ฟู่ๆ
ทันใดนั้นหม้อบนเตาก็ส่งเสียงออกมา เพราะน้ำในหม้อกำลังเดือด ฝาหม้อเผยอขึ้นเนื่องด้วยแรงดันภายใน
หลังจากที่มายมิ้นท์ได้ยิน เธอก็รีบหยุดสิ่งที่เธอค้างไว้ในมือแล้วมองไปที่เตา "ซุปเดือดแล้วค่ะ"
“ทำยังไง?” เปปเปอร์ถาม
มายมิ้นท์ชี้ไปที่ปุ่มปิด “ปิดเตาได้ แล้วใช้ช้อนคน แล้วตักใส่ซุปใส่ถือไปวางไว้ข้างๆ ก็ได้แล้วค่ะ”
“โอเค ผมทำเอง” หลังจากเปปเปอร์พูดจบ เขาก็เดินตรงไปที่เตา
จู่ๆ มายมิ้นท์ก็เหมือนนึกถึงอะไรบางอย่างได้ เธอพูดขึ้นอีกครั้งว่า "คุณแค่คนก็พอค่ะ เดี๋ยวฉันจะเข้ามาตักเอง"
ยังคงเป็นประโยคเดิม เพราะมือของเขาใช้การได้ข้างเดียว ไม่สามารถยกหม้อได้
เปปเปอร์รู้ดีว่าเขาคงยกไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธคำพูดของเธอ ได้แต่ตอบรับแล้วปิดเตา
จากนั้นเขาก็หยิบช้อนที่อยู่ด้านข้างขึ้นมายกฝาหม้อออก
แต่เนื่องจากเขาไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อน เมื่อยกฝาหม้อขึ้น เขาไม่ทันเอามือหลบก็ถูกไอร้อนลอยขึ้นมา ทำให้ไอน้ำร้อนลวกข้อมือของเขา
เปปเปอร์อุทานออกมาเบาๆ เขาขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
เมื่อมายมิ้นท์ได้ยินแล้ว เธอก็รีบก้าวเข้าไปดู "เกิดอะไรขึ้นคะ?"
เปปเปอร์ปิดฝาหม้อลงด้วยใบหน้าอันสงบ "ไม่เป็นไรครับ"
“จริงเหรอคะ?” มายมิ้นท์หรี่ตามองมาที่เขาอย่างสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
เพราะเมื่อครู่เธอได้ยินเสียงอุทานออกมาของเขาจริงๆ
ดวงตาของเปปเปอร์กะพริบเล็กน้อย เขาหันไปทางด้านข้างเพราะไม่กล้าสบตาดูเธอ “ไม่เป็นไรจริงๆ”
“ฉันไม่เชื่อแน่” มายมิ้นท์มองไม่ออกถึงความผิดปกติของเขาได้อย่างไร ริมฝีปากสีแดงของเธอเม้มแน่น “บอกฉันมานะคะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าคุณไม่บอกฉัน ฉันจะเชคเอง”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่จริงจังและน้ำเสียงเคร่งขรึมของหญิงสาว เปปเปอร์ก็ยอมแพ้และยกมือขวาขึ้นเพื่อให้เธอดูข้อมือของเขา
มายมิ้นท์เห็นว่าผิวของเขาเดิมทีเป็นสีขาวเริ่มแดงเรื่อ เธอก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วพูดด้วยความตกใจว่า "คุณถูกน้ำร้อนลวกเหรอคะ?
เปปเปอร์ก้มศีรษะและกระแอมออกมาอย่างเชื่องช้าเพื่อยอมรับมัน
มายมิ้นท์รู้สึกสับสนงุนงง "คุณถูกลวกได้ยังไง?"
“พอดีมือไปโดนไอน้ำเข้าน่ะครับ” เปปเปอร์เหลือบมองหม้อบนเตาแล้วตอบเธอ
เมื่อมายมิ้นท์ได้ยินดังนั้น เธอก็ทั้งโมโหและขำ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณทำอะไรไม่ได้นอกจากเด็ดผัก เอาละ คุณออกไปเถอะค่ะ อย่าทำอะไรอีกเลย ฉันเกรงว่าหากคุณคอยช่วยเหลืออยู่อย่างนี้ฉันจะยุ่งมากขึ้น และคุณก็จะเจ็บตัวมากขึ้น”
เปปเปอร์ก้มหน้าด้วยความละอาย "ผมขอโทษ......"
เขาไม่คิดว่าเขาจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้
แม้แต่เรื่องเล็กน้อยในครัวก็ยังทำได้ไม่ดี
มายมิ้นท์เห็นท่าทางซึมเศร้าของเปปเปอร์ เธอก็เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของเขาดี
ถึงอย่างไรเขาก็หวังดีมาช่วย แต่เขากลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย ท้ายที่สุดแล้วหากเขายังอยู่ช่วยต่อไปคงจะวุ่นวายมากขึ้น เป็นธรรมดาหากเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเสียใจเพราะทำให้เธอผิดหวัง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้ผิดหวังอะไร
การที่เขาทำสิ่งเหล่านี้ไม่เป็น ก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้
อีกทั้งกาที่เขาริเริ่มที่จะเข้ามาช่วยเหลือเธอ ในใจเธอก็ซาบซึ้งเกินพอแล้ว
“เอาละ ไม่ต้องคิดมากนะคะ ฉันเชื่อว่าเมื่อแขนคุณหายแล้วจะไม่เป็นแบบนี้แน่”มายมิ้นท์ตบไหล่เปปเปอร์เบาๆ เพื่อปลอบโยน
เปปเปอร์เหลือบมองที่แขนซ้ายของเขา ความหวังบางอย่างก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งในหัวใจของเขา
ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ดี แต่ปัญหาอยู่ที่มือของเขายังไม่หายต่างหาก
นอกจากนี้ สิ่งไหนที่เขาทำไม่เป็น เขาค่อยเรียนรู้เพิ่มเติมก็ได้
เขาเชื่อว่าในอนาคตเขาจะสามารถช่วยอะไรเธอได้บ้าง
ขณะเดียวกัน เขายังพบว่าการทำอาหารกับเธอหรือทำเรื่องใดก็ตาม เขามีความสุขจริงๆ เขาชื่นชอบมันมาก ทำให้หัวใจของเขาพองโต
“มาค่ะ ฉันจะพาคุณไปทำความสะอาดแผลน้ำร้อนลวกนี้ก่อน” มายมิ้นท์พูดอีกครั้ง
เมื่อตอนที่เธอเริ่มเรียนทำอาหารครั้งแรก เธอก็ถูกลวกมืออยู่หลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าเขารู้สึกอย่างไรหลังจากที่ถูกลวก
ตอนนี้ข้อมือของเปปเปอร์คงจะปวดแสบปวดร้อน
ดังนั้น ณ เวลานี้ ผู้ช่วยเหมันตร์ยังคงไม่เลิกงานและยังยุ่งอยู่
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เอามือลูบไปที่ผมของตน ก่อนจะวางปากกาในมือลงแล้วหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหน้า สายตาเหลือบมอง เหอะๆ เจ้านายผู้ขูดเลือดขูดเนื้อนั่นเอง
เขาโทรมาช่วงเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
ผู้ช่วยเหมันตร์บ่นออกมาสองสามคำเกี่ยวกับเปปเปอร์ แต่ในที่สุดเขาก็รับโทรศัพท์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ประธานเปปเปอร์ครับ”
“พรุ่งนี้หาพ่อครัวให้ผมคนหนึ่งสิ” เปปเปอร์สั่ง
ผู้ช่วยเหมันตร์ตกตะลึง "พ่อครัว? ประธานเปปเปอร์ ท่านจะเปลี่ยนพ่อครัวที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์เหรอครับ?”
“ไม่ใช่ หาพ่อครัวส่วนตัวให้ผม ผมต้องการเรียนทำอาหารกับเขา” เปปเปอร์เผยอริมฝีปากบางของเขาเบาๆ แล้วตอบกลับ
ผู้ช่วยเหมันตร์เกือบสำลักน้ำลายของตัวเองตาย “อะไรนะ เรียนทำอาหาร?”
“อืม”
ริมฝีปากของผู้ช่วยเหมันตร์กระตุก “ประธานเปปเปอร์ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมถึงอยู่ๆ จะไปเรียนทำอาหาร?”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องรู้ ไปทำตามที่ผมบอกก็พอ ให้เขามาที่ห้องทำงานของผมทุกเที่ยงเพื่อสอนผม” เปปเปอร์กล่าว
เขามีเวลาว่างตอนนี้เท่านั้น
ช่วงเวลาที่เหลือ เขาใช้ในการทำงานและอยู่เป็นเพื่อนมายมิ้นท์
สองชั่วโมงตอนเที่ยงเพียงพอสำหรับเขาที่จะเรียนรู้ เพราะเขามีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดี คาดว่าอีกไม่นานเขาจะกลายเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถในการทำกับข้าว
เมื่อถึงเวลานั้น มายมิ้นท์คงจะประหลาดใจมากถ้าเขาทำอาหารให้เธอกินใช่ไหมล่ะ?
เมื่อจินตนาการถึงวันนั้น เปปเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอ
ผู้ช่วยเหมันตร์กลอกตาโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก เมื่อถูกเปปเปอร์สั่งไม่ให้ถามมาก
เขาไม่รู้จักประธานเปปเปอร์เหรอ?
อยู่ดีๆ ก็อยากเรียนทำอาหารขึ้นมาเสียอย่างนั้น รับรองว่าต้องการทำให้คุณมายมิ้นท์แน่
นอกจากคุณมายมิ้นท์แล้ว มีใครอีกที่มีความสามารถพอจะให้เขาหันมาสนใจเรื่องไร้สาระเหล่านี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...