ในห้องรับแขก บ้านเก่าตระกูลฉิง
“คุณย่า ตอนนี้สายมากแล้ว หนูต้องไปโรงพยาบาลส่งอาหารให้พ่อแม่แล้วค่ะ”
เมิ่งหว่านชูที่ถูกบังคับมาที่บ้านเก่าของคุณนายฉิงหาข้ออ้างหนีกลับ
คุณนายฉิงพูดด้วยความเมตตา “ฉันส่งคนไปรับพ่อแม่ของเธอไปที่โรงพยาบาลของตระกูลฉิงแล้ว มีคนคอยดูแลเป็นพิเศษ เธอวางใจได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น เมิ่งหว่านชูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอลุกขึ้นยืนแล้วถามว่า “คุณย่ารับพ่อแม่ออกไปโดยไม่ถามความเห็นแบบนี้ ต้องการจะบีบบังคับหนูหรือคะ”
“เธอคิดอะไรอยู่จ๊ะแม่สาวน้อย”
คุณนายฉิงไม่ได้โกรธแต่กลับยิ้ม “พูดไปแล้วเธอกับหลานของฉันถือว่ามีวาสนาต่อกัน เธอก็รู้ว่าเจ้ามั่วหันหลานชายตัวดีของฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีผู้หญิงข้างกายเลย ฉันเลยต้องวางยาเขา เดิมทีต้องการจับคู่คุณหนูตระกูลซูให้มั่วหัน ใครจะคาดคิดว่าจับพลัดจับผลูมาเป็นเธอเสียนี่ แต่เธอเองก็ไม่เลวเลย”
ได้ฟังสิ่งที่คุณนายฉิงพูด เมิ่งหว่านชูรู้ทันทีว่าทำไมฉิงมั่วหันตึงถูกวางยา
พูดไปพูดมา คงเพราะเธอกับอีตาคนเลวนั่นทำบาปกรรมร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน
“หนู...”
เมิ่งหว่านชูกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พ่อบ้านชายชราผมขาวก็เดินเข้ามา “คุณนายฉิง คุณชายมาแล้วครับ”
“ให้หลานชายตัวดีเข้ามาเดี๋ยวนี้”
“ครับคุณนายฉิง” พ่อบ้านหันกลับเดินออกไป
หลังจากนั้น ฉิงมั่วหันภายใต้ชุดสูทสีเทาเงินก็เดินเข้ามา
สายตาของเขาจับจ้องที่เมิ่งหว่านชู จากนั้นก็หันไปทางคุณนายฉิง “คุณย่า”
“ยังรู้จักกลับมาหรือ”
คุณนายฉิงเหน็บด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง จากนั้นเธอชี้ไปที่เมิ่งหว่านชู “พอดีเลยย่าจะแนะนำให้รู้จัก...”
เธอพูดไปได้เพียงครึ่งเดียว ก็ถูกฉิงมั่วหันตัดบท “คุณย่าครับ ไม่ต้องรีบร้อน ให้ผมแนะนำแฟนของผมให้ย่ารู้จักก่อนดีกว่าครับ”
“แฟน?”
คุณนายฉิงรู้สึกแปลกใจ ท่าทางงุนงงอย่างเห็นได้ชัด
เมิ่งหว่านชูยิ่งประหลาดใจ ใครจะรู้ว่าเธอนั้นรู้สึกน้อยใจขนาดไหน
แค่เพียงคุณนายฉิงจะรู้เกี่ยวกับหลานชายของตนเองสักหน่อย เธอก็ไม่ต้องถึงกับสูญเสียความบริสุทธิ์อย่างนี้!
