บทที่ 19 เอาลูกสาวของพวกคุณกลับมาให้ผม
ที่โรงพยาบาล
ข้างนอกก็ยังไม่ฝนตกลงมาอยู่
เซนยืนรับลมเย็นๆอยู่ริมหน้าต่าง บางครั้งก็หันไปดูห้องผ่าตัดที่กำลังใช้งานอยู่
ความหงุดหงิดที่มันอธิบายไม่ได้
เขาเริ่มคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว
คิดถึงน้ำเสียงน่าฟังที่เธอมักพูดกับเขา แต่สุดท้ายคำพูดของเธอกลับมีแต่ความเกลียดชังมาแทน
รู้สึกเย็นวูบที่ข้างหลัง
แสดงความเกลียดชังเข้ากระดูกผ่านดวงตาคู่นั้น
เกลียดชังจนเซนไหล่สั่น เหงื่อออกเต็มแผ่นหลัง
สุดท้ายก็ยิ้มหยันออกมา
เซนที่รอมานานจนรู้สึกง่วงนิดหน่อย กลับตาสว่างขึ้นเมื่อห้องผ่าตัดปิดไฟลง และพยาบาลเข็นเตียงที่มีเด็กน้อยออกมาจากห้องผ่าตัด
เสียงล้อของเตียงถูไปกับพื้นของโรงพยาบาลจนมาหยุดอยู่ที่หน้าของเซน เขาลุกขึ้นไปข้างๆเตียงเพื่อดูอาการเด็ก
“เดี๋ยวทางดิฉันจะนำเด็กเข้าตู้อบทารกก่อนนะคะ” พยาบาลบอกเซนด้วยท่าทางขวยเขิน
เมื่อได้ยินดังนั้นเซนจึงหลีกทางให้พยาบาลเข็นเตียงของเด็กคนนั้นไป หมอเดินมาทางเขาพร้อมถอดหน้ากากออกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เด็กเป็นไงบ้าง?” เซนถามขึ้น
สีหน้าของหมอเคร่งขรึม คิ้วผูกเป็นปมดูไม่ผ่อนคลาย เขาหันหน้าไปหาเซนที่ยืนอยู่ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดออกมา “ผมขอโทษ....”
หลังประโยคนั้นจบลง แววตาเขาแข็งกร้าวขึ้นทันทีและตรงเข้าไปบีบคอหมออย่างแรง
คุณก็รู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการจะได้ยิน ไม่ใช่ประโยคพวกนั้น” เซนตอกกลับเสียงต่ำ
“พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้ว” หมอพูดด้วยความเจ็บปวด “แต่เด็กคนนั้นยังเด็กเกินไป ร่างกายยังไม่มีพัฒนาการพอที่จะมีกลไกซ่อมแซมร่างกายตัวเองได้ แถมเด็กคนนั้นก็ยังได้รับอันตรายขณะอยู่ในท้องแม่...”
เซนตกใจจนเผลอปล่อยมือออกจากคอหมอตรงหน้า
ได้รับอันตรายตอนที่อยู่ในท้องแม่งั้นเหรอ
“โอเค” เซนพูดอย่างหงุดหงิด “ฉันจะติดต่อพ่อแม่รสรินเอง เล่นละครตบตากับพ่อแม่ของเธอและปล่อยข่าวลือออกไปว่า จะไม่มีตระกูลกิติกรอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาต้องการที่จะฆ่าตัวตาย”
ถ้าเกี่ยวกับพ่อแม่และตระกูลกิติกร มีเหรอที่รสรินจะไม่เผยตัวออกมา
เมื่อได้รับคำสั่งแล้วควรจัดการธุระนายให้เร็วที่สุด
หลังจากนั้นครู่นึงยูรายุก็ได้มาหาเซนที่ห้องทำงาน
“คุณเซน ในที่สุดฉันก็ได้มาเจอคุณ” ยูรายุที่หน้าตาดูเศร้าสร้อยพูดขึ้นมา “เด็กนั่นก็ตายแล้ว แล้วลูกสาวของฉันก็ไปที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ได้โปรดคืนบริษัทของตระกูลให้แก่ฉันเถอะ อ่อ ฉันได้รับข่าวที่คุณแจ้งมาแล้วนะคะ คุณต้องการ....”
“นี่คุณฟังไม่เข้าใจหรือคุณโง่กันแน่” เซนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “รู้ไหมละครบทนี้เรียกว่าอะไร?”
ยูรายุตาเป็นประกาย “นี่คุณจะบอกว่า จะคืนบริษัทให้แก่เราแล้วใช่ไหม?”
“ผมไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย” เซนพูดอย่างใจเย็น “ถ้าหาลูกสาวคุณไม่เจอ ก็อย่าหวังเลยว่าตระกูลกิติกรจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แต่คุณไปหาวิธีจัดการเองเถอะ เพราะผมก็ชักเบื่อพวกคุณแล้ว”
แบบนี้คือ เซนจะไม่ช่วยเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้โอกาสเขา ?
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของยูรายุ “ขอบคุณค่ะคุณเซน ขอบคุณจริงๆ”
“ไม่ต้องมาขอบคุณผมหรอก คุณไปหาวิธีคิดเถอะว่าจะเอาตัวลูกคุณมาให้ผมด้วยวิธีไหน” เซนตอบ “แล้วคุณอย่าลืมล่ะว่า ลูกสาวคุณก่อเรื่องอะไรกับผมไว้บ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนายมันเจ็บเหลือเกิน