ฉู่จือหยวนอยู่ๆหัวใจก็เต้นตุบตุบ รู้สึกขนลุกใจหายวาบไปทั้งตัว ในวินาทีต่อมาเขาเห็นจี้หลิงชวนกระตุกมุมปากของเขาอย่างเย็นชา และหันหลังเดินจากไปทันที
เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนเดินจากไป รู้สึกตกใจมากและเกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นอีกเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้จี้หลิงชวนไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ และใบหน้าอันหล่อเหลาก็ยังคงเย็นชาอยู่เช่นเดิม แต่มู่ซีซีรู้สึกได้ว่าจี้หลิงชวนนั้นโกรธมากแล้วแน่ๆ อีกทั้งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอนด้วย
ทันทีที่จี้หลิงชวนจากไป บรรยากาศระหว่างมู่ซีซีและฉู่จือหยวนก็รู้สึกยิ่งอึดอัดมากยิ่งขึ้น
“รุ่นพี่ฉู่คะ ฉันขอโทษจริงๆนะคะ ฉันมีธุระด่วน ขอตัวกลับก่อนแล้วนะคะ” มู่ซีซีก้มหน้าและหลีกเลี่ยงการจ้องตากับฉู่จือหยวน หลังจากพูดเสร็จ ยังไม่ทันรอให้ฉู่จือหยวนตอบกลับเธอก็รีบเดินจากไปทันที
ฉู่จือหยวนมองมู่ซีซีเดินจากไปแล้วเขาก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ามู่ซีซีต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับชายคนนั้นและคงไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อมู่ซีซีก็ชอบเขาเช่นกัน แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอก
มู่ซีซีรู้สึกกระวนกระวายจนเดินมาหน้าประตูโรงเรียน และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรถยนต์มายบัคจอดนิ่งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นรถยนต์สวนตัวของจี้หลิงชวน
หัวใจของมู่ซีซีเต้นไม่เป็นจังหวะ เต้นเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆ มู่ซีซีสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างลับๆ มือของเธอจับที่ปลายเสื้อของตัวเองไว้แน่น จากนั้นเธอก็เริ่มเดินตรงไปทางที่รถยนต์มายบัคคันนั้นจอดรออยู่
ทันทีที่เธอเดินไปที่ฝั่งรถยนต์มายบัคจอดอยู่ ที่นั่งฝังคนขับนั้นกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงไปครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและไร้อารมณ์ของจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนไม่ได้เหลือบมองดูมู่ซีซีเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่พูดอย่างเย็นชากับมู่ซีซีว่า: "ขึ้นรถ!"
เมื่อมู่ซีซีได้ยินเสียงของจี้หลิงชวน เธอก็หรี่ตาและรีบเดินไปขึ้นรถอีกด้านหนึ่งของฝั่งคนขับ
ทันทีที่มู่ซีซีนั่งลง จี้หลิงชวนก็สตาร์ทรถและขับออกไปทันที
จี้หลิงชวนทำสีหน้าเคร่งขรึมตลอดทาง เขาไม่ได้พูดอะไรกับมู่ซีซีแม้แต่คำเดียว และบรรยากาศภายในรถมันมาคุอย่างมาก
เมื่อจี้หลิงชวนไม่พูดไม่จา มู่ซีซีก็ยิ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร.……
เธอต้องการอธิบายแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายจากตรงไหนก่อนดี จี้หลินชวนยังคงนิ่งเงียบ และมู่ซีซีที่นั่งอยู่ข้างฝั่งคนขับก็ได้แต่ทำหน้าหงอยและนั่งตัวแข็งทื่อ พยายามทำให้ตัวเองนั้นเป็นจุดสนใจน้อยที่สุด
โดยไม่ได้พูดอะไรตลอดทาง สักพักรถยนต์มายบัคขับมาด้วยความเร็วสูงก็จอดอยู่ตรงหน้าลานจอดรถในคฤหาสน์
ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาของมู่ซีซีหรือเปล่า ดูเหมือนว่าหลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์แล้ว ในตัวของจี้หลิงชวนมันเหมือนมีรังสีของความอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวเขา
จี้หลิงชวนดวงตาแข็งกร้าว มือของเขาที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นบีบมันแน่นขึ้น เขากำลังรอให้มู่ซีซีเป็นฝ่ายเริ่มอธิบายให้เขาฟังอยู่ตลอดทาง
แต่มู่ซีซีกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย! เกือบชั่วโมงแล้วตลอดระยะการเดินทาง เธอไม่ปริปากพูดและไม่มีคำอธิบายใดๆเลยแม้แต่คำเดียว จี้หลินชวนโมโหจนแทบจะพ่นไฟระเบิดออกมาแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ ระยะนี้เขาตามใจเธอมากจนเคยตัวหรือเปล่านะ? จึงทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าคนอย่างเขา นายจี้หลิงชวนเป็นคนง่ายๆอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?
ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้น เธอทำได้เพียงแค่กัดริมฝีปากและพยักหน้าให้จี้หลิงชวน: "ฉันเป็นคนเขียนไดอารี่เอง ฉันชอบฉู่……”
ก่อนที่มู่ซีซีจะพูดจบ เขารู้สึกว่าฝ่ามือใหญ่ที่จี้หลิงชวนนั้นบีบคางของเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย และมู่ซีซีก็สูดหายใจเข้าด้วยความเจ็บปวดและไม่สามารถเปล่งเสียงพูดอะไรได้อีก
จี้หลิงชวนจ้องมองเธอด้วยแววตาที่โกรธจัด และใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นชาและดูไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
ให้ตายเถอะ มูซีซี! เธอกล้าที่จะไปแอบรักผู้ชายคนอื่นจริงๆเหรอเนี่ย!
จี้หลิงชวนก็ไม่รู้ตัวเองนั้นเป็นอะไร ทำไมจึงได้กลายเป็นสภาพแบบนี้ เดิมทีนั้นการที่เขาอยู่ด้วยกันกับมู่ซีซีเป็นเพราะว่าหลงใหลในเรือนร่างของมู่ซีซีเท่านั้น และไม่เคยคิดจะสนใจด้วยซ้ำว่าในใจเธอนั้นกำลังคิดอะไรอยู่หรือมีใครอยู่หรือเปล่า
แต่ตอนนี้เมื่อจี้หลิงชวนรู้ว่าในใจของมู่ซีซีแอบรักผู้ชายคนอื่น ปฏิกิริยาแรกของจี้หลิงชวนคือรู้สึกหงุดหงิดราวกับว่ามันพร้อมจะระเบิดปะทุออกมาตลอดเวลา!
ให้ตายเถอะ นี่เธอเป็นผู้หญิงของเขาอยู่แล้ว ยังกล้าที่จะไปรักผู้ชายคนอื่นอีก! ! !
ตอนนี้จี้หลิงชวนโมโหจนแทบรอไม่ไหวที่จะขังมู่ซีซีไว้ในห้อง และทำให้มู่ซีซีไม่สามารถไปพบเจอใครได้อีกเลย ดูสิ ผู้หญิงอย่างมู่ซีซียังกล้าที่จะไปแอบรักชายอื่นอีกไหม
เดิมทีนั้นมู่ซีซียังทนต่อความเจ็บปวดที่โดนบีบคางได้ แต่จี้หลิงชวนบีบมันแน่นขึ้นเรื่อยๆ และเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อย มู่ซีซีเจ็บจนน้ำตาไหลซึมออกมา เพราะเธอไม่สามารถกลั้นความเจ็บปวดนั้นได้อีกต่อไป เธอจึงเงยหน้ามองจี้หลิงชวนพร้อมพูดว่า:“คุณชายจี้คะ……ฉันเจ็บค่ะ……”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของมู่ซีซี จึงทำให้สติของจี้หลิงชวนกลับคืนมา เขามองมู่ซีซีผู้ซึ่งถูกเขากดลงบนที่นั่งและน้ำตาไหลอาบแก้ม จี้หลิงชวนตะลึงงัน แววตาของเขานั้นไม่อาจคาดเดาได้ แต่ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่าปฏิกิริยาของสมอง เขารีบปล่อยฝ่ามือใหญ่ที่บีบคางเล็ก ๆ ของมู่ซีซีทันที
เมื่อคางถูกคลายจากการบีบและความเจ็บปวดก็ได้จางหายไป ในที่สุดมู่ซีซีก็หยุดน้ำตาไหลและมองไปที่จี้หลิงชวนด้วยความกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...