“เข้ามาได้”
ฉิงมั่วหันหันไปพูดกับคนที่อยู่ด้านนอกประตู
ดวงตาหลายคู่จับจ้องไปที่ด้านนอก เพียงแค่เห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงอัดพลีทสีน้ำทะเล พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูง ก้มศีรษะเดินเข้ามา
รูปร่างแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกคุ้นตาขนาดนี้นะ
“เธอเป็นแฟนของผม หลีอวิ่นเอ๋อร์” ฉิงมั่วหันแนะนำให้คุณนายฉิงรู้จัก
เมื่อได้ยินชื่อ ‘หลีอวิ่นเอ๋อร์’ เมิ่งหว่านชูรู้สึกมึนและตาค้างไปครู่หนึ่ง
ขณะที่เธอจ้องมองหลีอวิ่นเอ๋อร์ หลีอวิ่นเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
สายตาสองสาวพี่น้องสบกัน มันยากที่จะเก็บซ่อนความประหลาดใจในดวงตาไว้ได้ ในใจของทั้งคู่ต่างมีความสงสัยเหมือนกัน
เป็นเธอได้อย่างไร
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“นี่ไม่ใช่คุณหนูตระกูลหลี หลีอวิ่นเอ๋อร์ หญิงสาวที่ทั้งสวยทั้งเก่งแห่งเมืองหลานเฉิงหรอกหรือ แกใช้วิธีอะไรหลอกล่อให้คุณหนูตระกูลหลียอมแกล้งเป็นแฟนแกล่ะ”
ขิงแก่เผ็ดกว่าเสมอ
คุณนายฉิงพูดได้ตรงประเด็นมาก
ฉิงมั่วหันหรี่ตามองไปที่เมิ่งหว่านชู ดวงตาของเขาแฝงความรู้สึกบางอย่าง
“หว่านชู บังเอิญจังเลยนะ ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่ เธอก็รู้จักพี่มั่วหันด้วยหรือ”
หลีอวิ่นเอ๋อร์นึกได้ว่า ฉิงมั่วหันบอกว่าย่าของเขาจัดแจงหาคู่ให้กับเขา
หรือว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือเมิ่งหว่านชู?
แต่เธอรู้จักกับตระกูลฉิงได้อย่างไร
หลีอวิ่นเอ๋อร์เริ่มรู้สึกร้อนใจแล้ว
เมิ่งหว่านชูเบื่อที่จะใส่ใจหลีอวิ่นเอ๋อร์ที่เล่นละครจนเป็นนิสัย จึงหันไปพูดกับคุณนายฉิงว่า “คุณย่าคะ คุณชายฉิงมีแฟนแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับหนูแล้ว หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เธอลองหยั่งเชิงท่าทีของคุณนายฉิงก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉิงมั่วหันที่แข็งแกร่งและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งครอบครัวหลีที่คอยคุกคามพ่อแม่บุญธรรมของเธออยู่ตลอดเวลา เธอจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นเธอหันหลังจากไป คุณนายฉิงลุกขึ้น แล้วดึงมือของเมิ่งหว่านชูเอาไว้ “แม่หนู อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เธอนั่งลงก่อน”
เธอดึง เมิ่งหว่านชูนั่งลงที่เก้าอี้ แล้วพูดกับฉิงมั่วหันด้วยน้ำเสียงดุ “แกเธอไอ้ตัวดี มานี่!”
“ครับคุณย่า”
ฉิงมั่วหันตอบรับ แล้วเดินไปกับคุณนายฉิงที่ห้องด้านใน แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตาที่มีนัยบางอย่างให้เมิ่งหว่านชู
เสียงเอี๊ยดดังขึ้น ประตูห้องก็ปิดลง
หลีอวิ่นเอ๋อร์ไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เธอก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยเสียงเบา “เมิ่งหว่านชู นังแพศยา...”
เพียะ เพียะ...
คำพูดของเธอยังไม่ทันจบ เมิ่งหว่านชูก็ยกมือขึ้นตบหน้าหลีอวิ่นเอ๋อร์ไปสองฉาด “เธอน่ะนอกจาก ‘แรด’ ไปวันๆ แล้วยังทำอะไรเป็นบ้าง อ้อ จริงสิ เธอขโมยความดีความชอบเก่งนี่ แล้วยังแสร้งทำเป็นใสซื่อ จริงไหมล่ะคะ พี่สาว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง