รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 731

เปปเปอร์ได้เดินมา หลังจากที่ได้นั่งลงแล้วก็ได้โอบกอดเอวของเธออย่างเป็นธรรมชาติ และได้จูบที่แก้มของเธอหนึ่งที“เรียบร้อยแล้วครับ”

“หืม คุณสูบบุหรี่หรือคะ”มายมิ้นท์ได้กลิ่นบุหรี่บนตัวของเขา และได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ได้เอื้อมมือออกไปปิดหน้าของเขาไว้ แล้วผลักใบหน้าของเขาออกไป

เปปเปอร์ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ก้มศีรษะดมกลิ่นบนตัวของตัวเอง“กลิ่นแรงมากเลยหรือครับ?”

“ไม่ได้แรงขนาดนั้น แต่ก็พอจะดมออกมาได้น่ะ”มายมิ้นท์ได้ส่ายหัวแล้วตอบกลับ

และอีกอย่างกลิ่นบุหรี่ก็ไม่ได้เหม็นมาก แต่กลับมีความหอมเล็กน้อย

แต่ว่า เธอไม่ชอบบุหรี่ ดังนั้นจึงไม่ชอบกลิ่นนี้ด้วยเลย

“คุณอยู่ดีๆ แล้วสูบบุหรี่ทำไมเนี่ย?”มายมิ้นท์ได้ชงเมล็ดกาแฟที่บดแล้วนั้น จากนั้นก็ได้ถามอีก“หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า?ฉันเห็นคุณคุยโทรศัพท์นานมากเลย”

เปปเปอร์ได้หยิบน้ำเปล่าที่อยู่ข้างๆขึ้นมาจิบคำหนึ่ง“ไม่มีอะไรครับ ได้จัดการเรียบร้อยหมดแล้วล่ะ”

“อย่างนี้เองหรือคะ”มายมิ้นท์ได้พยักหน้าเล็กน้อย และไม่ถามอีก ได้ปิดฝาครอบบนตะเกียงแอลกอฮอล์ แล้วดับไฟ จากนั้นก็ได้เทกาแฟมาสองแก้ว

หลังจากที่เทเสร็จแล้ว เธอก็ได้ดันแก้วหนึ่งไปให้เปปเปอร์“กาแฟบลูเมาท์เทน รสดั้งเดิมที่คุณชอบดื่ม ลองชิมดูสิคะ?ฉันชงครั้งแรก น่าจะไม่ได้ชงนานเกินไป”

เปปเปอร์ได้ยกแก้วที่มีกลิ่นหอมนั้นขึ้นมา แต่พอมองไปแล้ว กลับดูเหมือนเป็นกาแฟบริสุทธิ์จากสมุนไพร ได้ดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง และยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วตอบกลับว่า:“ดมแล้วหอมมากเลยครับ หากดื่มแล้วคงต้องอร่อยแน่ๆ มากไปกว่านั้นนี่เป็นสิ่งที่คุณชงเองกับมือ ถึงแม้จะไม่อร่อย ผมก็จะดื่มให้หมดเลยครับ”

มายมิ้นท์ได้กลอกตาใส่เขาหนึ่งที “กะล่อนซะจริง ไปฝึกมาจากใครคะ?”

“นี่เป็นความในใจของผม ไม่ได้กะล่อนนะครับ”เปปเปอร์พูดด้วยความจริงจังมาก

มายมิ้นท์ส่ายหัวแล้วหัวเราะ“เอาเถอะ รีบดื่มเถอะค่ะ”

หลังจากที่พูดจบ เธอก็ได้ก้มศีรษะ และใส่นมกับน้ำตาลก้อนลงในแก้วตัวเอง

เธอไม่เหมือนเปปเปอร์ ที่ดื่มกาแฟแล้วชอบดื่มแต่กาแฟบริสุทธิ์ เธอยังคงชอบใส่ส่วนผสม มิเช่นนั้นมันจะขมเกินไป

“จะว่าไปแล้ว คุณกับทามทอยคุยกันนานเท่าไหร่กัน?”จู่ๆเปปเปอร์ก็ได้วางแก้วกาแฟลงแล้วถาม

สีหน้าท่าทางที่เขาได้จ้องมองเธอ ดูเหมือนกับว่าสามีมาตรวจสอบเช่นนั้น

มายมิ้นท์ได้ขมวดคิ้วที่สวยงามนั้นเล็กน้อย“ทำไม?หึงหรือคะ?”

“หากว่าคุณได้คุยกับเขานานล่ะก็ แน่นอนว่าผมต้องหึงอยู่แล้วครับ”เปปเปอร์ยอมรับว่าตัวเองไม่พอใจจริงๆโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ได้เม้มริมฝีปากแล้วพูดอีกว่า:“เพราะไม่ว่ายังไงความรู้สึกที่ทามทอยคนนั้นมีต่อคุณนั้น ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้สักหน่อยนี่ครับ”

มายมิ้นท์กวนกาแฟในแก้วด้วยช้อนกาแฟ ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบกลับว่า:“สองนาทีค่ะ คำตอบนี้พอจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาไหมคะ?”

สองนาทีหรือ?

เปปเปอร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก“ค่อนข้างดีครับ”

มายมิ้นท์ได้จับที่หน้าผาก

ทันใดนั้น เลขาซินดี้ก็ได้เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา“ประธานใหญ่ ประธานเปปเปอร์ ได้เวลาพักเที่ยงแล้วค่ะ พวกคุณต้องการจะกินอะไรหรือคะ ฉันจะได้โทรจองให้ค่ะ”

มายมิ้นท์ได้มองไปทางเปปเปอร์ สิ่งที่ต้องการจะสื่อนั้นชัดเจนมาก และได้ถามเขาว่าต้องการจะกินอะไร เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นแขก ทุกอย่างก็ต้องเอาเขาว่าก่อนอยู่แล้ว

แต่เปปเปอร์กลับส่ายหัวเล็กน้อย“ผมแล้วแต่คุณเลยครับ คุณจะกินอะไร ผมก็กินตามนั้นเลย”

เลขาซินดี้ได้ปิดปากแล้วยิ้มเล็กน้อย“ประธานใหญ่คะ ประธานเปปเปอร์ช่างรักและเอ็นดูคุณจริงๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะกินอะไรก็กินตามรสชาติที่คุณกินเลยค่ะ”

มายมิ้นท์ถูกพูดจนหน้าแดงก่ำไปหมด“ใช่ซะที่ไหนกันล่ะ”

“ใช่แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ฉันพูดถูกใช่ไหมคะประธานเปปเปอร์”เลขาซินดี้ได้มองไปทางเปปเปอร์

เปปเปอร์ได้วางแก้วกาแฟลง พยักหน้าเล็กน้อย โดยสื่อสายตาที่ ‘คุณทำดีมาก’ให้กับเธอ“คุณพูดถูกแล้วล่ะ เธอเป็นที่รักของผม ผมไม่รักและเอ็นดูเธอแล้วจะไปรักและเอ็นดูใครล่ะครับ?ความชอบของเธอนั้นสำคัญที่สุด ผมตามใจเธอหมดเลยครับ”

หลังจากที่พูดจบ เขาได้มองไปทางเธอ สายตาคู่นั้นปรากฏความรู้สึกที่ลึกซึ้งออกมา

ใบหน้าของมายมิ้นท์แดงมากกว่าเดิมไปอีก ค่อยๆแดงไปจนถึงหู ทำให้เธอดูสวยจนน่าตกตะลึง

หากไม่ใช่เพราะว่าที่นี่มีคนนอกอยู่ เขาแทบอยากจะยกคางของเธอขึ้น แล้วจูบเธอแรงๆเลย

ขณะที่คิด ทันใดนั้นเปปเปอร์ก็ได้ส่งสายตาที่เย็นชากับเลขาซินดี้ไป

คนคนนี้มาอยู่ที่นี่ช่างเป็นส่วนเกินจริงๆเลย

แต่พอมาคิดๆดูแล้ว หากว่าเธอไม่มา แล้วไม่พูดคำพูดเหล่านั้น เขาก็คงไม่ได้เห็นมายมิ้นท์ที่มีใบหน้าที่แดงก่ำนี่แล้ว

แน่นอนว่าเลขาซินดี้รู้สึกได้ถึงเปปเปอร์ที่จู่ๆก็ไม่พอใจกับท่าทางของเธอเล็กน้อย ในหัวสมองก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในทันที

เธอทำอะไรผิดหรือพูดอะไรผิดหรือเปล่า?

