รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ นิยาย บท 158

ทันใดนั้น หยวนลี่จึงยื่นมือไปกอดเอวเล็กๆของมู่อวี๋เฟย ไม่สนว่าตอนนี้อยู่บนถนนที่มีคนเดินผ่านไปมา จากนั้นฝ่ามือก็เลื่อนลงไปจับสะโพกของมู่อวี๋เฟย

ยังไงมู่อวี๋เฟยก็เกิดมาในตระกูลผู้ดี แม่มู่เลี้ยงดูสั่งสอนให้เป็นผู้ดีมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

รู้สึกถึงการกระทำที่ลามกของหยวนลี่ รอยยิ้มบนใบหน้าจึงเกร็ง ในใจเธอก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นเหมือนผู้หญิงขายตัว แล้วยอมให้หยวนลี่ทำกับเธอกลางถนนแบบนี้

แต่พอนึกถึงผลของการที่ตัวเองทำให้หยวนลี่โมโห มู่อวี๋เฟยจึงกัดฟันอดทนกับการเหยียดหยามนี้

จากนั้นก็ซบเข้าไปในอ้อมกอดของหยวนลี่อย่างหน้าไม่อาย หยอกล้อกับหยวนลี่กลางถนน แล้วจูบกัน

รอหยวนลี่เล่นจนพอใจแล้ว ค่อยยิ้มแล้วกอดเอวมู่อวี๋เฟยเข้าไปนั่งในรถออฟโรด

ตอนที่มู่อวี๋เฟยขึ้นรถแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดประตูรถ มู่อวี๋เฟยจึงหันไปทางมู่ซีซี แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยกับมู่ซีซี จากนั้นค่อยปิดประตูรถ

มู่ซีซีที่อยู่ตรงข้ามเห็นทุกอย่างแล้วมองรถออฟโรดคันนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ

เธอคิดไม่ถึงเลยว่ามู่อวี๋เฟยที่หยิ่งยโสในตอนนั้น ตอนนี้กลับอยู่กับผู้ชายที่แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี แถมยังหยอกล้อแบบนั้นกลางถนนอีก

มู่ซีซีคิดไม่ถึงจริงๆ มู่อวี๋เฟยตกอับถึงขนาดนี้แล้ว!

ความจริงตอนนี้มู่อวี๋เฟยหาทางรอดทางอื่นได้ ยอมรับกับบทลงโทษของจี้หลิงชวน ทั้งสามคนครอบครัวไปจากเมืองหรงแล้วเริ่มต้นใหม่ เพราะแค่ไปจากเมืองหรง มือของจี้หลิงชวนคงไม่สามารถทำอะไรขนาดนั้นได้

หรือว่าหางานในบริษัทเล็กๆ ทำ หาคนที่รักตัวเองแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่

แต่มู่อวี๋เฟยกลับไม่ได้เลือกสองทางนี้ เธอไม่อยากเป็นแค่คนธรรมดา ไม่อยากใช้ชีวิตที่ไม่มีเงิน แล้วตอนนี้ในใจเธอมีแต่ความเกลียดแค้น ต้องแก้แค้นให้ได้ เพราะฉะนั้นจึงเลือกทางที่ลำบากที่สุด

มู่ซีซีเห็นรถออฟโรดแล่นออกไปแล้ว ค่อยเก็บสายตากลับมา คิ้วที่ขมวดอยู่จึงคลายออก ตอนที่มู่อวี๋เฟยเอาแต่ทำร้ายเธอ ความเป็นพี่น้องของพวกเธอก็หายไปนานแล้ว

ตอนนี้มู่อวี๋เฟยจะเลือกยังไงก็เป็นสิทธิ์ของเธอเอง เธอไม่มีสิทธิ์ไปยุ่ง

แต่ว่า……

ในหัวมู่ซีซีมีภาพรอยยิ้มที่มีเลศนัยไม่หวังดีของมู่อวี๋เฟยตอนที่เธอจะไปโผล่มา ในใจก็เริ่มไม่สบายใจ รู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนั้น

อาจจะเป็นตัวเองที่คิดมากเกินไป……พอคิดแบบนี้มู่ซีซีจึงขจัดความคิดบ้าๆ พวกนั้นออกไป ไม่ว่ามู่อวี๋เฟยจะทำอะไร ถึงเวลาก็ตั้งรับให้ดีก็พอ ตอนนี้คิดมากก็ไม่มีประโยชน์ แล้วเธอก็จะสายแล้วด้วย!

