บทที่ 20 ความผูกพันของเขากับเธอ
“หากคุณหาลูกสาวของคุณพบแล้ว ไม่ต้องทำอะไรทั้งแค่ แคพาเธอมาหาผมก็พอ เข้าใจที่พูดใช่มั้ย?”
มือของเซนควงปากกาในมือเล่น โดยสายตาเขายังคงจับต้องอยู่ที่ปากกา
“เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว” ยูรายุรีบตอบรับ
“ไปได้แล้ว” เซนโบกมือไล่เธอออกไป
ยูรายุยิ้มแย้มประจบประแจงเข้าก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูห้องทำงานของเขาลงอย่างระมัดระวัง เซนขมวดคิ้วแน่นอย่างให้ความคิดเห็นแบบนี้แล้วไม่รู้ว่ารสรินหายไปอยู่ที่ไหน
แค่...
ในฐานะแม่แล้ว ดูเหมือนว่ายูรายุเองแทบจะไม่ได้สนใจถึงความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของรสรินเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเทียบความปลอดภัยของรสรินกับบริษัทดูแล้ว เหมือนบริษัทจะมีน้ำหนักในใจพวกเขามากกว่า
เซนหัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมา ก่อนจะพูดกับตัวเอง “เธอนี้ทำคนอื่นเดือดร้อนไว้เยอะจริง ๆ “
พ่อก็ไม่สนใจแม่ก็ไม่รัก หึ
เป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องเลวร้ายไว้เยอะจริง ๆ
ไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอดูน่าเวทนา หรือเป็นสิ่งที่เธอสมควรรับกันแน่
••• •••
“คุณเซน” เสียงปลายสายจากยูรายุ
เซนขมวดคิ้ว “ถ้าคุณยังไม่ได้ข่าวจากลูกสาวคุณก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาผม”
พูดจบเขาก็ตัดสายทิ้งทันที จ้องมองไปที่หน้าจอ แต่กลับไม่ได้พิมพ์อะไรลงไป
แท้จริงแล้วรสรินแกล้งทำเป็นไม่รับรู้หรือเธอระเหยหายไปแล้วก็ไม่รู้
ไม่สนใจแม่แต่พ่อแม่ และบริษัทเลยงั้นหรอ?
เหมือนวิธนี้จะไม่ได้ผล ต้องเปลี่ยนไปหาวิธีอื่น
เซนคิดไปคิดมา ก่อนจะกดโทรศัพท์ต่อสายถึงใครบางคน “ปล่อยข่าวให้ฉันว่าลูกของฉันตอนนี้ป่วยหนักมากและต้องการหมดที่มีความโดดเด่นและความสามารถมาทำการรักษา”
หลังจากลูกน้องรับคำสั่งเขาก็วางสายไป
เขาไม่เชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องของลูก เธอจะทำใจสงบยอมอยู่เฉยไม่เผยตัวออกมาได้
ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก แม้แต่การพยายามฆ่าเขา
แม่ที่แสนดีอย่างนี้ ถ้าได้ข่าวว่าลูกกำลังจะตาย จะยอมไม่ออกมาได้อย่างไร?
เธอต้องออกมาแน่
••• •••
แต่หลังจากที่เซนเขารอแล้วรออีกก็ยังไม่มีวี่แววของรสรอนเลยสักนิด
ร่างเล็กๆของเด็กที่อยู่บนเตียง บนตัวเด็กเต็มไปด้วยสายระโยงระยางและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ยังคงทำงานอยู่
แม้แต่เซนที่ปกติเยือกเย็นและเฉยชาต่อสิ่งรอบข้าง เขาก็อดที่จะรู้สึกสงสารเด็กไม่ได้
“คุณเซน มาแล้วหรอครับ” หมอและพยาบาลที่กำลังทำการตรวจและบันทึกอาการของเด็กเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาภายในห้อง
เซนเพียงโบกมือทักทาย ก่อนเดินเข้าไปชิดที่ข้างเตียง “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“อาการยังกำเริบอยู่เรื่อย ๆ ครับ การหายใจค่อนข้างติดขัด ยังต้องใช้สายออกซิเจนช่วย” สีหน้าของหมอดูไม่ดีหนัก “ส่วนหัวใจก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เช่นกันครับ”
“สามารถทำได้แค่นี้หรอ?” เขาเอ่ยถาม “ถ้าบอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว ฉันก็จะพาเขาไปรักษาที่ต่างประเทศแล้วกัน”
“ไม่ได้ครับคุณเซน” หมอรีบเอ่ยตอบ “ตอนนี้สภาพร่างกายของเด็กยังไม่สามารถเดินทางไกลขนาดนั้นได้ ต้องรอให้อาการของเขาคงที่ก่อน ตอนนี้ทางเราทำได้เพียงติดต่อหาหมอที่สามารถทำให้อาการของเขาดีขึ้นก่อน ถึงจะพาเขาไปรักษาต่อได้ครับ”
เซนคิ้วขมวด “ฉันรู้แล้ว แล้วนี้จดบันทึกกันเสร็จหรือยัง ฉันอยากจะอยู่กับเด็กตามลำพังซักแปปหนึ่งได้มั้ย?”
“ได้ครับ แต่ว่าทำได้ไม่นานนะครับ” หมอพยักหน้าเชิญให้พยาบาลออกจากห้องไปก่อน “แล้วเดี๋ยวผมจะเข้ามาอีกรอบเมื่อถึงแล้วครับ”
หลังจากที่หมอและพยาบาลเดินออกไปจนหมดแล้ว ภายในห้องก็กลับมาเงียบกริบ มีเพียงเสียงจากเครื่องมือทางการแพทย์ที่กำลังทำงานอยู่และเสียงหายใจของเซน
เซนก้มหน้าไปมองเด็ก คอยสำรวจเด็กอย่างระมัดระวัง
จากเด็กแรกเกิดที่ผิวมีรอยย่นเต็มไปหมด ตอนนี้เปลี่ยนเป็นผิวขาวนวลใส เครื่องหน้าเริ่มปรากฏเป็นลักษณะชัดเจน
ลักษณะของเด็กรวม ๆ แล้วเหมือนทั้งเขาและรสรินคนละส่วน ดูเป็นการหลอมรวมกันของทั้งเขาและเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนายมันเจ็บเหลือเกิน