนโดฟิวเวอร์
ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงคอนโดของไอ้ฟิวเวอร์และเลี้ยวรถเข้ามาจอดรถข้างๆมัน ก่อนจะเปิดประตูรถออกมาและเดินตรงไปที่ลิฟต์ กดชั้นที่ต้องการจะขึ้น
ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงชั้นที่ผมกด และประตูลิฟต์ก็เปิดออก ผมจึงเดินออกมาจาลิฟต์ เดินตรงไปที่ห้องของฟิวเวอร์
ก๊อก
ก๊อก
ก๊อก
แกร๊ก
ผมเคาะประตูเรียกคนด้านใน และหยิบคีย์การ์ดสำรองที่ขอมาจากพนักงาน ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไปด้านใน จังหวะที่ผมเดินเข้ามาในห้องของไอ้ฟิวเวอร์ มันก็เปิดประตูห้องนอนออกมาพอดี พอมันเห็นผมก็ทำหน้าตกใจและงง ว่าผมเข้ามาในห้องได้ไง
ผมไม่ตอบและโชว์คีย์การ์ดสำรองของห้องมันขึ้นมา จนฟิวเวอร์รีบเดินตรงเข้ามาหาผมและแย่งคีย์การ์ดสำรองจากมือของผม แต่โชคดีที่ผมหลบทันและเดินตรงมานั่งที่โซฟา
"ไอ้เวร!!! ใครเชิญมึงเข้ามาว่ะ!!??" ฟิวเวอร์มองตามคาเรนที่ถือวิสาสะเปิดประตูห้อง และเดินเข้ามานั่งบนโซฟา โดยไม่สนใจเจ้าของห้องอย่างเขา
"กูเชิญตัวเอง ห้องมึงก็เหมือนห้องกู" ผมที่เดินมานั่งลงโซฟา ก่อนจะหันไปมองไอ้ฟิวเวอร์ที่ยืนทำหน้าบึงยืนอยู่ และพอมันเห็นผมหันไปมองหน้ามัน ฟิวเวอร์จึงเดินมานั่งลงโซฟาอีกตัว
"นั้นมึงก็ช่วยกูจ่ายค่าห้องด้วย"
"ตกลงส่งข้อความมามีเรื่องอะไร!!??" ผมไม่ตอบคำถามของไอ้ฟิวเวอร์ และเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย จนมันถึงกลับยกยิ้มขึ้นมาเลยที่เดียว
"หึหึ กูมีเรื่องจะคุยด้วย"
"อะไร??" ผมหันไปมองหน้าไอ้ฟิวเวอร์อย่างงงปมสงสัย
"มึงจำรูปที่กูให้มึงดูได้ไหม!!??" ฟิวเวอร์มองหน้าผมก่อนจะหยิบรูปๆหนึ่งออกมา ก่อนจะยื่นมาให้ผมดู
"รูป!!?? รูปใครว่ะ!!??" ผมยื่นรูปขึ้นมาดู มันเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งยืนยิ้มหวานอยู่ แต่ผมรู้สึกคุ้นเหมือนเดิมเห็นที่ไหนมาก่อน
"เฮ้อ!! คนนี้ไง!!??"
"เอ่อ!! แม้ปากบอกไม่ชอบเค้า แต่พกติดตัวไว้ตลอดเลยนะเว้ย" พอผมลองนึกก็ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองไอ้ฟิวเวอร์ที่ตอนนี้นั่งดื่มเบียร์
ผั๊วะ!!
"โอ้ย!! ตบกูทำไม!!??" พอผมพูดเสร็จฝามือของไอ้เชี้ยฟิวเวอร์ก็ฟาดลงบนศีรษะของผมเต็มแรง จนผมที่ไม่ทันตั้งตัวก็ร้องอย่างตกใจก่อนจะหันไปถามฟิวเวอร์มัน
"หมั่นไส้!!"
ผมที่ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองไปมา ก่อนจะหันไปมองไอ้เชี้ยฟิวเวอร์อย่างเอาเอาเรื่อง จังหวะที่ฟิวเวอร์มันกำลังยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ผมจึงรีบลุกขึ้นและยกมือขึ้นฟาดลงที่หัวของไอ้ฟิวเวอร์
ผั๊วะ!!
"โอ้ย!!! ไอ้เชี้ยยยยยคาเรน!!!!" ฟิวเวอร์ที่กำลังดื่มเบียร์อยู่ ถึงกับสะดุ้งตกใจสำลักเบียร์ที่ดื่มออกมา ก่อนจะหันหน้าไปโวยวายเสียงดัง
"หมั่นไส้เหมือนกัน"
"เดี๋ยวมึงจะโดน!!" ฟิวเวอร์ได้แต่จ้องมองอย่างโทโหและชี้หน้าอย่างโกรธ ก่อนจะนั่งดื่มเบียร์สบายอารมณ์ตามเดิม
"เข้าเรื่องได้ยัง!!??" ผมหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ฟิวเวอร์ที่นั่งดื่มกระป๋องเบียร์อยู่ข้างๆ ผมจึงพูดขึ้น
"เออๆๆ" ฟิวเวอร์ที่นั่งดื่มกระป๋องเบียร์อยู่ก่อนหันมามองหน้าผม ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจและดื่มกระป๋องเบียร์จนหมด
"อีกไม่กี่เดือน แมรี่ ก็กลับไทยแล้ว" ฟิวเวอร์ขึ้นก่อนจะหยิบกระป๋องเบียร์อีกกระป๋องขึ้นมาเปิดและยกขึ้นดื่มอย่างเซ็ง ตั้งแต่ที่แม่ของเขาส่งรูปผู้หญิงคนนี้ให้ และบอกกับเขาว่าเป็นคู่หมั้น
และเมื่อวานคุณหญิงแม่ก็ส่งข้อความมาบอกกับเขาว่า อีกไม่นานคู่หมั้นของเขาจะเดินทางกลับไทย
"ก็ดีแล้วไง มึงจะได้เลิกซื้อกินสักที" ผมหันไปมองฟิวเวอร์ที่นั่งดื่มเบียร์อย่างเซ็ง ที่รู้ว่าคู่หมั้นกำลังจะกลับไทย ผมจึงแสดงความยินดีกับมัน เพราะคิดว่า เพื่อนกำลังจะมีเมียตามพวกผมสามคนมา
และก็อยากให้มันเลิกซื้อกินได้แล้ว เสียเงินเพื่อความสุขชั่วคราว มันไม่คุ้มเสียและเสี่ยงเป็นโรคอีก
ผั๊วะ!!
"ไอ้สัส!! ซื้อกินเชี้ยอะไรมึง!!??"
"ถามจริงๆ น้องเขาเต็มใจไหม??"
"หึหึ ระดับกูซะอย่าง หล่อ รวย ค_ยเท่าแขน".ผมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะสาธยายสรรพคุณของตัวเอง จนฟิวเวอร์ถึงกับเบะปากเลยทีเดียว
"โง่ ปัญญาอ่อน โรคจิต มึน"
"ไอ้สัส!! อย่าเอาความจริงมาพูด กูขอร้อง!!??"
"นี่กูเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกูนะ เลยพูด"
"ไอ้สันตีน!!" ผมด่าไอ้ฟิวเวอร์ที่มันไม่สะทบสะทานเลยและยังจะกวนสันตีนผมอีก
"ฮ่าๆ ตกลงน้องเขาเต็มใจหรือมึงบังคับ!!??" ฟิวเวอร์ที่เห็นว่าเพื่อนของตนนั้น หันมาด่าตนก็หัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ก่อนจะถามเรื่องของน้องส้มหวานใหม่อีกรอบ
"หึหึ ระดับกูซะอย่าง.."
"เต็มใจ!!??"
"เปล่า!! กูข่มขืน" ผมตอบอย่างภาคภูมิใจ และอีกอย่างถ้าโกหกไอ้ฟิวเวอร์มัน เดี๋ยวมันก็ไม่เชื่อผมอีกและถามซ้ำถามซาก เลยบอกตามความจริงไปเลย
"ห๊ะ!!!" ฟิวเวอร์อุทานขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าของคาเรนอย่างไม่เชื่อหู และไหนจะสายตาจริงจังและภาคภูมิใจ มันทำให้ผมเชื่อว่ามันพูดจริง
"ตกใจอะไรว่ะ!!??" ผมถามไอ้ฟิวเวอร์ขึ้น และมองท่าทางตกอกตกใจ ของมันที่แสดงออกมาซะเวอร์เลย
"กูไม่คิดว่ามึงจะพูดมาตรงๆแบบนี้!!??"
"เอ้า!! กูพูดตรงๆมึงไม่ชอบ หรือจะให้กูพูดโกหกมึงถึงจะสบายใจ" ผมมองหน้าไอ้ฟิวเวอร์อย่างไม่เข้าใจ ทีเวลาผมโกหกกลับเชื่อเป็นตุเป็นตะ ที่พูดความจริงกลับไม่เชื่อซะงั้น
"มึงก็ไม่ควรใช้คำว่า 'ข่มขืน' นะเว้ย!!??"
"ก็มันคือเรื่องจริง" ผมตอบตามความจริงและอีกคนอย่างส้มหวานจะยอมให้ผมเอาหรอ ไม่มีทาง
"กูไม่คุยกับมึงล่ะ ไอ้ห่า!!"
พอไอ้ฟิวเวอร์พูดเสร็จ พวกผมก็ไม่พูดคุยกันอีกและนั่งดื่มกระป๋องเบียร์ ก่อนที่ผมจะขอตัวกลับคอนโดตัวเอง ผมเดินออกมาจากห้องของไอ้ฟิวเวอร์มันตรงมาที่ลิฟท์และกดเรียก
ไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออกผมจึงเดินเข้าไปในลิฟท์และกดลงด้านล่าง ลิฟท์เคลื่อนตัวลงมาด้านล่างก่อนประตูลิฟท์จะเปิดออก ผมจึงเดินออกมาจาลิฟท์เดินตรงไปที่รถของตัวเอง ก่อนจะขับรถออกจากคอนโดของฟิวเวอร์ไปทันที
--------------------------------------------------
...อีพี่เป็นคนตรงๆ ทำอะไรมักยอมรับอย่างแมนๆ ข่มขืนก็บอกว่าข่มขืน....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: POTTY3 ลิขิตรัก [END]