จากนั้นมู่ซีซีจึงเร่งฝีเท้าเดินไปทางมหาวิทยาลัย

ทางบริษัทจี้ซือ ห้องทำงานผู้บริหารที่เงียบสงบ ฟางเซิ่งหยิบเอกสารแล้วยื่นไปให้จี้หลิงชวนอย่างมีมารยาท

ฟางเซิ่งเพิ่งพูดจบ ก็โดนเสียงของจี้หลิงชวนแทรกทันที "การประชุมหลังจากนี้นายก็ประชุมแทนฉัน ให้คนทำรายงานการประชุมแล้วส่งมาที่อีเมลฉัน หรือว่าถ้าว่างก็ประชุมวิดีโอคอลก็ได้"

จี้หลิงชวนยังยืนยันคำเดิม ฟางเซิ่งที่เป็นลูกน้องจึงต้องพยักหน้า กำลังจะถอยออกไปจัดการ จึงได้ยินจี้หลิงชวนสั่งการอีกว่า "อีกอย่าง ไปเช็กด้วยว่าอีกกี่วันมู่ซีซีถึงจะปิดเทอม"

เมื่อคืนเห็นมู่ซีซีกับลั่วเสี่ยวชิงคุยกันว่าอีกไม่กี่วันก็จะปิดเทอมแล้ว คงเร็วๆ นี้แหละ

พอฟางเซิ่งได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ เพราะทำงานกับจี้หลิงชวนมานานหลายปี จึงเดาใจของบอสตัวเองออก

ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย อยู่ๆ บอสตัวเองก็บอกว่าให้หาเวลาว่างหนึ่งอาทิตย์ต้องเกี่ยวกับมู่ซีซีแน่นอน

"ครับบอส ผมจะไปเช็กเดี๋ยวนี้ครับ" ฟางเซิ่งตอบรับอย่างอมทุกข์ ในใจก็แอบคิดว่า เขาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารนี่ลำบากจริงๆ แค่โสดก็ทุกข์ทรมานมากพอแล้ว ตอนนี้ยังต้องเห็นบอสกับมู่ซีซีหวานกันอีก คนโสดช่างน่าสงสารเหลือเกิน!

ไม่นานฟางเซิ่งที่ประสิทธิภาพการทำงานเร็วจึงมาเคาะประตูห้องทำงานจี้หลิงชวน แล้วรายงานกับเขาว่า "บอสครับ เมื่อกี้สอบถามรุ่นพี่ของคุณหนูมู่แล้วครับ ยังอีกสองวันมหาวิทยาลัยของคุณหนูมู่ก็จะเริ่มปิดเทอมแล้วครับ"

จี้หลิงชวนได้ยินแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็พูดกับฟางเซิ่งว่า "ช่วยฉันจองตั๋วเครื่องบินสองใบไปปารีสฝรั่งเศสในวันมะรืนด้วย"

ฟางเซิ่งที่รู้สึกอมทุกข์ตอบรับอย่างมีมารยาท

จี้หลิงชวนที่อารมณ์ดีเพราะแน่ใจเรื่องต่างๆแล้ว เห็นฟางเซิ่งทำสีหน้าอมทุกข์ จึงพูดอย่างมีเมตตาว่า "ไม่ต้องทำหน้าอมทุกข์ เดี๋ยวหนึ่งอาทิตย์ฉันกลับมา นายก็จะได้พักผ่อนสามวันโดยที่ยังจ่ายเงินเดือนปกติ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