บางทีประธานลาเต้อาจจะเพราะว่านึกถึงคืนนั้นแล้ว จึงได้นึกถึงเธอ อดไม่ได้ที่จะโทรมาหาประธานใหญ่เพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอ

ในเวลานี้ หัวใจของเลขาซินดี้เต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม มองไปที่ดวงตาของมายมิ้นท์ แล้วเต็มไปด้วยความคาดหวัง

คาดหวังถึง คำตอบที่ตัวเองต้องการได้ยิน

เนื่องจากเลขาซินดี้ตื่นเต้นจนมากเกินไป จึงแทบจะซ่อนไว้ไม่อยู่

มายมิ้นท์กับเปปเปอร์เพียงแค่ดูไปก็สามารถดูออกเลย ว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรอยู่

มายมิ้นท์กับเปปเปอร์ได้มองหน้ากัน

เปปเปอร์ไม่มีปฏิกิริยามากนัก สำหรับเขาแล้ว นอกจากมายมิ้นท์นั้น เรื่องของคนอื่นๆ เขาไม่เคยให้ความสนใจและแคร์มาโดยตลอด

แต่มายมิ้นท์กลับแอบถอนหายใจเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกเสียใจแทนเลขาซินดี้

“เลขาซินดี้”แม้ว่ามายมิ้นท์จะรู้สึกอดสงสารไม่ได้ แต่พอคิดดูแล้ว ก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเลขาซินดี้ไป

เพราะไม่ว่าอย่างไรการใช้ชีวิตในจินตนาการตลอดเวลานั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย

หากหมกมุ่นอยู่กับจินตนาการนานเกินไป จะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง และท้ายที่สุดเมื่อถูกใครบางคนเปิดเผยว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาแล้ว ก็จะตกอยู่ในความเจ็บปวดนั้น

ดังนั้นแล้ว ในขณะที่เลขาซินดี้ยังไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับจินตนาการไปจนหมดนั้น ก็รีบให้เลขาซินดี้มองให้กระจ่างเร็วหน่อยจะดีกว่า

เจ็บปวดในระยะสั้นๆดีกว่าเจ็บปวดในระยะยาวๆ

“ประธานใหญ่คะ คุณพูดเลยค่ะ”เมื่อเลขาซินดี้ได้ยินเสียงเรียกจากมายมิ้นท์ ก็รู้ว่ามายมิ้นท์ต้องการจะพูดแล้ว จึงรีบตั้งสติกลับมา

มายมิ้นท์ได้เม้มริมฝีปากสีแดงนั้นและขยับเล็กน้อย“คือว่า……เต้ได้ถามกับฉันว่าช่วงนี้มีคุณมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าน่ะ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของเลขาซินดี้ก็ซีดขาวขึ้นมาทันที ความคาดหวังภายในใจที่เกิดขึ้นมานั้น ราวกับว่าถูกคนสาดน้ำเย็นใส่เช่นนั้น ทุกอย่างดับสลายไปหมด จนเธอแข็งทื่อไปหมดทั้งตัว ผ่านไปสักพักจึงจะขยับปาก และเปล่งเสียงออกมา“ประธานใหญ่คะ ประธานลาเต้ถามเพียงสิ่งนี้หรือคะ?”

“อื้อ”มายมิ้นท์พยักหน้า

เลขาซินดี้ได้กำมือแน่นขึ้นกว่าเดิม “คำว่าผิดปกติที่ประธานลาเต้พูดนั้น……มันหมายถึงอะไรหรือคะ?”

หรือว่า ประธานลาเต้รู้มาจากไหนว่าเธอในช่วงนี้อาเจียนออกมาเป็นครั้งคราว เดาได้ว่าเธออาจจะตั้งท้องแล้ว จึงได้หาประธานใหญ่พูดอย่างเลี่ยง ๆ ไม่กล้าพูด ออกมาตรง ๆ เพื่อถามเรื่องนี้โดยเฉพาะหรือเปล่า?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว