รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 614

เธอรู้ว่าทำไมประธานใหญ่ถึงเกลียดดารามายขนาดนั้น

เธอเคยได้ยินมาจากประธานลาเต้ ว่าเมื่อหกปีก่อน เทนเดอร์กรุ๊ปที่กำลังจะล้มละลายนั้น ดารามายสองแม่ลูกนั้น ไม่เพียงแต่ไม่ก้าวไปกับเทนเดอร์กรุ๊ปด้วยกัน กลับหอบเงินของอดีตประธานใหญ่ที่ได้มาจากการซื้อหุ้นนั้นไป หนีจากไปโดยไม่สนอะไร สุดท้ายอดีตประธานใหญ่รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจและได้กระโดดตึกฆ่าตัวตาย

สามารถพูดได้ว่า อดีตประธานใหญ่ถูกดารามายสองแม่ลูกนั้นฆ่าโดยทางอ้อม ในตอนนี้พอดารามายเห็นว่าเทนเดอร์กรุ๊ปได้กลับมามีการพัฒนาอีกครั้งหนึ่ง ก็ได้กลับมาแย่งหุ้นส่วนกับประธานใหญ่ คนแบบนี้ ประธานใหญ่จะไม่เกลียดได้อย่างไรกันล่ะ

ขณะที่คิดอยู่ ลิฟต์ก็ได้ลงมาถึงแล้ว

มายมิ้นท์ได้ก้าวเดินออกไปก่อน

หลังจากที่ออกไปแล้ว เธอก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่พิงด้านข้างของไมบัคคันนั้น ในไม่ไกลนัก

ผู้ชายคนนั้นได้ก้มศีรษะลง ในมือได้ถือโทรศัพท์อยู่ และปลายนิ้วมือนั้นกำลังกดอะไรอยู่บนหน้าจอนั้น

ในไม่ช้า มายมิ้นท์ก็รู้สึกได้ถึงเสียงสั่นของโทรศัพท์ตัวเอง

เธอรู้ ว่าต้องเป็นเขาแน่ๆ ที่ส่งข้อความมาหาเธอ

ที่ด้านข้างนั้น เลขาซินดี้ก็ได้มองเห็นเปปเปอร์แล้ว พูดกับมายมิ้นท์ด้วยความประหลาดใจว่า:“ประธานใหญ่คะ ประธานเปปเปอร์มาได้ยังไงคะ?”

มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบอะไร ได้ยิ้มมุมปากและเดินตรงไปทางเปปเปอร์ทางนั้น

เมื่อเลขาซินดี้เห็นเช่นนี้ก็รีบเดินตามไป

ทางนั้น พอเปปเปอร์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินมา ได้เงยหน้าแล้วมองไปทางนั้น เมื่อเห็นว่าเป็นมายมิ้นท์ ใบหน้าก็อ่อนโยนทันที“มาแล้วหรือครับ”

“มาแล้วค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย

เลขาซินดี้กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ที่แท้สองคนนี้ได้นัดกันไว้แล้วหรอกหรือ!

และอีกอย่าง ทำไมเธอรู้สึกว่า บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูแปลกๆไปหน่อย

“ดารามายล่ะ?”เปปเปอร์มองดูรอบๆ แล้วถาม

มายมิ้นท์ได้ชี้ไปทางรถตู้ที่อยู่ไม่ไกลนั้น“อยู่ในรถคันนั้นน่ะ”

เปปเปอร์ได้เหลือบมอง และพยักหน้าเล็กน้อย“ขึ้นรถเถอะ นั่งรถผมเลย”

“โอเคค่ะ”มายมิ้นท์ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร พยักหน้าตอบตกลง

เปปปเปอร์ยื่นมือออกมา และได้เปิดประตูรถ

มายมิ้นท์ก้มตัวนั่งลงไป

เปปเปอร์มองไปทางด้านหลัง และโยนกุญแจให้เลขาซินดี้ไป

เลขาซินดี้รีบรับมาอย่างเร็วไว มองดูกุญแจไมบัคที่อยู่ในมือนั้น รู้สึกสับสนเล็กน้อย“ประธานเปปเปอร์คะ นี่คุณ……”

“คุณมาขับรถ”เปปเปอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก จากนั้นก็ได้ขึ้นรถไป นั่งลงด้านข้างของมายมิ้นท์

เลขาซินดี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง ว่าจะฟังคำสั่งนั้นหรือไม่ฟังดี

เพราะไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็เป็นคนของประธานใหญ่ แต่สถานะตำแหน่งของประธานเปปเปอร์นั้นสูงกว่าประธานใหญ่ เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธได้

ดังนั้น เธอไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร

ภายในรถนั้น มายมิ้นท์รู้ซึ้งถึงความลำบากใจของเลขาซินดี้ ได้เลื่อนกระจกรถลงมา และยื่นศีรษะออกมาต่อหน้าเปปเปอร์“ทำตามเขาเลย เขาไปพร้อมกับพวกเราน่ะ”

“ได้ค่ะประธานใหญ่”เมื่อมีคำพูดนี้ของมายมิ้นท์แล้ว ในที่สุดเลขาซินดี้ก็ไม่ต้องรู้สึกสับสนอีก และรีบพยักหน้าตอบตกลง จากนั้นก็อ้อมไปทางด้านหน้าของรถ แล้วนั่งลงตรงที่นั่งคนขับ

ได้สตาร์ทรถด้วยความราบรื่น

ในระหว่างทาง จู่ๆ เปปเปอร์ก็ได้เปิดกล่องเก็บของในรถนั้น และได้หยิบเครื่องดื่มออกมาจากในนั้นหนึ่งขวด หลังจากที่ได้เปิดฝาขวดแล้วก็ยื่นให้กับมายมิ้นท์ไป“ดื่มนี่สิ”

“นี่คืออะไรหรือคะ?”มายมิ้นท์รับมาด้วยใบหน้าที่สงสัย

เปปเปอร์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับตอบกลับว่า:“เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างหนึ่ง มันมีประโยชน์มากในการต่อต้านกับความเหนื่อยล้า ก่อนที่จะมา ผมให้เหมันตร์ไปซื้อโดยเฉพาะเลย”

“ใช่หรือคะ ฉันลองกินดูค่ะ”มายมิ้นท์มองดูเครื่องดื่มในมือของเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นและเริ่มดื่ม

หลังจากที่ดื่มแล้วไม่กี่คำ เธอก็ได้วางขวดลง และปิดฝาขวด

เปปเปอร์ได้หยิบผ้าเช็ดหน้าสูท จากกระเป๋าหน้าอกด้านขวาของตัวเอง ได้เช็ดมุมปากของเธอ แล้วถามเบาๆ“รสชาติเป็นยังไงบ้าง?”

มายมิ้นท์ได้วางเครื่องดื่มไว้ด้านข้าง“ก็ใช้ได้อยู่ค่ะ เปรี้ยวๆหวานๆหน่อย สดชื่นดีค่ะ”

“ถ้างั้นก็ดีครับ”เปปเปอร์พับผ้าเช็ดหน้าสูท และใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทของตัวเอง

ตรงหน้านั้น เลขาซินดี้ซึ่งกำลังขับรถอยู่ ได้เห็นฉากนี้ผ่านกระจกมองหลังหมด และภายในใจรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

เมื่อสักครู่ประธานเปปเปอร์ทำอะไรหรือ?ได้เช็ดมุมปากให้กับประธานใหญ่หรือ!

“ดอกไม้ที่ฉันให้คุณซื้อ คุณไปวางไว้ที่ไหนแล้วหรือ?”มายมิ้นท์มองดูเธอแล้วถาม

เลขาซินดี้ชี้ไปทางรถตู้ที่อยู่ด้านหน้าคันนั้น “อยู่ที่รถคันนั้นค่ะ ฉันจะไปเอามาเดี๋ยวนี้เลย ประธานใหญ่คะคุณรอสักครู่นะคะ”

“อื้อ ไปเลย”มายมิ้นท์พยักหน้า

เลขาซินดี้รีบเดินไปทางรถตู้ทางนั้น

มายมิ้นท์ยืนอยู่ข้างหน้าไมบัค มองไปที่ประตูสุสานด้านหน้านั้น ใบหน้าของเธอค่อยๆเศร้าขึ้นมา บรรยากาศรอบกาย ก็หดหู่ขึ้นมาทันที

เปปเปอร์รู้ว่าเพราะเธอมองเห็นสิ่งนั้นแล้วรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรคนใกล้ชิดที่สุดของตัวเองก็ได้หลับใหลยาวนานอยู่ที่นี่แล้ว แน่นอนว่าต้องรู้สึกไม่ดีเป็นเรื่องธรรมดา

ความรู้สึกเช่นนี้ เขาก็เคยได้สัมผัสมันอยู่

และอีกอย่างในอีกสองวันก็จะเป็น……

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก็ไม่ได้คิดต่อไปอีก ได้วางมือบนไหล่ของมายมิ้นท์ แตะเบาๆ พูดพร้อมกับเตือนว่า:“ดอกไม้มาแล้ว”

มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมาดู เห็นว่าเลขาซินดี้กลับมาพร้อมกับถือดอกไม้ไว้สองช่อ ช่อหนึ่งเป็นดอกลิลลี่ อีกช่อหนึ่งเป็นดอกลาเวนเดอร์

ดอกลิลลี่เป็นดอกที่คุณพ่อชอบ และดอกลาเวนเดอร์นั้น เป็นดอกที่คุณแม่ชอบ

มายมิ้นท์ได้ยื่นมือออกไป เตรียมจะรับดอกไม้มา แต่เปปเปอร์กลับแย่งไปก่อน“ผมถือเอง”

มายมิ้นท์ได้ตอบตกลง ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร และให้เลขาซินดี้เอาดอกไม้ให้เขา จากนั้นก็ได้พูดว่า:“ฉันไปดูคุณแม่ฉันก่อน ส่วนดารามายนั้น คุณให้บอดี้การ์ดส่งดารามายไปที่คุณพ่อฉันก่อน จำไว้นะ ให้เธอคุกเข่าต่อหน้าป้ายสุสานของคุณพ่อ”

“ค่ะประธานใหญ่!”เลขาซินดี้ยืดตัวตรงแล้วตอบตกลง

มายมิ้นท์มองไปทางเปปเปอร์“ไปเถอะค่ะ”

“อื้อ”เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย และได้เดินตามเธอไป เดินเข้าไปทางประตูสุสานนั้น

คุณแม่ของมายมิ้นท์ได้เสียชีวิตไปเป็นเวลายี่สิบเอ็ดปีแล้ว ป้ายสุสานก็ดูเก่าอย่างมาก ภาพถ่ายบนป้ายสุสานนั้น เพราะว่าโดนทั้งลมทั้งฝน จนกลายเป็นกระดำกระด่างสีไม่เสมอกัน และดูไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่นัก

เมื่อเห็นเช่นนี้ มายมิ้นท์รู้สึกปวดใจเล็กน้อย และน้ำตาคลอตรงเบ้าตา

เธอได้เปิดกระเป๋า เตรียมหาสิ่งของมาเช็ดที่ป้ายสุสานเล็กน้อย

แต่ทว่าหาไปหามา ก็หาสิ่งของที่เหมาะสมไม่เจอเลย

ในขณะที่เธอได้ขมวดคิ้ว เตรียมจะใช้แขนเสื้อนั้น ก็มีมือใหญ่ยื่นมา และในมือนั้นมีผ้าเช็ดอยู่ผืนหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว