รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 789

ที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่เพราะว่าส้มเปรี้ยวแอบยุแยงอยู่ข้างหลัง เขาก็ไม่มีทางเข้าใจผิดว่าพี่มายมิ้นท์มาเป็นมือที่สามของพี่ใหญ่กับส้มเปรี้ยวหรอก และแน่นอนว่า ก็ต้องไม่มีทางเกลียดพี่มายมิ้นท์แน่

ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะนิสัยไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่าหกปีมานี้พี่มายมิ้นท์ดีกับตัวเองมากแค่ไหน

แต่เป็นเพราะว่ารังเกียจมือที่สาม ดังนั้นก็เลยละเลยความดีที่พี่มายมิ้นท์มีต่อเขามาตลอด จากนั้นก็ใช้ด้านที่แย่ที่สุดของตัวเองไปต่อต้านพี่มายมิ้นท์อีก

มีแต่แบบนี้ เขาถึงจะสามารถเตือนตัวเองได้ตลอดว่า อย่าให้โดนความดีของพี่มายมิ้นท์มาทำให้หวั่นไหวไป เธอเป็นมือที่สาม เป็นมือที่สามที่เข้ามาแทรกระหว่างพี่ใหญ่กับส้มเปรี้ยว ตัวเองต้องไม่มีทางใจอ่อน เพราะว่าความดีของมือที่สามแน่

แล้วที่เขารังเกียจมือที่สามมากขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาคนในวงการต่างก็ชอบว่าแม่ของเขา ว่าเป็นมือที่สามที่เข้ามาแทรกแซงพ่อกับแม่ใหญ่ และว่าเขาว่าเป็นลูกนอกสมรสด้วย

เขาโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าแม่ของเขา เป็นมือที่สามจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นมือที่สามในแบบทั่วไป

แต่ว่าเขาก็โดนหัวเราะเยาะมาตั้งแต่เด็กอยู่บ่อยครั้ง เพราะว่าแม่เป็นมือที่สาม แม้แต่พ่อแม่ก็ยังโดนคนอื่นติฉินนินทา บอกว่าแม่เป็นผู้หญิงหยาบกระด้างบ้านนอก แต่ยังสามารถโดนประมุขของตระกูลนวบดินทร์ถูกใจเข้า และว่าพ่อว่าเป็นประมุขของตระกูลที่ภาคภูมิคนหนึ่งกลับไม่ไปชอบคุณหนูลูกผู้ดี กลับมาชอบผู้หญิงที่หยาบกระด้างคนหนึ่ง ว่าแล้วว่าเคยชินแต่กับอาหารรสเลิศ ก็เลยอยากจะชิมดูมาอึข้างนอกมันหอมหรือเปล่า

คำพูดพวกนี้ เหมือนกับเป็นดาบคมเล่มหนึ่ง และปักเข้าไปในใจดวงเล็ก ๆ ของเขาอย่างแรง แล้วก็ด้วยเหตุนี้ ก็ทำให้ช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ค่อนข้างดื้อรั้นอยู่แล้วของเขา ยิ่งดื้อรั้นเข้าไปใหญ่ แถมยังกลายเป็นค่อนข้างรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยมากด้วย

ดังนั้นหกปีมานี้ เขาก็เลยต่อต้านมายมิ้นท์มาตลอด ก็เป็นเพราะว่าโกรธเกลียดที่พี่มายมิ้นท์มาทำลายความรักของพี่ใหญ่กับส้มเปรี้ยว แถมยังรู้สึกว่า พี่มายมิ้นท์จะทำให้พี่ใหญ่ต้องโดนเหมือนคุณพ่อ ที่โดนคนภายนอกหัวเราะเยาะ ว่าแต่งมือที่สามคนหนึ่งเข้าบ้านมา

ด้วยเหตุนี้ เขาก็เลยใช้ท่าทีที่แย่ที่สุดมารังแกพี่มายมิ้นท์อยู่ตลอด ก็เพราะว่าหวังว่าจะสามารถทำลายการแต่งงานของเธอกับพี่ใหญ่ไปได้ จะทำให้เธอรู้สึกลำบากแล้วถอยหนีไป จะไสหัวออกจากบ้านตระกูลนวบดินทร์ไป

แต่ใครจะไปรู้ พอพี่มายมิ้นท์ไปแล้วจริง ๆ เขาถึงมารู้ความจริงว่า พี่มายมิ้นท์ไม่ใช่มือที่สามซะหน่อย เธอเป็นคนที่พี่ใหญ่รักมาตลอดต่างหาก คนที่เป็นมือที่สามตัวจริงคือส้มเปรี้ยว ส้มเปรี้ยวเป็นคนสวมลอยมาเป็นพี่มายมิ้นท์

ส่วนเขา กลับช่วยมือที่สามตัวจริง ไล่คู่รักตัวจริงไปจนได้ ในวินาทีนั้น ความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง กดทับเขาไว้จนแทบจะหายใจไม่ออก

เขาอยากขอโทษพี่มายมิ้นท์ แต่กลับไม่มีหน้าไปขอโทษ และกลัวว่าพี่มายมิ้นท์จะไม่ให้อภัยตัวเอง ดังนั้นจึงไม่สามารถรวบรวมความกล้ามาอยู่ต่อหน้าพี่มายมิ้นท์ได้สักที และพูดคำว่าขอโทษกับพี่มายมิ้นท์สักคำ แถมตอนหลังยังรู้สึกดีใจเพราะว่าการแข่งขันทัวร์นาเมนต์U17จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็เก็บข้าวของออกนอกประเทศไปแบบทนรอไม่ไหว แล้วหลีกหนีไปจากเมืองเดอะซีเลย

เขานึกว่าพอหนีไปจากเมืองเดอะซีแล้ว ก็จะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิดในใจ และไม่ต้องขอโทษไปชั่วคราว แต่ต่อมาพอมาถึงต่างประเทศแล้ว ในใจของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองสารเลวไร้ยางอาย ไม่เป็นลูกผู้ชาย แม้แต่คำว่าขอโทษคำหนึ่งก็ยังไม่สามารถพูดออกไปได้

แต่ว่าหลังจากที่ผ่านการแข่งขันมาหลายเดือน คัดคนออกไปมากมาย และผ่านการแข่งขันแพ้ไปหลายครั้งแล้ว เขาก็เติบโตขึ้นมาไม่น้อย วุฒิภาวะในใจก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาไม่น้อย และในที่สุดก็มีความกล้าขึ้นมา มาโทรศัพท์สายนี้ออกไป

ครั้งนี้ เขาจะต้องบอกความรู้สึกผิดในใจออกไปให้ได้

คิดแล้ว ปีโป้ที่อยู่ปลายสายทางนั้นก็กำโทรศัพท์แน่นขึ้นเล็กน้อย ให้กำลังใจตัวเองขึ้นมา

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าวัยรุ่นที่อยู่ปลายสายอีกฝั่งกำลังคิดอะไรอยู่ เรียวปากแดงเม้มขึ้นเล็กน้อย แล้วหึเสียงเย็นขึ้นมาทีหนึ่ง “โดนคนอื่นหลอกลวง ก็ปฏิเสธการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาของนายไม่ได้”

“……” ปีโป้ไอขึ้นมาทีหนึ่ง หมดคำพูดไปเลย

ใช่ซิ โดนคนอื่นหลอก แต่ว่าคนที่แยกแยะความจริงไม่ออกกลับคือตัวเขาเอง คนที่ทำเรื่องที่เกินเลยพวกนั้นออกมาก็คือตัวเขาเอง ไม่ได้โดนส้มเปรี้ยวบีบบังคับสักหน่อย

เพราะฉะนั้น เขามีความผิดมากจริง ๆ

พอเห็นวัยรุ่นที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไร แม้แต่ลมหายใจยังกลายเป็นหนักหน่วงขึ้นมา มายมิ้นท์ก็ดีดเล็บเล็กน้อย แล้วพูดอย่างเชื่องช้าขึ้นว่า “ยังไง? โดนฉันพูดกระทบกระเทือนเข้าแล้วเหรอ?”

“อืม” ปีโป้พยักหน้าขึ้นมา

“ฝันไปเถอะ” มายมิ้นท์ทิ้งคำพูดไปให้เขาสามตัวอย่างไม่เหลือเยื่อใย

ปีโป้เบ้ปากขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “พี่สะใภ้ ทำไมกันล่ะ ในเมื่อคุณคืนดีกับพี่ใหญ่ผมแล้ว ก็หมายความว่าคุณยอมยกโทษให้กับการกระทำในอดีตของพี่ใหญ่ทั้งหมดแล้ว งั้นผม……”

“หยุดก่อน!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วขึ้น รีบขัดคำพูดของเขาไป พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นว่า “นายจะเทียบกับพี่ใหญ่ของนายเหรอ? นายไม่ดูซะบ้างว่าหลายเดือนมานี้พี่ใหญ่ของนายทำอะไรเพื่อฉันไปบ้าง ที่ฉันยอมยกโทษให้เขา กลับมาคืนดีกับเขา ไม่ใช่เพราะว่าปากของเขาพูดอย่างเดียว แต่คือการกระทำที่แท้จริงของเขาต่างหาก แล้วนายล่ะ? นายทำอะไรไปบ้าง ก็อย่างให้ฉันยกโทษให้แล้ว นายคิดได้ดีขนาดนี้ ทำไมนายไม่ไปขึ้นสวรรค์ซะล่ะ?”

“ผม……” ปีโป้หมดอาลัยตายอยากขึ้นมา “ก็ได้ ผมเป็นคนไม่มียางอายเอง ผมผิดไปแล้ว”

เมื่อกี้ เขาอยากจะยืมบารมีของพี่ใหญ่ มาทำให้พี่มายมิ้นท์ยกโทษให้ตัวเองจริง ๆ

ในเมื่อเขาคิดว่า พี่ใหญ่ได้รับการยกโทษให้แล้ว งั้นเพิ่มเขาไปด้วยอีกคนก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่หรอกมั้ง

เพราะฉะนั้น เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ ว่าเพื่อให้พี่มายมิ้นท์ยอมยกโทษให้แล้ว พี่ใหญ่ได้พยายามไปมากแค่ไหน

ตอนนี้ถึงแม้ว่าพี่มายมิ้นท์จะไม่ได้พูดชัดเจน แต่ฟังจากน้ำเสียงที่เคร่งขรึมของพี่มายมิ้นท์แล้ว เขาคิดว่า พี่ใหญ่คงจะต้องทำเรื่องที่สำคัญมากเพื่อพี่มายมิ้นท์แน่ ถึงได้รับการให้อภัยและยอมคืนดีด้วยจากเธอ

แต่เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่แล้ว ตัวเองที่ไม่มีแม้แต่คำขอโทษสักคำ ก็อยากได้รับการให้อภัย มันช่างไร้ยางอายจริง ๆ

มายมิ้นท์นวดขมับไปเล็กน้อย “เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว นายโทรศัพท์มาหาฉันคืนนี้ ตกลงอยากพูดเรื่องอะไรกันแน่?”

ปีโป้ลูบจมูกเล็กน้อย “ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกครับ หลายเดือนมานี้ผมกำลังเแข่งขันและฝึกฝนแบบเก็บตัวมาตลอด ปกติก็ไม่ได้แตะต้องเครื่องมือดิจิตอลสักเท่าไหร่ ดังนั้นผมก็เลยไม่รู้ว่าคุณกับพี่ใหญ่คืนดีกันแล้ว ผมก็เพิ่งรู้หลังจากที่วันนี้แข่งขันเสร็จและได้รับโทรศัพท์มา นี่ก็เลยดีใจมากเลย แล้วก็โทรหาคุณ จะพูดคุยกับคุณสักหน่อยไง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว