รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 790

พูดแล้ว เขาก็หัวเราะแหะ ๆ ไปคำหนึ่ง “พี่สะใภ้ คุณดีใจหรือเปล่า?”

มุมปากของมายมิ้นท์กระตุกขึ้นทีหนึ่ง “ทำไมฉันจะต้องดีใจ เพราะว่านายโทรมาด้วย? นายนึกว่านายเป็นของล้ำค่าอะไรเหรอ?”

“ถึงผมจะไม่ใช่ของล้ำค่า แต่ผมเป็นน้องชายคุณนะ” ปีโป้พูดเสียงสูงขึ้นมา

มายมิ้นท์รู้สึกรังเกียจไม่หยุด “ใครเป็นน้องชายฉัน? ฉันไม่มีน้องชายสักหน่อย นายอย่ามานับญาติกับฉันไปเรื่อยนะ”

“ผมนับญาติกับคุณไปเรื่อยที่ไหนล่ะ คุณเป็นเมียของพี่ใหญ่ผม แล้วผมก็เป็นน้องชายของพี่ใหญ่ งั้นผมก็เป็นน้องชายของคุณไปโดนปริยายนะซิ” ปีโป้รีบพูดขึ้นมา

พอมายมิ้นท์ได้ยินน้ำเสียงที่อธิบายอย่างรีบร้อนของเขาแล้ว ก็อดไม่ได้น่าขำขึ้นมาเล็กน้อย “เอาล่ะ เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว นายเพิ่งได้รับโทรศัพท์มา นายก็โทรมาหาฉันเลย ทำไมไม่ไปโทรหาพี่ใหญ่ของนายล่ะ? นายไม่กลัวพี่ใหญ่นายน้อยใจเหรอ?”

ปีโป้เบ้ปากเล็กน้อย “เขาจะไปน้อยใจอะไร? พวกเราเป็นผู้ชายทั้งสองคน จะไปมีอะไรให้คุยกัน และที่สำคัญคุณก็รู้อยู่แล้ว ว่าผมกลัวพี่ใหญ่ผม ผมจะไปกล้าโทรหาเขาได้ยังไง ถ้าโทรศัพท์ไป เขาก็จะถามถึงเรื่องการเรียนของผมด้วยความเคยชิน ผมกลัวเขาจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางโทรหาเขาแน่ ไม่มีทาง นั่นมันปีศาจตัวหนึ่งชัด ๆ”

“อ๋อ? ปีศาจเหรอ?” มายมิ้นท์หรี่ตาลง จากนั้นบนใบหน้าก็เกิดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง “ปีโป้ นายจบแน่”

“หมายความว่ายังไง?” ใจของปีโป้กระตุกวุบลงทีหนึ่ง และรู้สึกว่ามีลางสังหรที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

มายมิ้นท์เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูเล็กน้อย จากนั้นก็หัวหน้าไปทางห้องครัวและตะโกนไปว่า “เปปเปอร์ น้องชายคุณโทรศัพท์มา เขาบอกว่าคุณเป็นปีศาจ!”

“เอ้ย เฮี้ยแล้ว!” ทางปลายสาย พอปีโป้ได้ยินเสียงตะโกนของเธอในตอนนี้ ทั้งตัวก็ตกตะลึงจนลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที สีหน้าก็ขาวซีดไปเลย

ไม่ใช่มั้ง นี่พี่ใหญ่อยู่ในบ้านพี่มายมิ้นท์ด้วยเหรอ!

และที่สำคัญพี่มายมิ้นท์กลับเอาคำพูดที่เขาว่าร้ายพี่ใหญ่เมื่อกี้ ไปฟ้องพี่ใหญ่โดยตรงเลยด้วย

ตายแน่ คราวนี้ตายแน่ ๆ แล้ว!

และแล้ว ในตอนปีโป้กำลังร้อนรนไม่มีความสุขนั้น ในโทรศัพท์ก็มีเสียงของเปปเปอร์ดังลอยมา “อะไรนะ? ผมเป็นปีศาจเหรอ?”

ถึงเสียงจะเบา แต่ก็เป็นเสียงของเปปเปอร์จริง ๆ

พี่ใหญ่อยู่บ้านพี่มายมิ้นท์จริง ๆ ด้วย

คราวนี้เหงื่อเย็น ๆ บนหน้าปีโป้ก็ซึมออกมาแล้ว

อย่างกับว่ามายมิ้นท์จะรู้สึกได้ว่าคนทางปลายสายจะรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว เธอจ้องมองเปปเปอร์ที่ยกอาหารเย็นเดินมาทางเธอ จากนั้นก็เอาโทรศัพท์แนบไว้ที่ข้างหู “ปีโป้ พี่ใหญ่ของนายมาแล้ว นายจะพูดกับพี่ใหญ่นายสักหน่อยไหมล่ะ?”

“ไม่ ไม่ ไม่แล้วครับ” ปีโป้ส่ายหน้าอย่างกับเป็นป๋องแป๋ง และรีบปฏิเสธขึ้นมาทันที “พี่สะใภ้ จู่ ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีการฝึกซ้อมก่อนรอบตัดสิน เวลาก็ใกล้จะถึงแล้ว เดี๋ยวผมวางสายก่อนนะครับ ครั้งหน้าพวกเราค่อยมาคุยกันใหม่ ขอให้คุณกับพี่ใหญ่รักกันยืนยาวเป็นร้อยปี มีลูกกันเร็ว ๆ นะครับ ลาก่อน!”

พูดจบ เขาก็จะวางสายไปอย่างรีบร้อนเลย

แต่ว่าก่อนที่จะวางสายนั้น เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ในดวงตามีแววรู้สึกผิดพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง บนใบหน้าก็อดกลั้นจนแดงก่ำ น้ำเสียงก็กลายเป็นเสียงเบาลงมาก “และอีกอย่าง พี่สะใภ้ เมื่อก่อนผมทำผิดไปแล้ว ผมขอโทษพี่ด้วยนะครับ”

พอพูดจบ เขาก็รีบวางสายไปเลย จากนั้นก็ตบหน้าอกที่ใจเต้นอย่างรวดเร็วเล็กน้อย แล้วถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

ในที่สุดเขา เขาก็พูดคำขอโทษออกไปได้แล้ว

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพี่มายมิ้นท์จะยอมยกโทษให้หรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะยกโทษให้หรือไม่ให้ ความตั้งใจกับการขอโทษของเขาก็ต้องแสดงออกมา

ถ้าไม่ได้จริง ๆ ต่อไปถ้าเขากลับไปแล้ว ค่อยทำอะไรเพื่อพี่มายมิ้นท์สักหน่อย เพื่อจะทำให้พี่มายมิ้นท์ยอมให้อภัยตัวเอง เหมือนกับที่พี่ใหญ่ทำก็พอแล้ว

พอคิดได้แบบนี้ ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจปีโป้มาตลอด ในที่สุดก็สามารถโล่งอกได้สักครั้งหนึ่งแล้ว

“โป้ จะเริ่มฝึกซ้อมแล้วนะ ครูฝึกให้ฉันมาเรียกนาย” ในขณะนี้เอง เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งก็มาถึงหน้าประตูห้องพัก แล้วเคาะประตูห้องพักเล็กน้อย

“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ปีโป้เก็บโทรศัพท์ไป แล้วยิ้มให้เพื่อนร่วมทีมเล็กน้อย จากนั้นก็โยนผ้าขนหนูบนคอทิ้งแล้วก็เดินออกไป และเดินเคียงข้างจากไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม ที่สนามฝึกซ้อม

ในประเทศ ที่คอนโดพราวฟ้า

มายมิ้นท์คิดไม่ถึงว่าปีโป้จะกลัวเปปเปอร์จริง ๆ พอได้ยินว่าตัวเองจะให้เขาคุยกับเปปเปอร์ ก็ตกใจจนรีบวางสายไปทันที เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกขำมากเลย

แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ คำขอโทษของปีโป้ตอนก่อนที่จะวางสายไปนั่นเอง

เธอรู้ว่าทำไมอยู่ ๆ ปีโป้จะต้องมาขอโทษ ก็เพราะว่าการกระทำทั้งหมดของเขาที่ทำกับเธอเมื่อหกปีก่อนนั่นเอง

เธอรู้จักปีโป้ดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาตั้งแต่เล็กจนโต รวมทั้งสถานะที่สูงส่ง จึงทำให้เขาคนนี้หยิ่งยโสมาตลอด คนที่คบหากับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนผิด แต่ว่าคนที่ขอโทษ ก็ไม่มีทางคือเขาแน่นอน แต่เป็นอีกคนที่เป็นแพะรับบาป แถมยังไม่มีใครกล้าพูดว่าไม่ถูกต้องด้วย

เปปเปอร์หรี่ตาลงอย่างอันตราย “เดี๋ยวผมจะส่งแบบฝึกหัดไปให้เขาทำสักไม่กี่ชุด แล้วให้ครูฝึกของเขาคอยจับตาดูเขาทำให้เสร็จ คำนวณเวลาดูแล้ว พวกเขากำลังจะเข้าสู่การแข่งขันรอบตัดสินแล้ว คาดว่าอาทิตย์หน้าก็น่าจะได้กลับประเทศแล้ว พอเขากลับมา ผมจะตรวจการบ้านของเขา ถ้าทำไม่เสร็จ ก็อย่าไปเล่นบาสอีกเลย”

มายมิ้นท์สูดลมเย็น ๆ เข้าไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ชูนิ้วโป้งให้เขา “คุณนี่โหดจริง ๆ”

เธอเองยังผิดเล็กน้อย นี่ตัวเองได้ทำร้ายปีโป้ไปหรือเปล่า

แค่อาทิตย์เดียวสั้น ๆ ให้ทำแบบฝึกหัดตั้งหลายชุด เกรงว่าคงมีแต่เทวดาเท่านั้นที่จะทำได้?

ยังไงก็แล้วแต่ ปีโป้เจ้าเด็กโง่คนนั้น ต้องไม่มีทางทำได้แน่!

เห็นได้ว่า การลงโทษนี้สำหรับปีโป้แล้ว ไม่ใช่ความโหดแบบทั่วไปเลย

แน่นอนว่าคนในวงการธุรกิจเปรียบเปรยเปปเปอร์ได้ถูกต้องแล้ว ว่าเป็นยมทูตมีชีวิต ความแค้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องชำระ ใจแคบ ชอบจดจำความแค้น ลงมือโหด และมีฝีมือโหดเหี้ยมอะไรต่าง ๆ นานา ล้วนเป็นจริงทั้งสิ้น

กับน้องชายตัวเองยังโหดขนาดนี้ กับคนอื่น ก็ยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมากแน่นอน

พอเปปเปอร์ได้ยินมายมิ้นท์ประเมินตัวเอง ก็หัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง “ผมก็ทำเพราะหวังดีกับปีโป้ทั้งนั้น เอาล่ะ ปีโป้โทรศัพท์มาหาคุณทำไม?”

“ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ แค่ในที่สุดก็ได้รับโทรศัพท์แล้ว พอรู้ว่าพวกเราคืนดีกันแล้ว ก็เลยโทรมาพูดคุยกับฉันเท่านั้น” มายมิ้นท์ดื่มซุปอุ่นท้องไปสองคำแล้วก็ตอบกลับมา

เปปเปอร์พยักหน้าขึ้นมาเล็กน้อย “ต่อไปอย่ารับสายเขาบ่อยนัก”

“ทำไมละคะ?” มายมิ้นท์ไม่เข้าใจ

เปปเปอร์เม้มปากขึ้นมา “เขาเป็นผู้ชาย”

“……” มายมิ้นท์จ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดสุด ๆ ผ่านไปครู่หนึ่งถึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “เปปเปอร์ เขายังเป็นเด็กอยู่นะ แล้วก็เป็นน้องชายแท้ ๆ คุณด้วย เรื่องแค่นี้คุณก็ต้องหึงด้วยเหรอคะ?”

เปปเปอร์สบตากับเธอ แล้วก็พูดขึ้นมาใหม่อีกรอบ “แต่ว่าเขาเป็นผู้ชาย”

มายมิ้นท์ “……”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว