รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ นิยาย บท 223

วินาทีที่มีดเงาวับเล่มนั้นกำลังใกล้เข้ามา มู่ซีซีจึงหลับตาลงทันที

ทันใดนั้น ความเจ็บปวดที่คิดไว้กลับไม่เกิดขึ้นบนตัวมู่ซีซี

มู่ซีซีกลับรู้สึกหนักตัวแทน เหมือนมีร่างใหญ่เอนมาทับอย่างนั้น

ตัวมู่ซีซีจึงแข็งทื่อทันที ไม่รอให้มู่ซีซีตั้งสติได้ข้างหูเธอก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น แล้วก็มีกลิ่นตัวอ่อนๆที่คุ้นชินลอยมาด้วย

มู่ซีซีตกใจจึงรีบลืมตาขึ้นมาทันที วินาทีต่อมา มู่ซีซีจึงสบตากับแววตาที่ลึกลับของจี้หลิงชวน

พอสบตากัน มู่ซีซีจึงอึ้งนิ่งอยู่กับที่

สายตาจี้หลิงชวนเอาแต่จ้องมู่ซีซีไว้ สีหน้าที่เย็นชากลับแฝงไปด้วยความกังวลแล้วเอ่ยถามเธอว่า "เป็นอะไรไหม? บาดเจ็บที่ไหนหรือเปล่า?"

เสียงทุ้มต่ำของจี้หลิงชวนทำให้มู่ซีซีดึงสติกลับมา มู่ซีซีที่ตั้งสติได้แล้วรีบงอมือจับแขนจี้หลิงชวนไว้ มองจี้หลิงชวนแล้วส่ายหน้าเอ่ยว่า "ฉันไม่เป็นไร นายเป็นอะไรหรือเปล่า? นายบาดเจ็บหรือเปล่า?"

ขณะพูด มู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนที่ขมวดคิ้วแน่น เธอจึงพยายามยื่นมือไปที่หลังจี้หลิงชวน

ทันใดนั้น มู่ซีซีรู้สึกว่ามือของตัวเองแตะโดนของเหลว พอสายตามองไปที่มือตัวเอง ตัวมู่ซีซีจึงแข็งทื่อ เห็นแต่เลือดสีแดงที่แสบตาบนมือตัวเอง

สมองมู่ซีซีว่างเปล่าทันที แล้วมีแค่ความคิดเดียว : นั่นก็คือจี้หลิงชวนบาดเจ็บ!!!

"จี้หลิงชวน นายเป็นอะไรหรือเปล่า……" ตอนที่มู่ซีซีพูดประโยคนี้ ริมฝีปากก็สั่นอย่างไม่รู้ตัว

ดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้นมีม่านน้ำตาทันที

จี้หลิงชวนมองมู่ซีซีที่ทำหน้าเป็นกังวลมาก จึงอดเลิกมุมปากขึ้นไม่ได้ แล้วสายตาก็มองไปที่มู่ซีซี "ยัยบื้อ เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นอะไร"

เมื่อกี้วินาทีที่มู่อวี๋เฟยถือมีดแทงมาที่มู่ซีซี จี้หลิงชวนรีบมาบังไว้ เขาใช้ร่างกายตัวเองบังมู่ซีซีไว้อย่างไม่ต้องคิดเลย

มีดที่แหลมคมแทงเข้าไปที่หลังจี้หลิงชวน มู่อวี๋เฟยที่อึ้งตกใจแล้วในมือถือมีดที่มีแต่เลือดโดนบอดี้การ์ดที่ตามมาข้างหลังกดไว้ที่พื้นแล้ว

จี้หลิงชวนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล แล้วเข้าห้องฉุกเฉินทันที

มู่ซีซีรู้สึกใจหายมาก หัวใจก็เต้นเร็วเต้นแรงมาก เหมือนหัวใจจะเต้นทะลุออกมาอย่างนั้น

มู่ซีซีเป็นห่วงจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ แล้วเอาแต่เดินไปเดินมาที่ทางเดิน

เสียงดังปึงเบาๆ ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก มู่ซีซีเห็นแค่คุณหมอที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวสวมหน้ากากอนามัยเดินออกมา

มู่ซีซีรีบเดินไปหาคุณหมอ แล้วรีบถามคุณหมอว่า "คุณหมอ เป็นยังไงบ้างคะ? คนไข้เป็นอะไรไหมคะ?"

คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยออก แล้วพูดกับมู่ซีซีว่า "คุณเป็นญาติคนไข้ใช่ไหมครับ ไม่ต้องใจร้อนครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว บาดแผลไม่โดนอวัยวะสำคัญ บาดเจ็บแค่บริเวณม้าม ตอนนี้ห้ามเลือดที่ม้ามได้แล้วครับ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอันตรายอะไร แต่ว่ายังต้องรอดูอาการอีกสามวัน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ครับ"

แม้แต่บรรยากาศในห้องก็รู้สึกคลุมเครือไปด้วย

"ก๊อกก๊อกก๊อก" ขณะที่มู่ซีซีกำลังลังเลว่าจะพูดอะไรดี ห้องที่เงียบสงบกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

มู่ซีซีรีบหันสายตาไปทางประตูทันที

จากนั้นข้างหูจึงมีเสียงทุ้มต่ำที่น่าฟังของจี้หลิงชวนดังขึ้น "เข้ามา"

ประตูห้องที่ปิดสนิทเปิดออกหลังจากที่มีเสียงตอบรับ เห็นแค่ฟางเซิ่งก้าวเดินเข้ามา

ฟางเซิ่งเดินมาหยุดลงตรงหน้ามู่ซีซีกับจี้หลิงชวน "คุณชายจี้ บาดแผลของคุณเป็นอะไรไหมครับ?"

จี้หลิงชวนส่ายหน้าแล้วพูดว่า "ไม่เป็นอะไรแล้ว"

ขณะพูดสายตาจี้หลิงชวนจึงหันไปที่ฟางเซิ่ง แล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "จับมู่อวี๋เฟยกับคนพวกนั้นได้หรือยัง?"

ฟางเซิ่งรีบรายงานทันที "ครับคุณชายจี้ คนของเราจับโจรลักพาตัวที่ช่วยมู่อวี๋เฟยได้แล้วครับ แต่ว่า……มู่อวี๋เฟย……"

เห็นฟางเซิ่งหยุดพูด ผ่านไปหลายวินาทีค่อยพูดต่อว่า "แต่ว่าตอนที่พามู่อวี๋เฟยออกมาจากตึกร้างนั้น ตอนที่คนของเราเผลอ เธอดิ้นหลุดจากกุญแจมือ แล้วกระโดดลงแม่น้ำ……"

ได้ยินฟางเซิ่งพูดแบบนี้ สีหน้ามู่ซีซีมีความประหลาดใจทันที เธอค่อยนึกขึ้นได้ว่า ตอนนั้นตึกร้างที่มู่อวี๋เฟยพาเธอไปติดกับแม่น้ำ ถ้ามู่อวี๋เฟยอยากกระโดดลงแม่น้ำก็เป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนกัน……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