เปปเปอร์อึ้งไป ผ่านไปไม่กี่วินาที จึงตั้งสติได้ มองมายมิ้นท์ด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ “เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ ไปทำงานเป็นเพื่อนผมเหรอ”
“ใช่ไง” มายมิ้นท์พยักหน้า
ตอนนี้เปปเปอร์มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด ความไม่อยากเชื่อในตา แปรเปลี่ยนเป็นยินดี “ทำไมจู่ๆ ถึงจะไปทำงานเป็นเพื่อนผมล่ะ”
มายมิ้นท์จัดเสื้อนอกพลางตอบว่า “เพราะอาการบาดเจ็บของนายไง”
เปปเปอร์มองผ้าก๊อซที่พันรอบหัว “นี่ไม่นับว่าบาดเจ็บนะ”
ศีรษะด้านหลังของเขากระแทก เลยทำให้แตกเล็กน้อย เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ขนาดที่จำเป็นต้องมีคนคอยดูแลเวลาจะทำอะไร
“ใครบอกว่าไม่นับว่าบาดเจ็บ” มายมิ้นท์เอามือเขาออกจากหน้าผาก “เพราะชนโดนหัว ขืนต่อไปเกิดคลื่นไส้ หมดสติขึ้นมาจะทำยังไง”
เรื่องนี้ใครจะแน่ใจได้ล่ะ
สรุปว่าเธอไม่วางใจ ที่เขาไปทำงาน
อีกทั้งเธอรู้ว่าเวลาเขาทำงาน จะไม่จบไม่สิ้น นี่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน
ดังนั้นเธอไปดูสักวันแล้วกัน ไม่งั้นคงไม่วางใจ
“ไม่หรอก” เปปเปอร์สัมผัสฝ่ามือมายมิ้นท์ “สมองผมไม่ได้กระทบกระเทือนสักหน่อย จะคลื่นไส้ หมดสติได้ยังไง เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องไปเป็นเพื่อนผมหรอก”
“ไม่ให้ฉันไปด้วยจริงเหรอ” มายมิ้นท์หรี่ตามองเขา
เปปเปอร์เม้มปาก นัยน์ตาฉายแววลังเล สุดท้ายจึงพยักหน้า “อืม”
มายมิ้นท์มองบนใส่เขา “พอเถอะ เลิกปากไม่ตรงกับใจสักที อันที่จริงนายอยากให้ฉันไปมากใช่ไหม ไม่งั้นเมื่อกี้ตอนได้ยินว่าฉันจะไปทำงานเป็นเพื่อนนาย ทำไมตานายถึงเป็นประกายล่ะ อีกอย่าง การที่นายลังเลเมื่อกี้ เรียกว่าอะไรนะ”
โดนผู้หญิงที่รักจับได้ว่าตัวเองปากไม่ตรงกับใจ เปปเปอร์อดมีสีหน้ากระอักกระอ่วนขึ้นมาไม่ได้
โอเค เขายอมรับแล้ว ได้ยินว่าเธอจะไปทำงานเป็นเพื่อนตัวเอง เขาดีใจมาก
แต่เขาแค่อยากแกล้งทำเป็นเล่นตัวเท่านั้น ไม่อยากให้เธอรู้ว่าจิตใจตัวเองเร่าร้อนแค่ไหน
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอมองแวบเดียวก็รู้แล้ว เขาแค่จงใจพูดแบบนั้น แต่ในใจคาดหวังมาก
แต่เธอจับได้ทันที อันที่จริงเขาก็โล่งใจ
เพราะเมื่อกี้เขากังวลเหมือนกัน ถ้าเขาเล่นตัวมากเกินไป สุดท้ายจะทำให้เธอล้มเลิกความคิดไปทำงานเป็นเพื่อนเขาจริงๆ แบบนั้นจะร้องไม่ออกขึ้นมา
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเปปเปอร์กำลังคิดอะไร เห็นเขาเงียบไม่พูดอะไร เธอขมวดคิ้วสวย แล้วพูดเร่ง “พอแล้ว นายจะให้ฉันไปหรือไม่ไปกันแน่ ถ้าไม่ให้ฉันไปจริงๆ ฉันจะไม่ไปจริงๆ แล้วนะ”
เปปเปอร์จับมือเธอ แม้ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ความหมายแสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว
มายมิ้นท์ก้มมองมือเล็กใหญ่ที่ประสานกันแน่น อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ฉันจะบอกให้นะ บางทีนายหน้าด้านมาก แต่ทำไมบางครั้ง ถึงหน้าบางขนาดนี้ล่ะ”
เปปเปอร์กระแอมเบาๆ แล้วตอบว่า “นี่มันแล้วแต่โอกาส แล้วแต่เรื่อง”
มายมิ้นท์มุมปากกระตุก “ขี้เกียจสนใจนายแล้ว ไปกันเถอะ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว อย่ามัวแต่ยึดห้องคนไข้เลย”
“อืม” เปปเปอร์พยักหน้า
ทั้งสองจับมือกัน เดินออกจากห้องคนไข้
ตอนนี้ผู้ช่วยเหมันตร์รอพวกเขาอยู่ที่ลานจอดรถ
เห็นพวกเขามากันแล้ว จึงเก็บมือถือ แล้วเดินเข้าไป ถือของให้พวกเขา
พูดว่าถือของให้ แต่เปปเปอร์อยู่แค่คืนเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องเอากลับ แค่ช่วยมายมิ้นท์ถือของใช้ ที่จัดมาให้เปปเปอร์เมื่อคืน
เมื่อคืนตอนรู้ว่าเปปเปอร์เกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่มายมิ้นท์คิดเป็นสิ่งแรกคือ เปปเปอร์อาการสาหัส อาจต้องนอนโรงพยาบาล ตอนนั้นเลยเก็บพวกเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนมา
แต่ไม่คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้
“ขึ้นรถเถอะ” มาถึงหน้ารถ เปปเปอร์เปิดประตูรถ ให้มายมิ้นท์ขึ้นไปก่อน
มายมิ้นท์ก็ไม่เกรงใจเขา หลังตอบรับ เธอก้มตัว กำลังจะขึ้นรถ
ขณะนั้น มีเสียงล้อเคลื่อนตัว ดังขึ้นมาด้านหลังทั้งสามคน วินาทีต่อมา เสียงอ่อนโยนของผู้หญิงดังขึ้น “คุณเปปเปอร์ ในที่สุดก็เจอคุณสักที”
ได้ยินเสียงนี้ สีหน้ามายมิ้นท์เคร่งขรึมทันที
สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ก็ไม่สู้ดี แอบสบถในใจยกใหญ่
ดังนั้นเขารู้แท้ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ งั้นพูดได้เพียงว่า เขาจงใจทำให้ผู้หญิงคนนี้ขายหน้า
คิดพลาง มายมิ้นท์เดินมาข้างเปปเปอร์ เดิมทีเห็นจิตใจเลวทรามของพัดชา ครั้งนี้ได้โอกาสแล้ว
พัดชาคิดไม่ถึงว่าเปปเปอร์จะถามว่าเธอเป็นใคร จึงอึ้งไปทันที
เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใครเหรอ
เป็นไปได้ยังไง!
เธอไม่เชื่อว่าพวกเขาไม่ได้บอกเขา
ดังนั้นตอนนี้เขาจงใจทำให้เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสินะ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น สีหน้าพัดชาชะงักไป มือที่จับที่วางแขน กำแน่นขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าโมโหมาก
แต่กลับไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า ตั้งสติอย่างรวดเร็ว กลับมายิ้มอีกครั้ง เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่กระอักกระอ่วนสักนิด
“สวัสดีค่ะคุณเปปเปอร์ ฉันชื่อพัดชา คนที่ทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืน” พัดชาเงยหน้ามองเปปเปอร์ สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ดวงตามายมิ้นท์ฉายแววเยาะเย้ย เดินมาข้างเปปเปอร์ จับมือเปปเปอร์ ยิ้มตาหยีมองเธอ “ดังนั้นคุณผู้หญิงเลยมาขอโทษเหรอคะ”
สายตาพัดชามองไปยังมือของมายมิ้นท์กับเปปเปอร์ แววตาหม่นหมอง และหายไปอย่างรวดเร็ว ยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันมาขอโทษคุณเปปเปอร์”
พูดพลาง เธอหันไปมองเปปเปอร์อีก แค่มองเปปเปอร์ สีหน้าเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด “คุณเปปเปอร์ เมื่อคืนขอโทษจริงๆ นะคะ ถ้าไม่ใช่ฉัน คุณคงไม่บาดเจ็บ ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน ขอโทษจริงๆ ค่ะ!”
เธอโค้งให้เปปเปอร์ ทำท่าเหมือนไม่ได้คาดหวัง ให้เขาอภัยให้ เห็นแล้วทำให้คนรู้สึกสงสารจริงๆ
ถ้าเป็นพวกผู้ชายที่ชอบสไตล์แบบนี้ อาจจะประคองเธอขึ้นมา แล้วอภัยให้เธอไปแล้ว
มายมิ้นท์หันไปมองชายหนุ่มด้วยแววตาตักเตือน ทำท่าประมาณว่าถ้านายกล้าใจอ่อน ได้เห็นดีกันแน่
เปปเปอร์เห็นดังนั้น ก้มหน้าหัวเราะเบาๆ “คิดอะไรอยู่”
เขาดีดหน้าผากเธอเบาๆ
มายมิ้นท์ส่งเสียงหึ “ฉันไม่ได้คิดเพ้อเจ้อ คนเยอะแยะติดกับดักแบบนี้ ดังนั้นถ้านายติดกับดักนี้ด้วย ได้เห็นดีกันแน่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...