รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 657

พวกเขากลัวว่าถ้าเดินช้าไป ก็อาจจะโดนประธานเปปเปอร์เรียกตัวไว้เหมือนกัน

พอถึงตอนนั้น ก็ซวยแน่!

ไม่นาน ที่ระเบียงทางเดิน ก็เหลือแต่เปปเปอร์กับเลขาผู้ชายคนนี้แล้ว

เลขาผู้ชายไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเปปเปอร์ จึงได้แต่ก้มหน้าลงต่ำเอาไว้ ร่างกายก็ค่อย ๆ สั่นเทาขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ากลัวเปปเปอร์มาก

เปปเปอร์กลับหรี่ตาจ้องมองเขา แล้วถามเสียงเรียบขึ้นว่า “เมื่อกี้นายบอกว่า เมียนายมอบของขวัญให้นายเหรอ?”

พอได้ยินคำถามของเปปเปอร์ เลขาชายก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วถามกลับอย่างแปลกใจขึ้นว่า “ประธานเปปเปอร์ ที่คุณเรียกตัวผมไว้ เพราะจะถามผมเรื่องนี้เหรอครับ?”

เปปเปอร์ตอบอืมไปคำหนึ่ง

แล้วเลขาขายถึงได้โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง ความตื่นเต้นและความกังวลในใจ ก็หายวับไปหมดทันที

ร่างกายที่สั่นเทาอยู่ในตอนแรก ตอนนี้ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

เขาถอนหายใจเอาลมพิษออกมาเบา ๆ คำหนึ่ง แล้วถึงได้ตอบกลับไปอย่างสงบเยือกเย็นว่า “ใช่ครับประธานเปปเปอร์ ช่วงนี้เมียผมเพิ่งจะเรียนรู้ทักษะการถักผ้าพันคอมาใหม่ ก็เลยถักผ้าพันคอมาให้ผมผืนหนึ่งครับ”

พูดแล้ว เลขาหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปลูบผ้าพันคอสีชมพูที่ใส่อยู่บนคอเล็กน้อย รอยยิ้มโง่ ๆ บนใบหน้านั้น จะให้ยิ้มกว้างแค่ไหนก็กว้างได้เท่านั้นเลย

จากนั้น เขาก็จับผ้าพันคอไว้แล้วก็ถามเปปเปอร์ขึ้นว่า “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณว่าสวยไหมครับ?”

เปปเปอร์ไม่ได้พูดอะไร จ้องมองผ้าพันคอแล้วก็รู้สึกว่าแสบตาเล็กน้อย

คนคนนี้ คงจะไม่ได้กำลังโอ้อวดกับเขาอยู่หรอกนะ?

เหอะ มีอะไรน่าโอ้อวดกัน

ก็แค่ผ้าพันคอที่คนรับมอบให้ก็เท่านั้น ยังจะมายิ้มกว้างขนาดนี้อีก?

เขาก็สามารถให้คนรักของตัวเอง ถักผ้าพันคอให้ตัวเองสักผืนได้เหมือนกัน?

เปปเปอร์เม้มเรียวปากขึ้นมาเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวก็เย็นลงไปอีก “ก็พอใช้ได้ นายกลับไปทำงานเถอะ”

“ครับ” เลขาหนุ่มวางผ้าพันคอลงแล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วหมุนตัวกลับห้องทำงานไป

เปปเปอร์ก้าวเท้าเดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง เดินไปด้วย แล้วก็เริ่มส่งข้อความให้มายมิ้นท์ไปด้วย : ผมมีของที่อยากได้แล้ว

มายมิ้นท์กำลังจัดการเอกสารอยู่ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา แล้วก็ยื่นมือไปหยิบขึ้นมาดู

พอเห็นเนื้อหาที่เปปเปอร์ส่งมา คิ้วเรียวที่งดงามก็เลิกขึ้นมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดโทรศัพท์ออกไปเลย

พอเปปเปอร์เห็นสายโทรเข้าของเธอ นิ้วโป้งก็รูดหน้าจอรับสาย แล้วเอาโทรศัพท์แนบไว้ข้างหู

“คุณบอกว่าคุณมีของที่อยากได้แล้ว อยากได้อะไรเหรอคะ?” น้ำเสียงที่ไพเราะมีเสน่ห์ของมายมิ้นท์ดังลอยมา

เปปเปอร์ดึงเก้าอี้ของตัวเองออกมาแล้วนั่งลง ในหัวสมองมีแต่ผ้าพันคอที่อยู่บนคอเลขาหนุ่มคนเมื่อกี้ รวมทั้งรอยยิ้มที่โอ้อวดของเลขาหนุ่ม แล้วก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “ผมอยากได้ผ้าพันคอที่คุณถักเองกับมือ”

ถ้าเขาได้ใส่ผ้าพันคอที่เธอถักแล้ว เขาก็จะได้โอ้อวดกลับไปเหมือนกัน

“ห๋า?” อีกฝั่งของโทรศัพท์ พอได้ยินคำพูดของเปปเปอร์ มายมิ้นท์ก็นิ่งอึ้งไปทั้งตัวเลย

ผ้าพันคอเหรอ?

แถมยังจะเอาที่เธอถักเองกับมืออีก?

เห็นได้ชัดเลยว่ามายมิ้นท์นั้นคิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่เปปเปอร์อยากได้ จะเป็นแบบนี้ไปได้ ที่ช่างไม่เหมือนคนอื่นเลย

เธอยังนึกว่า ถึงเขาจะนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าอยากได้อะไร แต่สุดท้ายก็จะให้เธอซื้อของประดับตกแต่งอะไรสักอย่าง หรือพวกมีดโกนนวด เข็มขัดอะไรพวกนั้นซะอีก

แต่ปรากฏว่า คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผ้าพันคอไปได้

พอเห็นว่ามายมิ้นท์ไม่ตอบตกลง แต่กลับเกิดความยากลำบากใจขึ้นมา เปปเปอร์ก็ค่อย ๆ หรี่ตาลง “ไม่ได้เหรอ?”

มายมิ้นท์ส่ายหน้าขึ้นมา “ไม่ ไม่ใช่ค่ะ คือว่า ฉันแค่รู้สึกแปลกใจมาก ทำไมคุณถึงนึกถึงผ้าพันคอขึ้นมาได้ แถมยังจะเอาที่ฉันถักเองกับมืออีก?”

พูดถามหลักแล้ว ของขวัญส่วนใหญ่ที่ผู้ชายทั่วไปต้องการ ไม่ค่อยมีการเสนอออกมาว่าให้แฟนตัวเองถักผ้าพันคอให้ซะเท่าไหร่

แล้วคนอย่างเปปเปอร์ที่มีของกินของใช้เป็นสิ่งของหรูหรามีราคามาตลอด ก็ยิ่งไม่มีทางนึกถึงแน่นอน

ดังนั้นที่อยู่ ๆ เขาก็เอ่ยถึงสิ่งนี้ จะต้องมีเหตุผลพิเศษอะไรอย่างอื่นแน่นอน

ว่าแล้ว เปปเปอร์ก็เปิดปากตอบขึ้นมาว่า “มีคนมาโอ้อวดกับผม”

จู่ ๆ ในใจแทบจะอยากบีบเปปเปอร์เจ้าคนขี้อวดนี่ให้ตายไปเลยจริง ๆ แต่ว่าภายนอก ผู้ช่วยเหมันตร์ยังคงรักษารอยยิ้มไว้ตลอด แถมยังตั้งใจให้แฝงความตกตะลึงไว้นิดหน่อยด้วย “อ๋อ เหรอครับ ดีจังเลย ยินดีกับประธานเปปเปอร์ด้วยจริง ๆ นะครับ”

เห็นได้ชัดว่าเปปเปอร์ชอบคำยินดีของเขาเป็นอย่างมาก แล้วเชิดคางขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีอะไร แค่ผ้าพันคอผืนเดียวเท่านั้น”

เหอะ เหอะ

ผ้าพันคอผืนเดียวเท่านั้นเหรอ?

ในเมื่อคุณพูดมาอย่างไม่สนใจอะไรแบบนี้ งั้นเมื่อกี้คุณก็อย่ามาโอ้อวดซิ เฮี้ย!

ผู้ช่วยเหมันตร์เม้มปากแล้วกระแอมไปขึ้นมาคำหนึ่ง และไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเปปเปอร์อีกแล้ว ไม่งั้นก็จะเหนื่อยใจเกินไปแล้ว

“คืออะไรนะ ประธานเปปเปอร์ครับ อันนี้เป็นเอกสารที่ต้องการให้คุณเซ็นชื่อที่เก็บรวบรวมมาจากแต่ละแผนกครับ ผมวางไว้ตรงนี้นะครับ” เขาชี้ไปที่โต๊ะทำงานของเปปเปอร์เล็กน้อย

เปปเปอร์พยักหน้าขึ้นมา “วางไว้เถอะ”

“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์เอาเอกสารวางลงไป จากนั้นก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ประธานเปปเปอร์ครับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

เขากลัวว่าถ้าตัวเองยังไม่ออกไปอีก เดี๋ยวก็ต้องมาทนกับความหวานเลี่ยนอีก

“รอก่อน” เปปเปอร์เปิดปากเรียกตัวเขาไว้

สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์บิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง แล้วก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คลี่ยิ้มที่เป็นมืออาชีพออกมา “ประธานเปปเปอร์ คุณยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?”

เปปเปอร์นั่งตัวตรงขึ้นมา สีหน้าดูจริงจังขึ้นมา “คนที่ส่งไปตามหาองอาจ เรียกตัวกลับมาให้หมด ไม่ต้องตามหาแล้ว”

“ไม่หาแล้วเหรอครับ?” พอได้ยินคำสั่งของเปปเปอร์ ใบหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ก็เกิดความตกตะลึงขึ้นมา “ทำไมล่ะครับ?”

“เมื่อสองวันก่อนมายมิ้นท์บอกกับฉันแล้ว ว่าองอาจโดนราเม็งทรมานจนไม่เหลือสภาพความเป็นคนแล้ว แถมราเม็งยังไม่คิดจะจบด้วย เกรงว่าพอเป็นแบบนี้ต่อไป องอาจก็คงจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นานแล้วล่ะ” เปปเปอร์พูดเสียงขรึมขึ้นมา

เมื่อคืนก่อน ในตอนที่เขาดูหนังกับมายมิ้นท์เสร็จแล้วกลับมาที่คอนโดพราวฟ้านั้น มายมิ้นท์ก็ได้พูดเรื่องอีเมลที่ราเม็งส่งมาให้เธอออกมา

เขาเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องในตอนนั้น ว่าราเม็งได้ลงมือกับองอาจไปแล้ว

ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจที่ความเคลื่อนไหวของราเม็งเร็วกว่าเขาก้าวหนึ่ง แต่ว่าการกระทำของราเม็ง ที่จริงก็เป็นสิ่งที่เขาค่อนข้างอยากจะเห็นอยู่เหมือนกัน

ที่แรกองอาจทำให้มายมิ้นท์ตกเหวไป จนเกือบจะทำให้เธอตายไป ก็สมควรแล้วที่จะต้องมีจุดจบแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นเขา วิธีการของเขาก็คงจะไม่น้อยไปกว่าราเม็งแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว