เธอรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่พี่สาวของเธอพูดนั้นก็เพื่อต้องการทำให้ประยสย์ถดถอย และไม่ให้ประยสย์เป็นลูกเขยเข้าบ้านจริงๆหรอกของ
“คุณกิติยา ผมซื้อตั๋วหนังสองใบ สามารถชวนณิศาไปดูหนังได้ไหมครับ”
ประยสย์หยิบตั๋วหนังสองใบออกมาราวกับเวทมนตร์ และถามกิติยาอย่างตรงไปตรงมา
ณิศามองเขาด้วยความประหลาดใจ
กิติยา: “……”
เธอสามารถปฏิเสธได้หรือไม่?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง กิติยาก็พูดเบาๆว่า: “ถ้าณิศาเต็มใจไปดูหนังกับคุณ ฉันก็ไม่ขัดข้องอะไร”
แม้ว่าน้องสาวของเธอจะไร้เดียงสา แต่นิสัยของประยสย์ก็สามารถชื่อถือได้ ดังนั้นกิติยาจึงไม่ปฏิเสธประยสย์ ให้ดูความสมัครใจของน้องสาวเธอ
ประยสย์มองไปที่ณิศาอย่างลึกซึ้ง
ในใจของณิศาเต็มใจอยู่แล้ว แต่ก็แสดงใบหน้าเขินอายและไม่กล้า โดยถามพี่สาวของเธอว่า: “พี่คะ หนูไปดูหนังกับประยสย์ได้จริงๆเหรอคะ”
“ณิศา เธอไม่ค่อยออกไปไหน ตอนออกไปเธอก็มักจะไปแค่ร้านกาแฟ มันจำเจเกินไป ถ้าเหมาะสมเธอก็สามารถเปลี่ยนสถานที่ได้ ถึงพี่จะไม่ไม่เห็นด้วยเรื่องเธอกับคุณประยสย์ แต่ฉันเชื่อใจในนิสัยของคุณประยสย์”
ประยสย์บ่นในใจ: พี่สาวภรรยาในอนาคตจะชื่นชมหรือดูแคลนเขากันแน่
“ถ้าอยากไป พี่สาวก็ไม่ขัดข้อง”
กิติยารู้สึกว่าน้องสาวของเธออายุยี่สิบสี่ห้าปีแล้ว ซึ่งเธอไม่สามารถปกป้องเธอไว้ข้างหลังได้อีกต่อไป เธอควรปล่อยให้เธอออกไปติดต่อกับผู้คนและสิ่งต่างๆมากขึ้น
ถ้าเป็นผู้คนอื่น เธออาจจะเป็นห่วง ทว่าประยสย์ เธอไว้ใจมาก
ณิศายิ้ม “ถ้าอย่างนั้นหนูจะไปดูหนังกับคุณประยสย์ คุณประยสย์ซื้อตั๋วหนังอะไร”
“แนวสืบสวนมีสยองขวัญบ้าง”
ประยสย์ยื่นตั๋วหนังให้พี่น้องทั้งสองคนดู
ด้วยนิสัยของณิศาแล้ว เธอคงไม่ชอบหนังรักใคร่ๆพวกนั้น ดังนั้นเขาถึงซื้อตั๋วหนังแนวสืบสวนมีสยองขวัญบ้าง ซึ่งหนังแบบนี้ ตัวเขาเองก็ชอบ”
ณิศาได้เห็นชื่อและบทนำของภาพยนตร์แล้ว และเธอก็สนใจจริงๆ
ณิศารู้สึกว่าเมื่อกี้ที่เธอชื่นชมประยสย์ไปนั้นมันเร็วเกินไป ผู้ชายคนนี้ซื้อตั๋วหนังสยองขวัญจริงๆ น้องสาวของเธอขวัญอ่อนมาก เมื่อดูหนังแบบนี้เธอจะไม่ตกใจจนซุกเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของปรยสย์เหรอ”
ประยสย์นี่คิดจะเอาเปรียบน้องสาวเธออย่างเปิดเผย
แต่เธอไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ได้
“หนังเรื่องนี้หลังจากอ่านเนื้อหาแล้ว หนูอยากจะดูค่ะพี่คะ งั้นหนูขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบน แล้วไปดูหนังกับคุณประยสย์นะคะ”
กิติยาพยักหน้าด้วยความยากลำบาก
มีความรู้สึกเหมือนหยิบก้อนหินทับขาตัวเอง
ณิศาใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ
เมื่อเห็นว่าน้องสาวของเธอห่อตัวแน่นหนา กิติยารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
แต่เธอก็ยังเตือนน้องสาวของเธอเป็นการส่วนตัวว่า: “ถ้าหนังน่ากลัวมาก เธอก็ปิดตาอย่าไปมองจอ แบบนั้นก็ไม่กลัวแล้ว”
“พี่คะ หนูไม่ได้กลัว ฉันชอบดูหนังสยองขวัญค่ะ”
กิติยาผงะไปครู่หนึ่ง
เธอไม่เคยรู้จักน้องสาวของเธอเลยเหรอ?
ไม่ว่ากิติยาจะไม่เต็มใจแค่ไหน เธอก็ยังต้องมองดูประยสย์พาน้องสาวของเธอออกไปดูหนัง
เมื่อเธอส่งทั้งสองคนออกไป เธอได้ยินประยสย์พูดกับน้องสาวของเธอ: “มีของว่างที่เธอโปรดปรานมากมายเตรียมไว้ในรถ เพื่อให้เธอกินขณะชมภาพยนตร์ได้”
“พี่สาวของเธอเป็นพี่สาวที่ดีมาก”
ประยสย์เคารพพี่สาวภรรยาของเขามาก ไม่เพียงเพราะความสามารถของกิติยาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความรักและการปกป้องที่เธอมีต่อณิศา
เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองเสียชีวิต ณิศายังเด็กและกิติยาที่เป็นพี่สาวต้องรับภาระดูแลน้องสาว และดูแลณิศาอย่างดีไม่เคยปล่อยให้ณิศาถูกทำร้าย
กิติยาเป็นพี่สาวที่ดี
“นั้นแน่นอนอยู่แล้ว พี่สาวของฉันใจดีมาก เพื่อเธอและบ้านของพวกเธอ เธอพยายามอย่างหนัก ทว่าโชคดีที่พี่สาวฉันมีพี่ชเนนทร์ ซึ่งพี่ชเนนทร์ถอดทนและเข้าใจพี่สาวของฉัน อันที่จริง พวกเขาทั้งสองคนยังไม่เคยออกเดทอย่างเป็นทางการเลน พวกเขามักจะใช้อาหารมาพบปะและพูดคุยกัน”
“พี่สาวของฉันงานยุ่งกว่าพี่ชเนนทร์ จนบางครั้งก็ไม่มีเวลาคุยกับพี่ชเนนทร์เป็นเวลาหลายวัน แต่พี่ชเนนทร์ยังคงไม่ทอดทิ้งพี่สาวของฉัน ซึ่งหายากมาก ในความสัมพันธ์ของพวกเขา พี่ชเนนทร์ให้มากกว่า”
พี่สาวของเธอยุ่งเกินไปจริง
“พี่ชเนนทร์ยังบอกด้วยว่าถ้าเขามีลูกในอนาคต เขาจะเป็นคนเลี้ยงลูก จะไม่ให้พี่สาวของฉันต้องกังวล”
“จ้างพี่เลี้ยงก็ได้”
“พี่ชเนนทร์ไม่ไว้ใจแม่บ้านเลี้ยงเด็ก เขาคิดว่าเขาสามารถปลูกฝังความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูกได้โดยการดูแลด้วยตัวเอง”
ผู้ใหญ่ของตระกูลวาชัยยุงก็เคยบอกว่าจะช่วยดูแลเด็ก แต่ชเนนทร์ลยังคงยืนกรานที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลานกับปู่ย่าตายนั้นจริงจังมาก เพราะกังวลว่าพ่อกับแม่จะตามใจจนทำให้เด็กดื้อ
ประยสย์ได้ยินณิศาชื่นชมพี่เขยของเธอ เขาก็รีบแสดงความคิดเห็นโดยกล่าวว่า: “ถ้าเรามีลูกในอนาคต ฉันก็สามารถเป็นพ่อเลี้ยงเด็กได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลย”
ณิศายิ้มและพูดว่า: “มันยังอีกยาวไกลที่เราจะคุยกันเรื่องลูก ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”
เธอไม่มีงานที่จริงจัง แต่เขากลับเป็นผู้นำตระกูล ซึ่งยุ่งมาก และถ้าเขาแต่งงานมีลูกจริงๆ เธอสงสารเขา เธอจะไม่ให้เขาเป็นพ่อเลี้ยงเด็กหรอก”
ลูกของตัวเอง ตัวเองก็เลี้ยงเอง เธอจะได้สามารถสอนความสามารถในการปีนข้ามกำแพงให้พวกเขาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ประยสย์: ……ความสามารถในการปีนข้ามกำแพง! นี่คือจะสอนให้ลูกไม่ดีนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน